ใครคือเจ้านายตัวจริงในชีวิต
พระคริสต์มิได้
“บ่มเพาะชีวิตสาวก” ด้วยคำเทศน์ คำสอน หลักข้อเชื่อ และ
การประกอบกิจในคริสตจักรเท่านั้น
แต่พระองค์ทรงใช้แบบอย่างการดำเนินชีวิตของพระองค์ พร้อมกับการกระตุ้นให้สาวกได้คิด
และท้าชวนให้เขาต้องตัดสินใจให้ปฏิบัติชีวิตสาวกของพระองค์ในชีวิตประจำวัน ในทุกบริบทสถานการณ์ชีวิต
ข้อเขียนตอนนี้เป็นตอนที่
5 ในบทความเรื่อง ถอดบทเรียนชีวิตที่พระคริสต์
“บ่มเพาะ” ในชีวิตสาวก
ชายหนุ่มดีใจที่ได้พบกับพระเยซูคริสต์แล้วสนทนาพูดคุยกับพระองค์ด้วยความจริงใจ เขาต้องการที่จะเป็นคนดีพร้อม และมีชีวิตนิรันดร์ เขาจึงมาถามพระเยซูว่าเขาจะต้องทำอย่างไร?
“ท่านอาจารย์
ข้าพเจ้าจะต้องทำความดีอะไรบ้าง จึงจะได้ชีวิตนิรันดร์?” พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “ท่านถามเราถึงสิ่งที่ดีทำไม? ผู้ที่ดีมีแต่ผู้เดียว ถ้าท่านต้องการจะเข้าสู่ชีวิตก็ให้ถือรักษาพระบัญญัติไว้”
คนนั้นทูลถามว่า
“คือพระบัญญัติข้อไหนบ้าง?” พระเยซูตรัสว่า
“‘ห้ามฆ่าคน ห้ามล่วงประเวณีผัวเมียเขา ห้ามลักทรัพย์ ห้ามเป็นพยานเท็จ จงให้เกียรติบิดามารดาของตน และจงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง’ ชายหนุ่มคนนั้นทูลพระองค์ว่า
“ข้าพเจ้ารักษาข้อเหล่านั้นทุกข้ออยู่แล้ว
ข้าพเจ้ายังขาดอะไรอีกบ้าง?” พระเยซูตรัสกับเขาว่า
“ถ้าท่านต้องการจะเป็นคนดีพร้อม
จงไปขายทรัพย์สิ่งของที่ท่านมีอยู่แจกจ่ายให้คนยากจน
แล้วท่านจะมีทรัพย์สมบัติในสวรรค์ และจงตามเรามา” เมื่อชายหนุ่มได้ยินถ้อยคำนั้นก็ออกไปเป็นทุกข์
เพราะเขามีทรัพย์สินจำนวนมาก (มัทธิว 19:16-22 มตฐ.)
ประเด็นในเรื่องนี้ มิได้ขึ้นอยู่กับว่า มีทรัพย์สินเงินทองมากน้อยแค่ไหน แต่อยู่ที่ว่า
ตนสามารถมีพลังอำนาจที่จะจัดการทรัพย์สินเงินทองเหล่านั้นอย่างไร แต่ไม่พอ
ต้องมากกว่านั้นครับ จะใช้อำนาจเพื่อจัดการใช้เงินทองความมั่งคั่งที่มีอยู่เพื่อตนเอง
หรือ เพื่อใคร?
ซึ่งปกติมักเป็นการใช้ทรัพย์สินเงินทองตามความปรารถนาแห่งตน
หรือเพื่อที่จะทำให้ทรัพย์สินเงินทองนั้นเพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น แต่พระคริสต์กลับมีมุมมองที่สวนทางกับโลกนี้ เพราะพระองค์มองว่า ทรัพย์สินเงินทองความมั่งมีที่ใครคนใดคนหนึ่งมีอยู่เป็นของประทานจากพระเจ้า
และพระประสงค์ที่พระเจ้าทรงประทานความมั่งคั่งแก่คนใดคนหนึ่งก็เพื่อที่คนนั้นจะเป็นตัวแทนของพระองค์ในการแจกจ่ายแบ่งปันความมั่งคั่งที่ได้รับจากพระเจ้า เพื่อดูแลเอาใจใส่ผู้คนอื่น ๆ มิใช่ด้วยเศษเสี้ยวที่เหลือ แต่ทั้งหมดเพื่อพระองค์
“ไม่มีใครเป็นข้าสองเจ้า บ่าวสองนายได้
เพราะว่าเขาจะชังนายข้างหนึ่ง และรักนายอีกข้างหนึ่ง
หรือเขาจะนับถือนายฝ่ายหนึ่ง และดูหมิ่นนายอีกฝ่ายหนึ่ง
ท่านทั้งหลายจะรับใช้พระเจ้าและเงินทองพร้อมกันไม่ได้” (มัทธิว 6:24 มตฐ.) เราบริหารจัดการเงินทองที่มีอยู่
หรือ เงินทองที่มีอยู่กลับมามีอำนาจจัดการชีวิตของเรา?
ตลอดวันนี้
ในฐานะสาวกของพระคริสต์ เมื่อเราจะใช้ทรัพย์สินเงินทองของเรา หรือ
ที่เรามีอำนาจจะใช้มัน
ให้เราใคร่ครวญถามตนเองก่อนว่า
เราใช้ทรัพย์สินเงินทองเหล่านั้นเพื่อตนเอง เพื่อชื่อเสียงของเรา เพื่อให้คนอื่นยอมรับเรา เพื่อเราจะมีตำแหน่งอำนาจ หรือเราจะใช้ทรัพย์สินเงินทองที่เรามีอยู่
หรือ ที่เรารับผิดชอบเพื่อให้เกิดชีวิตใหม่ในพระคริสต์?
และคงจะต้องถามว่า ที่เราลุกขึ้นกระหืดกระหอบมาทำงานกันเพื่ออะไร? เพื่อที่จะได้ทรัพย์สินเงินทองมาใช้? หรือ
เพราะงานคือพื้นที่โอกาสชีวิตที่เราจะสำแดงชีวิตสาวกพระคริสต์ และ
รับการทรงเสริมสร้างชีวิตของเราให้เป็นสาวกของพระองค์ในวันนี้มากยิ่งขึ้น?
เราสามารถจัดการและรับมือการใช้ทรัพย์สินเงินทองในชีวิตของเรา หรือ
เราจะใช้ทรัพย์สินเงินทองตามใจปรารถนาของเราเอง?
ถ้าเช่นนั้นเราคงต้องถามว่าใครคือ “เจ้านาย”
ตัวจริงที่บงการชีวิตประจำวันของเรา?
หมายเหตุ: บทเรียนชีวิตเชิงปฏิบัติทั้ง 6 ประการผู้เขียนจะเสนอต่อจากนี้ในทุกวัน ๆ ละ
1 ประการ ตลอดสัปดาห์นี้
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น