21 มกราคม 2560

ถอดบทเรียนชีวิตที่พระคริสต์ “บ่มเพาะ” ในสาวก (6)

สำหรับพระเจ้า “จิตใจ” นั้นสำคัญยิ่ง

พระคริสต์มิได้ “บ่มเพาะชีวิตสาวก” ด้วยคำเทศน์ คำสอน หลักข้อเชื่อ และ การประกอบกิจในคริสตจักรเท่านั้น   แต่พระองค์ทรงใช้แบบอย่างการดำเนินชีวิตของพระองค์  พร้อมกับการกระตุ้นให้สาวกได้คิด  และท้าชวนให้เขาต้องตัดสินใจให้ปฏิบัติชีวิตสาวกของพระองค์ในชีวิตประจำวัน  ในทุกบริบทสถานการณ์ชีวิต              

ข้อเขียนตอนนี้เป็นตอนที่ 6 ในบทความเรื่อง ถอดบทเรียนชีวิตที่พระคริสต์ “บ่มเพาะ” ในชีวิตสาวก

8‘ชน​ชาติ​นี้​ให้​เกียรติ​เรา​แต่​ปาก
ใจ​ของ​พวก​เขา​ห่าง​ไกล​จาก​เรา (มาระโก 15:8 มตฐ. เทียบ อสย. 29:13; อสค. 33:31; มก. 7:6;)
9พวก​เขา​นมัส​การ​เรา​โดย​เปล่า​ประ​โยชน์ 
เพราะ​เอา​กฎ​เกณฑ์​ของ​มนุษย์​มา​สอน​ว่า​เป็น​พระ​ดำ​รัส​สอน(ของพระเจ้า)’(มาระโก 15:9 มตฐ. เทียบ มก. 7:6-7; คส. 2:18; คส. 2:20; คส. 2:22;)

พระเยซูคริสต์กล่าวย้ำซ้ำเตือนสาวกของพระองค์เสมอว่า สิ่งที่ออกมาจากใจต่างหากคือตัวตนที่แท้จริงของคน ๆ นั้น แผ่นดินของพระเจ้าเกิดขึ้นจากการที่จิตใจของผู้คนได้รับการเปลี่ยนแปลงให้มีคุณธรรม และ ดำเนินชีวิตตามวิถีแห่งแผ่นดินของพระเจ้า และความคิด จิตใจและมุมมองของคน ๆ นั้นเองที่เป็นตัวกำหนดในการตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเขา  

แต่ละคนต้องตัดสินใจว่า เขาจะดำเนินชีวิตตามพระประสงค์ของพระเจ้า  หรือ จะดำเนินชีวิตตามใจปรารถนาของตนเอง   เขาต้องตัดสินใจว่าจะจมจ่อมอยู่ในโคลนตมแห่งอำนาจของความบาปชั่ว หรือ จะตัดสินใจรับการกอบกู้จากพระคริสต์ให้ออกจากอำนาจแห่งความบาปผิดที่ครอบงำตนอยู่   เขาต้องตัดสินใจจะรับใช้พระเจ้าตามที่พระองค์ประสงค์ หรือ จะรับใช้ความอยากได้ใคร่มีของตนเอง

ดังนั้น การที่คริสตชนจะบอกว่าเขารักพระเจ้าไม่สามารถบ่งชี้ชัดได้ว่า เขารักพระเจ้าจริงหรือไม่ หรือ มากน้อยแค่ไหน แต่พฤติกรรมที่แสดงออกมาในชีวิตประจำวัน ในความสัมพันธ์ ในที่ทำงาน ในครอบครัว หรือในชุมชนต่างหากที่เป็นผลสะท้อนชัดว่าจิตใจของคน ๆ นั้นเป็นเช่นไร   จิตใจของเขารักพระเจ้า  รักเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน  หรือ เป็นเพียงการรักตนเองเท่านั้น

เราจะรู้ได้อย่างไรว่า   คนที่ถวายเงินทอง สิ่งของ มากมายว่าคน ๆ นั้นรักพระเจ้าหรือไม่?   เพราะการให้หรือการถวายในรูปแบบต่าง ๆ อาจจะมีความปรารถนาที่ซ่อนเร้นในใจก็ได้   ดั่งที่พระคริสต์บอกว่า   คนมั่งมีที่นำเงินมาถวายพระเจ้าเป็นกระสอบก็ถวายน้อยกว่าแม่หม้ายคนนั้นที่ถวายเพียงสองเหรียญทองแดง   เพราะพระเยซูคริสต์มองลึกลงไปในจิตใจของหญิงหม้ายคนนั้นที่นำเอาเงินเพียงน้อยนิดที่ตนมีอยู่เพื่อเลี้ยงชีพตนและลูกมาถวายแด่พระเจ้า   ในขณะที่คนมั่งมีเหล่านั้น นำเอาเงินที่เหลือกินเหลือใช้มาถวายแด่พระเจ้า

อีกประการหนึ่ง ผู้บันทึกเรื่องราวนี้ในพระคัมภีร์ สังเกตถึงท่าทีในการถวาย   คนมั่งมีถวายเงินอย่างเอิกเกริกเพื่อให้คนอื่นได้เห็นและยกย่องตนเองว่าตนถวายเงินทองมากมาย   แต่หญิงหม้ายคนนั้นกลับนำเงินสองเหรียญทองแดงไปหย่อนใส่หีบถวายเงียบ ๆ การถวายของคนมั่งมีเพราะต้องการได้รับการยกย่องจากคนที่เห็น   ในขณะที่แม่หม้ายถวายด้วยความไว้วางใจในพระเมตตาคุณของพระเจ้า

ทุกวันนี้  คริสตจักร และ คริสตชนไทยเรามีจิตใจเช่นไร? จิตใจของเราอยู่ภายใต้การครอบครองของพระเจ้า หรือจิตใจของเราพองโตภายใต้ความปรารถนาของตนเอง?

หมายเหตุ: บทเรียนชีวิตเชิงปฏิบัติทั้ง 6 ประการผู้เขียนจะเสนอต่อจากนี้ในทุกวัน ๆ ละ 1 ประการ   ตลอดสัปดาห์นี้

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น