09 ธันวาคม 2562

ลักษณะของผู้นำ/ศิษยาภิบาลที่ “กระหายหาอำนาจ”

ในคริสต์ศตวรรษที่ 21 มีผู้นำ/ศิษยาภิบาล ส่วนหนึ่งที่ถวายตัวรับใช้พระเจ้าท่ามกลางประชากรของพระองค์ และในสังคมโลกอย่างสัตย์ซื่อ แต่ก็มีผู้นำ/ศิษยาภิบาลอีกหลายต่อหลายคนที่แสวงหา “อำนาจ” ส่วนหนึ่งแสดงออกมาชัดเจนว่า “กระหายหาอำนาจ” มากกว่าการรับใช้   โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อวงการคริสตจักรในประเทศไทยของเรานำเอาระบบการเมืองประชาธิปไตยแบบเลือกตั้ง (ที่สกปรก ไร้คริสต์จริยธรรมมาใช้ในวงการคริสตจักร) ที่ส่อถึงการตกอยู่ใต้อำนาจของความบาปชั่วร้ายอย่างสิ้นเชิง

พระเจ้ามอบหมายให้คริสตจักรทำพันธกิจรับใช้ในชุมชนสังคม มิใช้ให้คนของพระองค์มีอำนาจ   แต่ทรงมอบหมายให้ทำพันธกิจจากจิตวิญญาณการรับใช้ด้วยชีวิตแบบพระคริสต์ เพื่อตอบสนองต่อความจำเป็นต้องการในชีวิตของผู้คนในสังคม  

พระคริสต์เป็นแบบอย่างมากมายในเรื่องนี้ พระองค์ถ่อมลงเข้าถึงคนต่ำต้อย เล็กน้อย และคนชายขอบสังคม พระองค์ไปหาคนเหล่านี้เพื่อให้ชีวิตของพระองค์ เพื่อคนเหล่านี้จะมีโอกาสได้ชีวิตใหม่ในสังคม พระองค์ล้างเท้าให้สาวก มาตรฐานของ “ผู้นำ” ตามพระประสงค์ของพระคริสต์คือ “ใครต้องการเป็นใหญ่ในพวกท่าน ผู้นั้นต้องรับใช้พวกท่าน”  (มาระโก 10:43;  ยอห์น บทที่ 13)

ผู้นำที่แสวงหาอำนาจ แสวงหาความสำเร็จตามสิ่งที่ตนเองต้องการ  ซึ่ง โจเซฟ เมทเทร่า  ได้แจงลักษณะของผู้นำ/ศิษยาภิบาลที่ “กระหายหาอำนาจ” ไว้ 11 ลักษณะใหญ่ ๆ คือ

1. ผู้นำ/ศิษยาภิบาลที่ “กระหายหาอำนาจ” จะติดต่อเกี่ยวข้องกับคนที่มีอำนาจเท่านั้น
ผู้นำและศิษยาภิบาลกลุ่มนี้จะใช้เวลาในงานสังคมอย่างมาก เพื่อแสวงหาคนที่จะสนับสนุนตนเองในการ “ไต่บันไดความสำเร็จ” ในสังคมและคริสตจักร พวกนี้ใช้คนอื่นเพื่อผลประโยชน์แห่งตนมากกว่ารับใช้คนอื่น

2. ศิษยาภิบาล/ผู้นำที่ “กระหายหาอำนาจ” จะพูดถึงตนเอง และ ความสำเร็จของตน
ผู้นำกลุ่มนี้ มักจะพูดถึงความสำเร็จของตนเอง ไม่ว่าฐานะทางเศรษฐกิจ ตำแหน่งในสังคม เช่นเป็นกรรมการมากมาย หรือได้ปริญญาเอกจากที่โน่นที่นี่ ที่เขาพูดเลอะเทอะมากมายเช่นนี้เพียงเพื่ออวดว่า ตนเป็นผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต

3. ผู้นำ/ศิษยาภิบาลที่ “กระหายหาอำนาจ” จะแข่งขันกับผู้นำ/ศิษยาภิบาลคนอื่น ๆ
ผู้นำกลุ่มนี้จะเบียดเพื่อนที่ทำงานอาชีพเดียวกันให้ตกขอบถ้าไม่ใช่พวกของตนเองหรือสนับสนุนตนเอง และ หาทางให้คนของตนเองมีตำแหน่งเพื่อมีอำนาจมาหนุนเสริมความยิ่งใหญ่ของตน    ผู้นำกลุ่มนี้ดูด้อยวุฒิภาวะผู้นำและความเชื่อ

4. ผู้นำ/ศิษยาภิบาลที่ “กระหายหาอำนาจ” ยอมตนเป็นทุกอย่างสำหรับทุกคน
ผู้นำกลุ่มนี้มี “ภาวะผู้นำแบบกิ้งก่า” ปรับเปลี่ยน(สี)ตนเองให้เข้ากับสภาพแวดล้อม ไม่คำนึงถึงความจริงและความถูกต้อง ที่ทำเช่นนี้เพื่อให้คนกลุ่มต่าง ๆ หนุนตนเองให้มีอำนาจ

5. ผู้นำ/ศิษยาภิบาลที่ “กระหายหาอำนาจ” ขับเคลื่อนด้วยแรงบันดาลใจจากความเห็นแก่ตัว แทนที่จากแรงบันดาลใจที่จะรักเมตตาคนอื่น
ผู้นำกลุ่มนี้ทำงานหนักครับ แต่ที่ทุ่มเททำงานหนักก็เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายอันสูงสุดในชีวิตของเขาคือ เขาอยู่ในอำนาจ  มิใช่เพื่อตอบสนองความจำเป็นต้องการในชีวิตของผู้คน

6. ผู้นำ/ศิษยาภิบาลที่ “กระหายหาอำนาจ” ชอบที่จะให้คนอื่นยกย่องสรรเสริญตนเอง
ผู้นำกลุ่มนี้ชอบที่จะมีคนมายกยอปอปั้นตนเอง พวกนี้เป็นคนที่มีความมั่นใจในตนเองต่ำ เขาต้องหาสิ่งที่มาป้อนความมั่นใจของตนเองเสมอ เพื่อมั่นใจว่าตนยังจะมีอำนาจอยู่ และถ้าเกิดความไม่เชื่อมั่นคนของตนคนใดคนหนึ่งก็จะรีบ “เขี่ย” ออกเพื่อตนเองจะปลอดภัย

7. ผู้นำ/ศิษยาภิบาลที่ “กระหายหาอำนาจ” มักเป็นคนที่ยอมประนีประนอมผ่อนปรนคุณค่าทางคริสต์จริยธรรม
เรื่องความถูกผิดสำคัญน้อยกว่าการที่ตนจะมีอำนาจ ผู้นำกลุ่มนี้ยอม “ซุกความเชื่อ” ไว้เพื่อที่ตนจะได้ตำแหน่งอำนาจที่พึงประสงค์

8. ผู้นำ/ศิษยาภิบาลที่ “กระหายหาอำนาจ” มักมีความจำกัดที่จะรักษาสุขภาวะส่วนตัวและครอบครัว
ในแต่ละวันผู้นำกลุ่มนี้ไม่มีเวลาที่ตนจะใช้ในการสะท้อนคิด ใคร่ครวญ และไม่มีเวลาที่จะฟื้นฟูจิตวิญญาณ ความนึกคิด และอารมณ์ของตนเอง ไม่ต้องพูดถึงคนในครอบครัว ยิ่งไม่มีเวลาใหญ่

9. ผู้นำ/ศิษยาภิบาลที่ “หิวกระหายอำนาจ” จะจงรักภักดีต่อพรรค-พวกตนเองเท่านั้น
ผู้นำกลุ่มนี้ เป็นผู้นำที่หลงตนเอง เขาต้องการที่จะควบคุมทุกสถานการณ์ คนในองค์กร ทั้งในปัจจุบัน และ อนาคต นั่นหมายความว่าเขาต้องการให้คนในองค์กรจงรักภักดีต่อตนเท่านั้น   แล้วเลี่ยงไม่ได้ว่า คนวงในของตนส่วนหนึ่งก็เป็นลูกน้องแบบ “เลียแข้งเลียขา” คนพวกนี้ก็รู้อยู่กับอกว่า เป็นผลประโยชน์ต่างตอบแทน 

10. ผู้นำ/ศิษยาภิบาลที่ “กระหายหาอำนาจ” แสวงหาแต่การก้าวสูงขึ้นไปในองค์กรมากกว่าแสวงหาช่องทางในการรับใช้ให้กว้างไกลขึ้น
การทุ่มเทเดินทางไปที่ต่าง ๆ ขององค์กรจึงมิได้ไปเพื่องานของการทรงเรียกอย่างแท้จริง แต่เพื่อที่จะมีโอกาสปรากฏตัว สร้างบารมีให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น เขาทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจก่อน  และเมื่อมีอำนาจแล้วเงินทองก็จะตามมาเอง

11. ผู้นำ/ศิษยาภิบาลที่ “กระหายหาอำนาจ” มีชีวิตภายในที่ตื้นเขินเปราะบาง
ผู้นำกลุ่มนี้ลึก ๆ ไม่กล้าที่จะเปิดใจของตนแก่พระวิญญาณบริสุทธิ์ให้เข้าไปตรวจสอบ เพราะเขากลัวที่จะพบแรงบันดาลใจที่แท้จริงในชีวิตของตน ผู้นำกลุ่มนี้ไม่ค่อยมีชีวิตแห่งการอธิษฐานใคร่ครวญ และที่อ่านพระคัมภีร์ก็เพื่อเตรียมเทศนา และที่อันตรายอย่างยิ่งคือ ลึก ๆ แล้วพวกนี้ต้องการให้(ใช้)พระเจ้าทำอย่างที่ตนเองต้องการ แทนที่จะมอบกายถวายชีวิตให้พระเจ้าใช้ตามพระประสงค์

แล้วในองค์กร ในคริสตจักรของเรา ปัจจุบันเรามีผู้นำ/ศิษยาภิบาลแบบนี้มากน้อยแค่ไหน? เป็นผู้นำในระดับไหน? ที่ต้องระวังอย่างมากคือ นี่ไม่ใช่เป็นเรื่องผู้นำกับพระเจ้าเท่านั้น แต่ผู้นำแบบนี้กำลังตกอยู่ใต้อำนาจของมารร้าย ที่คนในคริสตจักร และ คนในองค์กรของเราต้องอธิษฐานขอกำลังจากพระเจ้าที่จะรับมือกับอำนาจชั่วเหล่านี้
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น