01 มีนาคม 2554

กุญแจสู่ความบริสุทธิ์และสันติสุข

ท่านในฐานะบุตรของพระเจ้า จงเข้าใกล้พระองค์
การสัมพันธ์สัมผัสพระองค์จะเป็นยารักษาความป่วยไข้ทั้งหลายในชีวิตของท่าน

จงจำไว้ว่า สัจจะความจริงนั้นมีหลายด้าน
จงมีใจรักที่อ่อนโยนและจงอดทนต่อผู้ที่ไม่เห็นสัจจะอย่างที่ท่านเห็น

การที่ท่านสามารถแยกแยะความจริงในชีวิต
ย่อมเป็นกุญแจนำไปสู่ความบริสุทธิ์และสันติสุข และ
การที่ท่านแยกแยะได้นั้นก็ด้วยการช่วยเหลือจากองค์พระผู้เป็นเจ้าที่มีต่อท่าน

จงเรียนรู้จากชีวิตของพระองค์มากยิ่งขึ้น
ดำเนินชีวิตอยู่ต่อหน้าพระองค์เสมอ
จงนมัสการพระองค์ในทุกขณะจิต

องค์พระผู้เป็นเจ้าได้กล่าวในสวนเกธเสมนีว่า
“...ถ้าเป็นได้ขอให้ถ้วยนี้เลื่อนพ้นไปจากข้าพระองค์เถิด...” (มัทธิว 26:39)
พระคริสต์ไม่ได้บอกว่า ไม่มี “ถ้วย” แห่งความทุกข์โศกที่จะต้องดื่ม

พระคริสต์ถูกเฆี่ยน ถ่มน้ำลายรด แล้วถูกตรึงบนกางเขน และ
บนกางเขนพระคริสต์พูดว่า
“โอพระบิดาเจ้าข้า ขอโปรดอภัยโทษเขาเพราะว่าเขาไม่รู้ว่าเขาทำอะไร” (ลูกา 23:34)
พระคริสต์ไม่ได้พูดว่า พวกเขาไม่ได้กระทำผิด

เมื่อเปโตร สาวกของพระคริสต์ แนะนำให้พระองค์หนีไปจากกางเขน
พระคริสต์พูดว่า “อ้ายซาตาน จงไปให้พ้น” (มาระโก 8:33)

เมื่อสาวกของพระคริสต์ไม่สามารถที่จะรักษาเด็กที่เป็นลมบ้าหมู
พระองค์กล่าวว่า “แต่ผีชนิดนี้ไม่เคยถูกขับออก เว้นไว้โดยการอธิษฐานและการอดอาหาร” (มัทธิว 17:21)
พระองค์ไม่ได้พูดว่า “เจ้านึกเอาเองว่าเด็กนั้นไม่สบาย ไม่มีอะไรผิดปกตินี่”

เมื่อพระคัมภีร์กล่าวว่า
“พระเนตรของพระองค์บริสุทธิ์เกินที่จะทอดพระเนตรการชั่ว” (ฮาบากุก 1:13)
นั่นหมายความว่า พระเจ้าจะไม่ใส่ร้ายประชากรของพระองค์
พระเจ้าทรงเห็นสิ่งดีในประชากรของพระองค์ด้วย

แต่จงจำไว้ว่า “ครั้นพระองค์เสด็จมาใกล้เห็นกรุงแล้ว ก็กันแสงสงสารกรุงนั้น”(ลูกา 19:41)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น