บทสะท้อนย้อนคิดเมื่อกำลังจะสิ้นสุดปี
ค.ศ. 2015
ผมรู้อยู่ในใจนะครับว่า
การที่จะเป็นคนที่พระเจ้าใช้ได้นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่า ผมจะทำอะไร ผมจะทำอย่างไร
แต่ขึ้นอยู่กับว่า ผมมีชีวิตเช่นไรต่างหากที่เป็นทุนเริ่มต้นในการรับใช้พระเจ้า
ผมรู้ลึกในจิตใจตนเองว่า ความสำเร็จในชีวิตของผมขึ้นอยู่ว่า
ผมได้ทำตามพระประสงค์ของพระองค์ในชีวิตของผมหรือไม่อย่างไร และ
การที่ผมจะรู้ถึงพระประสงค์ของพระองค์ก็ขึ้นอยู่กับชีวิตของผมว่าติดสนิทแนบกับพระเจ้าหรือไม่แค่ไหน
เพราะสิ่งที่รู้และมีประสบการณ์ที่ได้รับจากพระองค์จะช่วยให้ผมตระหนักรับรู้ถึงพระประสงค์ของพระองค์
และการที่ผมจะทำตามพระประสงค์ของพระองค์ได้นั้นผมจะต้องได้รับการเปลี่ยนแปลงและเสริมสร้างชีวิตที่เป็นอยู่ขึ้นใหม่ให้เป็นอย่างพระคริสต์มากยิ่งขึ้นทุกวัน
เพื่อผมจะสามารถมองเห็น เข้าใจ และวิเคราะห์ออกได้ว่า
พระวจนะและพระราชกิจของพระเจ้านั้นตอบโจทย์ชีวิตและสถานการณ์รอบข้างที่ผมกำลังเผชิญอยู่อย่างไรบ้าง
และนี่คือจุดเริ่มต้นที่เปลี่ยนวิธีคิด
มุมมอง และความตระหนักเข้าใจของผมใหม่ในพระประสงค์ของพระองค์
เพื่อสร้างให้ผมสามารถรับใช้พระองค์ตรงตามพระประสงค์ของพระเจ้าได้
ในพระธรรมโรม 8:28-29 ได้สรุปเรื่องพระประสงค์ของพระเจ้าในแต่ละตัวคนไว้ว่า...
28 เรารู้ว่าเหตุการณ์ทุกอย่างร่วมกันก่อผลดีแก่คนที่รักพระเจ้า
คือแก่คนทั้งหลายที่พระองค์ทรงเรียกตามพระประสงค์ของพระองค์ 29
เพราะว่าทุกคนที่พระองค์ได้ทรงเลือกไว้แล้ว พระองค์ทรงกำหนดไว้ก่อนให้เป็นตามพระฉายาแห่งพระบุตรของพระองค์
เพื่อพระบุตรนั้นจะได้เป็นบุตรหัวปีท่ามกลางพี่น้องจำนวนมาก (โรม 8:28-29 มตฐ.)
ประเด็นสำคัญในพระธรรมตอนนี้มีดังนี้
พระเจ้าทรงมีพระประสงค์ที่แน่นนอนและชัดเจนสำหรับแต่ละคน พระธรรมตอนนี้บอกชัดว่า “พระองค์ทรงเรียก(แต่ละคน)ตามพระประสงค์”
พระองค์ต้องการที่จะทำพระราชกิจในชีวิตของแต่ละคน
เพราะพระประสงค์ของพระเจ้าเราจึงได้รับการทรงเปลี่ยนแปลงให้มีชีวิตที่เป็นเหมือนพระเยซูคริสต์
นี่ก็กล่าวอย่างชัดเจนในพระธรรมตอนนี้ว่า
“พระองค์ทรงกำหนดไว้ก่อนให้เป็นตามฉายาแห่งพระองค์” กล่าวคือพระเจ้าต้องการเปลี่ยนชีวิตที่เราเป็นอยู่ให้เป็นชีวิตเหมือนพระคริสต์
พระองค์ทรงกระทำพระราชกิจแห่งการเปลี่ยนชีวิตของเราท่าน คนรับใช้ของพระองค์
ให้มีชีวิตเป็นเหมือนพระคริสต์มากยิ่งขึ้นทุกวัน
พระเจ้าทรงตั้งพระทัยแน่วแน่ในพระประสงค์ของพระองค์ ในพระคัมภีร์ตอนนี้ใช้คำที่แรงชัดคือ
“พระองค์ทรงกำหนดไว้ก่อน” หมายความว่า
ไม่ว่าเราจะตกอยู่ในสภาพชีวิตเช่นไร
พระเจ้าจะทรงกระทำพระราชกิจตามวิถีทางของพระองค์เพื่อเปลี่ยนแปลงและเสริมสร้างให้เรามีชีวิตที่เป็นเหมือนพระคริสต์มากยิ่งขึ้น
พระองค์ทรงกระทำพระราชกิจนี้อย่างไม่ย่อท้อ บากบั่น
และพากเพียร
อะไรก็ตามที่เป็นน้ำพระทัยและพระประสงค์ของพระองค์แล้ว พระองค์จะทรงกระทำให้บรรลุสำเร็จ
อิสยาห์ 46:9ข-10
9 .... เราเป็นพระเจ้า
และไม่มีใครเป็นเหมือนเรา
10 ผู้แจ้งตอนจบ(เป้าหมายปลายทาง)ให้ทราบตั้งแต่เริ่มต้น
และแจ้งสิ่งที่ยังไม่ได้ทำนั้นให้ทราบตั้งแต่อดีตกาล(เริ่มต้น)
ทั้งกล่าวว่า
‘แผนงานของเราจะยั่งยืน
และเราจะทำทุกสิ่งตามความประสงค์ของเรา’
เราท่านต้องตระหนักและจำไว้เสมอว่า
พระเจ้าทรงเป็นผู้ที่ตั้งพระทัยแน่วแน่ในพระประสงค์ที่ชัดเจนของพระองค์
ด้วยเหตุนี้พระองค์จึงทรงมุ่งมั่นและยืนหยัดในแผนงานแห่งการเปลี่ยนแปลงและสร้างชีวิตของเราแต่ละคนให้เป็นเหมือนพระคริสต์มากยิ่งขึ้นทุกวัน เพื่อเราจะเป็นคนหนึ่งที่พระองค์ทรงใช้ทำพระราชกิจตามเป้าประสงค์ที่กำหนดไว้ให้ลุล่วงสำเร็จตามที่พระองค์ทรงกำหนดไว้แล้ว
พระประสงค์สูงสุดของพระเจ้า
คือการให้ความหมายแก่ทุกสถานการณ์ที่เผชิญในชีวิต ในโรม 8:28 คำว่า
“เหตุการณ์ทุกอย่าง” นี้หมายถึงทั้งเหตุการณ์ที่ดี
และรวมถึงสถานการณ์ที่แย่เลวร้ายด้วยเช่นกัน
และพระธรรมตอนนี้บอกแก่เราด้วยว่า
แม้ในเหตุการณ์วิกฤติสุด ๆ ในชีวิตของเรา หรือ
ในเหตุการณ์ที่เราต้องสูญเสียครั้งใหญ่หลวงในชีวิต หรือโศกนาฏกรรมใด ๆ พระเจ้าทรงอยู่ที่นั่นที่จะช่วยให้เราค่อย
ๆ เข้าใจถึงความหมายในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น
และนี่คือการที่ได้รับการประเล้าประโลมใจจากพระเจ้าโดยตรง
“เหตุการณ์ทุกอย่าง”
ในที่นี้หมายถึงทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา ไม่ว่าจะดีหรือเลวร้าย ที่บังเกิดขึ้น ปรากฏขึ้น
เพื่อใช้เป็นโอกาสในการที่พระเจ้าใช้เปลี่ยนแปลงและเสริมสร้างชีวิตของเราขึ้นใหม่
พระเจ้าทรงกระทำพระราชกิจของพระองค์ในชีวิตของเราผ่านสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เราต้องเผชิญ
เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงและสร้างเสริมเราขึ้นใหม่ให้เป็นเหมือนพระคริสต์มากยิ่งขึ้น
ๆ ดังนั้น
แม้เมื่อใดก็ตามที่ชีวิตของเราต้องประสบพบเจอกับเหตุเลวร้าย เราจะไม่ประหวั่นพรั่นพรึง วุ่นวายใจ สับสน
หนี และท้อแท้ต่อไป เพราะเรารู้แล้วว่าในเวลานั่นพระเจ้าอยู่กับเราที่นั่น สำคัญยิ่งกว่านั้น
เป็นเวลาที่พระเจ้าจะทรงเปลี่ยนแปลงและเสริมสร้างเราขึ้นใหม่ให้มีลักษณะของผู้รับใช้พระเจ้าที่เป็นเหมือนพระคริสต์มากยิ่ง
ๆ ขึ้นไป
พระประสงค์ของพระเจ้าเป็นสิ่งดีมีพระพรในชีวิตของเรา
ไม่ว่าเราจะย่างก้าวเข้าสู่สถานการณ์ที่เลวร้ายเช่นไรแบบไหน พระเจ้ามีพระประสงค์ให้เกิด “สิ่งดี ก่อเกิดผลดี” ขึ้นในชีวิตของเรา ถึงแม้มิใช่ทุกสถานการณ์เป็นเหตุการณ์ที่ดีที่พึงประสงค์เสมอไป การสูญเสียชีวิต โศกนาฏกรรม
ความเจ็บป่วยรุนแรง ภัยพิบัติหายนะ และเหตุการณ์ที่ประหวั่นพรั่นพรึงต่าง ๆ
พระเจ้าไม่ได้มองว่าเหตุการณ์เหล่านี้เป็นเหตุการณ์ที่ดี เป็นสิ่งที่ดี
ในสายพระเนตรของพระองค์ แต่พระเจ้าสัญญาว่า
สิ่งดีสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกสถานการณ์เมื่อเหตุการณ์นั้นเชื่องโยงสัมพันธ์กับพระประสงค์สูงสุดของพระเจ้า
พระเจ้าทรงสามารถทำให้เกิดสิ่งดีในสถานการณ์ชีวิตที่เลวร้ายที่เราประสบ
ด้วยการเปลี่ยนแปลงและเสริมสร้างเราขึ้นใหม่ให้เป็นเหมือนพระคริสต์มากยิ่งขึ้น เพื่อเราจะมีพลังที่จะกระทำ มีชีวิต ท่ามกลางสถานการณ์เลวร้ายให้เกิดสิ่งดีตามที่พระเจ้าประสงค์และอวยพระพร และนี่คือข่าวดีของพระคริสต์
ข่าวดีพระคริสต์ที่ตอบโจทย์ในชีวิตของเราในทุกสถานการณ์ และ ในปัจจุบันขณะ
เมื่อสะท้อนย้อนคิดผมพบสัจจะความจริงด้วยว่า
เมื่อคนอื่นตกอยู่ในสถานการณ์ชีวิตที่ย่ำแย่เลวร้าย
แล้วเราตั้งใจมุ่งมั่นอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับคนนั้น ผมพบว่า พระเจ้าทรงใช้เหตุการณ์นั้นที่จะเปลี่ยนแปลงและสร้างเสริมชีวิตผมขึ้นใหม่ให้เป็นเหมือนพระคริสต์มากยิ่งขึ้นด้วยครับ! มากกว่านั้น เพื่อนคนนั้นได้สัมผัสกับพระคริสต์ในวิกฤติชีวิตของเราด้วยครับ!
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น