04 ธันวาคม 2558

ความเชื่อที่กล้ากระทำและหลักแหลมด้วยพระปัญญา

โดย​ความ​เชื่อ เมื่อ​โม​เสส​เกิด​มา บิดา​มารดา​จึง​ซ่อน​ท่าน​ไว้​ถึง​สาม​เดือน
เพราะ​เห็น​ว่า​ท่าน​เป็น​เด็ก​น่ารัก และ​บิดา​มารดา​ของ​ท่าน​ไม่​ได้​กลัว​คำ​สั่ง​ของ​กษัตริย์​เลย
(ฮีบรู 11:23 มตฐ.)

เมื่อนางผดุงครรภ์ตัดสินใจไม่ยอมทำตามคำบัญชาแผนการที่ชั่วช้าเลวร้ายของฟาโรห์  ฟาโรห์เริ่มแผน 2 ของเขา   สั่งให้ฮีบรูบ้านใดก็ตามที่ทารกเกิดมาเป็นเพศชายให้นำไปทิ้งลงในแม่น้ำไนล์   โดยอนุญาตให้เลี้ยงทารกหญิงไว้ได้   น่าสังเกตว่า  แผนการที่ชั่วช้าเลวร้ายของนักปกครองประเทศมักจะใช้อำนาจเพื่อทำลายทุกสิ่งที่อาจจะเป็นภัยต่อตนเอง   ทำให้เราคิดถึงกษัตริย์เฮโรดที่ตื่นตระหนกอย่างมากเมื่อนักปราชญ์บอกเขาว่ากษัตริย์องค์ใหม่บังเกิดในอาณาจักรของตน   และเมื่อพบว่า นักปราชญ์ไม่ยอมทำตามคำสั่งของตนจึงจัดการแผนที่ชั่วร้ายกว่าเดิมคือ  สั่งให้ทหารฆ่าทารกที่อายุต่ำกว่า 2 ปีที่บ้านเบ็ธเลเฮ็มให้หมด

เหี้ยมแค่ไหน?   เพียงปกป้องความอยู่รอดปลอดภัยของตนเอง   แต่เด็กไม่รู้อะไรต้องสังเวยแผนการชั่วร้ายของเฮโรดไปกี่ชีวิต?

พ่อและแม่ของโมเสส   ผู้ที่มีบุตรอย่างน้อยมาแล้ว 2 คน (เท่าที่เรารู้จากพระคัมภีร์) คือ อาโรน ลูกชาย และ มิเรียม ลูกสาว   แล้วผู้เป็นภรรยาได้ให้กำเนิดลูกอีกคนหนึ่งในช่วงเวลาที่วิกฤติเป็น “เด็กชาย” เมื่อคลอดทารกออกมา  พระคัมภีร์บันทึกไว้ว่า “...เมื่อ​นาง​เห็น​ว่า​บุตร​น่า​รัก จึง​ซ่อน​ไว้​ถึง​สาม​เดือน และ​บิดา​มารดา​ของ​ท่าน​ไม่​ได้​กลัว​คำ​สั่ง​ของ​กษัตริย์​เลย”(อพยพ 2:2;  ฮีบรู 11:23 มตฐ.)  แท้จริงแล้ว แม่ทุกคนย่อมมองว่าทารกที่ตนให้กำเนิดน่ารักทั้งสิ้น   แต่ที่นี่นางกล้าหาญที่จะไม่ทำตามคำสั่งของฟาโรห์   และนี่คือ “ความเชื่อ” ที่เราสามารถเห็นและสัมผัสได้   เพราะเป็นความเชื่อที่เป็นพฤติกรรม ความเชื่อที่เป็นการกระทำ   ที่นางทำได้เช่นนี้เพราะ เธอวางใจในการปกป้องของพระเจ้า   แทนที่จะเกรงกลัวคำสั่งของผู้ปกครองประเทศ

เธอได้ซ่อนทารกเพศชายคนนี้ไว้ 3 เดือน   เธอคงทำทุกวิถีทางและทุกวิธีที่จะให้ทารกอยู่กับเธออย่างปลอดภัย   ให้ทารกได้ดูดนมแม่ให้เติบโตและแข็งแรง   เมื่อเห็นว่ายากที่ซ่อนบุตรชายต่อไปเธอได้ใช้ปัญญาของความเป็นแม่วางแผนขั้นต่อไป   เธอสานตะกร้าจากต้นกก  แล้ว “ยา​ด้วย​ยาง​มะ​ตอย​และ​ชัน”(ข้อ 3) แล้ววางแผนไปลอยตะกร้าทารกน้อยนี้ให้ผ่านไปบริเวณที่ธิดาฟาโรห์ลงมาสรงน้ำ   ส่วนมิเรียม พี่สาวเดินตามตะกร้าไปห่าง ๆ (ข้อ 4)   โดยผู้เป็นแม่เชื่อและคาดหวังว่า  จิตใจของสตรีที่มีจิตวิญญาณความเป็นแม่จะเกิดความเมตตาปรานีจากธิดาฟาโรห์

ความเชื่อที่เปี่ยมล้นด้วยปัญญา เป็นอีกมรดกหนึ่งที่โมเสสได้รับจากการที่เขาเกิดมาในยามวิกฤติแห่งการกดขี่นี้

ชนชาติอิสราเอลรู้สึกว่าตนตกลงในกับดักของอียิปต์  ตนตกเป็นเหยื่อของมหาอำนาจ   ตนไม่รู้จะหลบลี้หลีกหนีอำนาจที่ฉ้อฉลรุนแรงนี้ได้อย่างไร   ชีวิตและจิตใจต้องฉีกขาดภายใต้กรงเล็บของพวกนายงานอียิปต์   แต่สิ่งที่เขายังมีอยู่ในจิตวิญญาณของเขาคือความหวัง   พวกเขาหวังในพระสัญญาของพระเจ้าที่ทรงมีต่อบรรพบุรุษของเขา  อับราฮาม อิสอัค และ ยาโคบ  ที่จะเป็นพระพรชั่วลูกชั่วหลาน

ความเชื่อที่เป็นการกระทำและอุดมด้วยปัญญาที่มีในตัวแม่ได้ซึมซับเข้าในชีวิต ความคิด จิตสำนึกของโมเสส   ความฝันหวังถึงพระสัญญาแห่งเสรีภาพที่ทรงสัญญาต่อประชากรของพระองค์   แต่ถ้ามองในสายตามนุษย์จะคาดหวังอะไรได้อีกจากโมเสส   เมื่อชีวิตของโมเสสพลิกผันเข้าไปอยู่ในวังของฟาโรห์   เขาจะต้องถูกล้างสมองให้เป็นคนอียิปต์กลับมากดกี่ข่มเหงชนชาติอิสราเอลเป็นแน่

คำถามคือ  แล้วโมเสสจะรับมือจัดการอย่างไรกับโอกาสพิเศษในชีวิตของเขา   เขาคิดอย่างไรกับสิทธิพิเศษเหนือกว่าคนอิสราเอลเผ่าพันธุ์ของตน   เขาจะทำอย่างไรกับผลประโยชน์มากมายที่รอเขาในชีวิตข้างหน้า  ในที่สุดโมเสสจะยืนเคียงข้างกับพวกมีอำนาจกดขี่ชนชาติอิสราเอลหรือไม่  หรือ เขาจะตัดสินใจเลือกที่จะอยู่เคียงข้างกับชนชาติอิสราเอลผู้ถูกกดขี่ในเวลานั้น

นั่นเป็นสถานการณ์ชีวิตของเราท่านแต่ละคนจะต้องเผชิญหน้าในชีวิตประจำวันของเรา   แล้วเราท่านจะเลือกเช่นไร   เราท่านหนีไม่พ้นที่จะต้องตัดสินใจเลือกสิ่งที่ข้างหน้าเรา   เราจะเลือกผลประโยชน์ที่วางรออยู่ข้างหน้าเรา   เราจะตัดสินใจงับเหยื่อที่อำนาจแห่งความชั่วร้าย “หย่อน” ลงหน้าเรา  หรือเราจะตัดสินใจด้วยพระปัญญาที่จะเลือกเคียงข้างกับประชาชนผู้เสียเปรียบและถูกกดขี่  

วันนี้  ในช่วงเทศกาลเตรียมรับเสด็จ   เป็นเวลาที่เราแต่ละท่านต้องตัดสินใจว่าจะฝังตนเองในพระราชวังที่สมบูรณ์พูนสุขสำหรับเรา   หรือจะตัดสินใจออกจากวังมาอยู่ในกระท่อมของพระคริสต์ที่อยู่ท่ามกลางชีวิตประชาชนที่ไร้ซึ่งอำนาจและความอุดมสมบูรณ์  และถูกฉกชิงทำร้ายคุณค่าในความเป็นมนุษย์แห่งพระฉายาในตัวเขา?

อย่าลืมนะครับ   ความเชื่อเป็นเรื่องของความหวังที่ไว้วางใจพระเจ้า ไม่ว่าสถานการณ์ชีวิตที่เรากำลังเผชิญอยู่จะเป็นอย่างไร  เราต้องทุ่มทั้งชีวิตกระทำเยี่ยงพระคริสต์ด้วยพระกำลังจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ ทุ่มทั้งชีวิตด้วยสุดจิตสุดใจสุดกำลังความคิดและปัญญาที่มาจากพระปัญญาของพระเจ้าด้วยครับ!

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น