พระเยซูคริสต์มิได้เป็นเพียงพระผู้ช่วยให้รอดเท่านั้น แต่พระองค์เป็นเพื่อนสนิท ครูที่บ่มเพาะและวางรากฐานชีวิต พี่เลี้ยงที่เดินเคียงข้างสร้างเสริมพวกเขาให้เป็นคนรับใช้ที่พระบิดาจะใช้ได้ เป็นที่ปรึกษาที่กระตุ้นให้ต้องคิดใหม่
คิดนอกกรอบจากที่คิดกันในสมัยนั้น และ
ผู้ชี้แนะแก่สาวกที่พระองค์เดินเคียงข้างไปกับพวกเขาในชีวิตในช่วงเวลา 3 ปี
พระเยซูคริสต์มิเพียงสอนแต่ “บ่มเพาะชีวิต”
ของพวกสาวกด้วยการเป็นแบบอย่างชีวิตที่สาวกสามารถเห็นชัดด้วยตา สัมผัสได้ด้วยชีวิตของตนเอง และการเปลี่ยนแปลงเสริมสร้างชีวิตสาวกดังกล่าวจึงเป็นการเสริมสร้าง
และ เปลี่ยนแปลงลงถึงรากฐานแห่งชีวิต
คือจิตวิญญาณของสาวกแต่ละคน และ
นี่คือ “สิ่งสารพัดที่เรา(พระเยซูคริสต์)ได้สอนและสั่งพวกเจ้า(สาวก)ไว้แล้ว” และนี่คือพันธกิจที่คริสตชนทุกคนต้องรับผิดชอบ
“สานต่อ” จากพระราชกิจของพระเยซูคริสต์ตามพระมหาบัญชา และนี่คือ “แม่แบบ”
ของการสร้างสาวกที่พระคริสต์กระทำเป็นแบบอย่างแก่คริสตจักร
บทเรียนเชิงปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
6 ประการ ที่พระคริสต์
“บ่มเพาะ” ในชีวิตของสาวก
พระเยซูคริสต์มิเพียงแต่เป็น
“พระผู้ช่วยให้รอด”
แต่พระองค์ทรงเป็นเพื่อนสนิทของสาวก เป็นครู และ
พี่เลี้ยงที่เดินเคียงข้างไปกับสาวกในทุกสถานการณ์ชีวิตตลอดเวลา 3 ปีแห่งการทำพระราชกิจของพระองค์
พระองค์ทรงเป็น “พระเจ้าของคนข้างถนน”
ที่ใช้ชีวิคคลุกฝุ่นกับผู้คนยากไร้
คนต่ำต้อย
คนที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ
ถูกเหยียดหยาม ถูกลดค่า
คนที่ถูกตีตราว่าเป็นคนที่ไม่มีหัวนอนปลายตีน พระองค์มีชีวิตกับผู้คนที่ไม่มีโอกาสเข้าถึง
“พระเจ้าในพระมหาวิหาร”
พระองค์มีชีวิตที่สำแดงชัดเจนว่า พระองค์เป็น
“พระเจ้าของคนบาป”
พร้อมที่จะสัมผัสใกล้ชิดเคียงข้างกับคนบาป คนที่สังคมตีตราว่า “มลทิน” ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับพวกผู้นำชั้นสูงในศาสนาขณะนั้น
ที่พวกเขาเชื่อถือใน “พระเจ้าของคนดี”
พระเจ้าของคนมั่งคั่ง
พระเจ้าของคนที่ประกอบศาสนพิธีให้เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า(มากกว่าคิดและดำเนินชีวิตประจำวันให้เป็นที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้า) พระคริสต์ทรงนำพระเจ้าเข้าถึงชีวิตของ
“คนข้างถนน” ดังที่พระองค์สอนสาวกให้อธิษฐานว่า “...ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่ ในสวรรค์เป็นอย่างไร ขอให้เป็นเช่นนั้นในแผ่นดินโลก...”
ตลอดช่วงเวลาที่พระองค์ใช้ชีวิตกับสาวกของพระองค์ พระคริสต์ท้าทายและปรับแก้ “กรอบคิด วิธีคิด”
ของสาวก พระองค์ทรงใช้ความสงสัย ความไม่ชัดเจน
ความผิดพลาด
เป็นโอกาสในการสื่อสารสร้างการเรียนรู้และเปิดมุมมองใหม่ถึงเรื่องแผ่นดินของพระเจ้าที่มากกว่าความเข้าใจที่มีในสาวก พระองค์บ่มเพาะเสริมสร้างบุคลิกใหม่ นิสัยใหม่
ให้ค่อย ๆ “งอกงามขึ้น” ในชีวิตของสาวก
ซึ่งต่อมาภายหลังสิ่งเหล่านี้ได้ถูกนำมาถ่ายทอดถึงสัจจะชีวิตในคำสอนของพระคริสต์ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ และสิ่งเหล่านี้คือ “บทเรียนชีวิต”
ที่พระคริสต์สอนและบ่มเพาะสำหรับสาวกของพระองค์
จากการถอดบทเรียนชีวิตที่พระคริสต์ “บ่มเพาะ”
ในชีวิตสาวก พบว่ามีบทเรียนชีวิตเชิงปฏิบัติที่สำคัญ 6
ประการ
ที่คริสตชนปัจจุบันใช้ในการบ่มเพาะชีวิตการมีชีวิตประจำวันที่เป็นสาวกของพระคริสต์ ดังนี้...
หมายเหตุ:
บทเรียนชีวิตเชิงปฏิบัติทั้ง 6
ประการผู้เขียนจะนำเสนอต่อจากนี้ในทุกวัน ๆ ละ 1 ประการ ตลอดสัปดาห์นี้
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น