เมื่อถึงเทศกาลคริสต์มาสทุกปีจะต้องมีบทความ ข้อเขียน
หรือ
เสียงบ่นจนกระทั่งเสียงด่าตำหนิว่า
อิทธิพลกระแสนิยมในสังคมเข้ามาแทรกซึมบ่อนเซาะทำลายความหมายที่แท้จริงของเทศกาลคริสต์มาส แล้วก็กล่าวหาพวกห้างใหญ่ ๆ เดอะมอลล์ทั้งหลายว่า นำเอาเทศกาลของคริสต์ศาสนาไปทำมาหากิน กล่าวหาพวกคลับพวกบาร์ ว่านำเอาเทศกาลคริสต์มาสไปปู้ยี่ปู้ยำจนเสียหายคุณค่าและความหมาย นี่ยังไม่ได้รวมไปถึง อาบอบนวดที่เอาซานต้ามาลงอ่างแช่น้ำร้อน
แล้วนวดให้หายปวดเมื่อยหลังจากเดินทางไกลรอบโลกแจกของขวัญแก่เด็ก ๆ ที่เขียนจดหมายไปขอ
ที่คริสตชนบ่นด่าเช่นนี้จริง ๆ แล้วพวกเขาต้องการสื่อสารเรื่องอะไรกันแน่?
ที่คริสตชนต้องออกมาด่าทอต่อว่ากระแสสังคมเช่นนี้ในเรื่องคริสต์มาสเพราะ พวกห้างร้าน
สถานบันเทิงและธุรกิจ นอกจากพวกนี้ใช้เทศกาลคริสต์มาสเป็น “อีเวนท์”
ในการทำธุรกิจสร้างรายได้ของเขาแล้ว
คริสตชนกลุ่มนี้มักถามว่า ทำไมไม่ใช้คริสต์มาสในความหมายที่ถูกต้อง ทำไมต้องมาบิดเบือนความหมายของคริสต์มาส นี่คือสิ่งที่สร้างความหงุดหงิดกังวลของคริสตชนกลุ่มใหญ่
ๆ ใช่ไหม?
คริสตชนครับ...
แล้วท่านว่าอะไรคือความหมายที่ถูกต้องแท้จริงของวันคริสต์มาสล่ะครับ?
คำถามก็คือว่า... แล้วคริสตชนได้สื่อสารความหมายที่แท้จริงเรื่องคริสต์มาสแก่คนกลุ่มเป้าหมายในสังคมที่ยังไม่รู้ไม่เข้าใจถึงความหมายที่แท้จริงของคริสต์มาสอย่างไรหรือไม่? และทำแค่ไหน? ด้วยจิตใจแบบไหน? ที่คนส่วนใหญ่ในสังคมไม่รู้ถึงความหมายที่แท้จริงแล้ววิ่งไปตามกระแสสังคม แล้วคริสตชนกล่าวหาคนกลุ่มนี้มันถูกต้องเป็นธรรมหรือไม่? แล้วที่ไปก่นด่าต่อว่าห้างร้าน สถานบันเทิงว่ามันชั่วมันเลว แล้วแก้ปัญหาไหม?
เมื่ออิทธิพล “ความมืด”
เข้ามาครอบงำสังคมและในคริสตจักร คริสตชนควรเลือกด่าความเลวร้ายของความมืด หรือ
ควรหาทางจุดเทียนเล็ก ๆ สักเล่มหนึ่ง
เพื่อให้เกิดแสงสว่าง
เพื่อเราเองและผู้คนจะได้มองเห็น
แม้จะเลือนรางก็ดีกว่ามืดมิดไม่เห็นอะไรเลย?
แต่ความเป็นจริงที่ประจักษ์ เราพบว่า
คริสตชนส่วนใหญ่เลือกที่จะ “ด่า” ความมืดครับ!
(ง่ายดี!)
ในขณะที่พระเยซูคริสต์บอกให้คริสตชนเป็นความสว่างของโลก แต่คริสตชนกลับไปบ่นด่าความมืดแทนที่จะเป็นความสว่างตามที่พระคริสต์ประสงค์!
แท้จริงแล้วคริสตจักรมีโอกาสมีเวลาปีละ 11 เดือน (มกราคม-พฤศจิกายน) หรือ ปีละ 335 วัน ที่จะเตรียม
ที่จะสื่อสารความจริงพระกิตติคุณเรื่องคริสต์มาสแก่สังคม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในสังคมที่อยู่รอบคริสตจักร ที่อยู่ล้อมรอบสมาชิกคริสตจักร ทั้งในที่ตั้งครอบครัว ที่ทำงาน
การพบปะกันในชุมชน
หรือการทำงานเพื่อชุมชนร่วมกัน
สำหรับวิธีการที่คริสตจักรจะสื่อสารถึงความหมายของพระกิตติคุณในวันคริสต์มาสนั้นมีหลากหลายวิธีที่คริสตจักรน่าจะทำได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ บริบทของชุมชน หรือ
สถานที่นั้น ๆ
และที่สำคัญเป็นวิธีการที่เหมาะสมและสอดคล้องกับศักยภาพ ความสามารถ หรือ
ทักษะของสมาชิกในคริสตจักรแต่ละคนแต่ละกลุ่ม
- ในการสื่อสารสาระความหมายของข่าวดีในวันคริสต์มาสแก่ผู้คนในสังคม โดยเฉพาะที่ยังไม่รู้เรื่องราวของคริสตชนนั้น ไม่ควรเน้นเอกสารเช่นใบปลิว คำพูดที่โน้มน้าว หรือ การเทศนา แต่เน้นการทำสิ่งที่มีคุณค่าและความหมายแก่ชีวิตของเพื่อนมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่กำลังเป็นประเด็นวิกฤติในชุมชนสังคมนั้น ๆ เพื่อผู้คนจะได้เข้าใจถึงคุณค่าความหมายของวันคริสต์มาสที่เป็นรูปธรรมผ่านกิจกรรมที่ทำ
- เลือกสถานที่ที่จะสื่อสารคุณค่าและความหมายของวันคริสต์มาสในที่ที่มีผู้คนผ่านหรือชุมนุมกันจำนวนมาก เช่น ในห้างใหญ่ สถานที่สาธารณะ หรือ ในที่ชุมนุมชน
- การสื่อสารผ่านกิจกรรมที่เป็นรูปธรรมเน้นกิจกรรมที่จะให้ผู้คนทั้งที่เป็นและไม่เป็นคริสตชนสามารถเข้ามีส่วนร่วมที่จะสร้างคุณประโยชน์แก่คนกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดในกิจกรรมนั้น เช่น การรณรงค์ทุนการศึกษาเพื่อเด็กด้อยโอกาส การเข้าถึงผู้สูงอายุที่ถูกละเลยทอดทิ้ง การรวมตัวเป็นกลุ่มเสริมหนุนการเรียนรู้ การทำการบ้าน และการดำเนินชีวิตของเยาวชนวัยรุ่นในชุมชนต่าง ๆ และชี้ชัดว่า ที่ทำเช่นนี้เพราะเป็นการกระทำตามความหมายที่แท้จริงของวันคริสต์มาส
- สื่อสารถึงคุณค่าและความหมายของวันคริสต์มาสผ่านสื่อในรูปแบบต่าง ๆ ด้วยวิธีการที่น่าสนใจ ท้าคิดท้าทำ และเชิญชวนเข้าร่วมในการสร้างคุณค่าและความหมายวันคริสต์มาสสำหรับกลุ่มชนเป้าหมายที่กำหนด
- ถ้าเป็นไปได้แล้ว ควรชวนสมาชิกคริสตจักรที่สนใจในเรื่องนี้ออกไปสำรวจ สังเกต และศึกษาในสถานที่ชุมนุมชนต่าง ๆ ที่มีความเป็นไปได้ที่เราจะใช้ในการสื่อสารความจริง ความหมายและคุณค่าในวันคริสต์มาสที่เป็นการกระทำ เป็นรูปธรรม ที่ประจักษ์และสัมผัสได้ แล้วมีโอกาสร่วมกันคิด ร่วมกันวางแผนว่าจะทำอย่างไรบน ทักษะ ความรู้ ความสามารถ และ ศักยภาพที่สมาชิกในคริสตจักรมีอยู่ ทั้งนี้เพื่อสมาชิกที่ร่วมกันคิดจะสามารถร่วมกันทำตามกำลังความสามารถที่ตนมีอยู่จริง
- อย่าลืมนะครับว่า นี่เป็นสิ่งที่เราจะทำตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน ที่กำลังจะมาถึงนี้ มิใช่โหมกระทำในเดือนธันวาคม “แบบไฟไหม้ฟาง” เพียงไม่กี่วันนะครับ
- กระบวนการสื่อสารสัจจะความจริงแห่งพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข่าวดีในวันคริสต์มาส เป็นโอกาสที่สมาชิกคริสตจักรจะเรียนรู้ และรับการเสริมสร้างใหม่จากพระเจ้า ให้สามารถดำเนินชีวิตท่ามกลางชุมชนคนที่ยังไม่เชื่อในพระเจ้าด้วยการหนุนเสริมให้เกิด “สันติสุขบนแผ่นดินโลกนี้” ตามคำพรที่ทูตสวรรค์นำถึงคนเลี้ยงแกะในวันที่พระคริสต์บังเกิดว่า “พระสิริจงมีแด่พระเจ้าในที่สูงสุด ส่วนบนแผ่นดินโลก สันติสุขจงมีท่ามกลางมนุษย์ทั้งหลายที่พระองค์โปรดปรานนั้น” (ลูกา 2:14 มตฐ.)
ส่วนคริสตจักรไหนจะเลือกวิธีการทำอย่างไรผมขอเสนอว่า ให้แต่ละคริสตจักรเตรียมการ ขับเคลื่อน แล้วแบ่งปันความคิด
ประสบการณ์ที่ได้รับจากการขับเคลื่อนบนสื่อออนไลน์นี้ดีไหมครับ? ในเวลานั้น
เราจะเห็นว่ามีวิธีการมากมายหลากหลายที่เราจะสื่อสารสัจจะความจริงคริสต์มาสแก่ผู้คนในสังคมชุมชน
และนี่คือพลังที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคมเรื่องคริสต์มาสได้อย่างดียิ่ง และเราสามารถเรียนรู้จากกันและกัน ตอนนั้นเราคงไม่ต้องมานั่ง “ด่าความมืด”
แต่เราจะ “จุดเทียน” ให้เกิดการ “ส่องสว่างแห่งวันคริสต์มาส” ในสังคมชุมชนโลกครับ
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น