สำหรับพระเจ้า “จิตใจ” นั้นสำคัญยิ่ง
พระคริสต์มิได้
“บ่มเพาะชีวิตสาวก” ด้วยคำเทศน์ คำสอน หลักข้อเชื่อ และ
การประกอบกิจในคริสตจักรเท่านั้น
แต่พระองค์ทรงใช้แบบอย่างการดำเนินชีวิตของพระองค์ พร้อมกับการกระตุ้นให้สาวกได้คิด
และท้าชวนให้เขาต้องตัดสินใจให้ปฏิบัติชีวิตสาวกของพระองค์ในชีวิตประจำวัน ในทุกบริบทสถานการณ์ชีวิต
ข้อเขียนตอนนี้เป็นตอนที่
6 ในบทความเรื่อง ถอดบทเรียนชีวิตที่พระคริสต์
“บ่มเพาะ” ในชีวิตสาวก
8‘ชนชาตินี้ให้เกียรติเราแต่ปาก
ใจของพวกเขาห่างไกลจากเรา
(มาระโก 15:8 มตฐ. เทียบ อสย.
29:13; อสค. 33:31; มก. 7:6;)
9พวกเขานมัสการเราโดยเปล่าประโยชน์
เพราะเอากฎเกณฑ์ของมนุษย์มาสอนว่าเป็นพระดำรัสสอน(ของพระเจ้า)’” (มาระโก 15:9 มตฐ.
เทียบ มก. 7:6-7; คส. 2:18; คส. 2:20;
คส. 2:22;)
พระเยซูคริสต์กล่าวย้ำซ้ำเตือนสาวกของพระองค์เสมอว่า สิ่งที่ออกมาจากใจต่างหากคือตัวตนที่แท้จริงของคน
ๆ นั้น แผ่นดินของพระเจ้าเกิดขึ้นจากการที่จิตใจของผู้คนได้รับการเปลี่ยนแปลงให้มีคุณธรรม
และ ดำเนินชีวิตตามวิถีแห่งแผ่นดินของพระเจ้า และความคิด จิตใจและมุมมองของคน ๆ นั้นเองที่เป็นตัวกำหนดในการตัดสินใจในเรื่องต่าง
ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเขา
แต่ละคนต้องตัดสินใจว่า
เขาจะดำเนินชีวิตตามพระประสงค์ของพระเจ้า
หรือ จะดำเนินชีวิตตามใจปรารถนาของตนเอง
เขาต้องตัดสินใจว่าจะจมจ่อมอยู่ในโคลนตมแห่งอำนาจของความบาปชั่ว หรือ
จะตัดสินใจรับการกอบกู้จากพระคริสต์ให้ออกจากอำนาจแห่งความบาปผิดที่ครอบงำตนอยู่ เขาต้องตัดสินใจจะรับใช้พระเจ้าตามที่พระองค์ประสงค์
หรือ จะรับใช้ความอยากได้ใคร่มีของตนเอง
ดังนั้น การที่คริสตชนจะบอกว่าเขารักพระเจ้าไม่สามารถบ่งชี้ชัดได้ว่า
เขารักพระเจ้าจริงหรือไม่ หรือ มากน้อยแค่ไหน แต่พฤติกรรมที่แสดงออกมาในชีวิตประจำวัน
ในความสัมพันธ์ ในที่ทำงาน ในครอบครัว
หรือในชุมชนต่างหากที่เป็นผลสะท้อนชัดว่าจิตใจของคน ๆ นั้นเป็นเช่นไร จิตใจของเขารักพระเจ้า รักเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน หรือ เป็นเพียงการรักตนเองเท่านั้น
เราจะรู้ได้อย่างไรว่า
คนที่ถวายเงินทอง สิ่งของ มากมายว่าคน ๆ นั้นรักพระเจ้าหรือไม่? เพราะการให้หรือการถวายในรูปแบบต่าง ๆ อาจจะมีความปรารถนาที่ซ่อนเร้นในใจก็ได้ ดั่งที่พระคริสต์บอกว่า คนมั่งมีที่นำเงินมาถวายพระเจ้าเป็นกระสอบก็ถวายน้อยกว่าแม่หม้ายคนนั้นที่ถวายเพียงสองเหรียญทองแดง
เพราะพระเยซูคริสต์มองลึกลงไปในจิตใจของหญิงหม้ายคนนั้นที่นำเอาเงินเพียงน้อยนิดที่ตนมีอยู่เพื่อเลี้ยงชีพตนและลูกมาถวายแด่พระเจ้า ในขณะที่คนมั่งมีเหล่านั้น นำเอาเงินที่เหลือกินเหลือใช้มาถวายแด่พระเจ้า
อีกประการหนึ่ง ผู้บันทึกเรื่องราวนี้ในพระคัมภีร์ สังเกตถึงท่าทีในการถวาย คนมั่งมีถวายเงินอย่างเอิกเกริกเพื่อให้คนอื่นได้เห็นและยกย่องตนเองว่าตนถวายเงินทองมากมาย แต่หญิงหม้ายคนนั้นกลับนำเงินสองเหรียญทองแดงไปหย่อนใส่หีบถวายเงียบ
ๆ การถวายของคนมั่งมีเพราะต้องการได้รับการยกย่องจากคนที่เห็น ในขณะที่แม่หม้ายถวายด้วยความไว้วางใจในพระเมตตาคุณของพระเจ้า
ทุกวันนี้
คริสตจักร และ คริสตชนไทยเรามีจิตใจเช่นไร? จิตใจของเราอยู่ภายใต้การครอบครองของพระเจ้า
หรือจิตใจของเราพองโตภายใต้ความปรารถนาของตนเอง?
หมายเหตุ: บทเรียนชีวิตเชิงปฏิบัติทั้ง 6
ประการผู้เขียนจะเสนอต่อจากนี้ในทุกวัน ๆ ละ 1 ประการ ตลอดสัปดาห์นี้
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น