ถ้าพระเจ้ามิใช่แก่นกลาง หรือ เสาหลักในงานต่าง ๆ
ที่เราทำในชีวิตแต่ละวันแล้ว
แรงงานความสามารถที่เราทุ่มเททำไปก็ไร้คุณค่า หาแก่นสารมิได้ ไม่ว่าเราจะทำหน้าที่ผู้นำในกองทัพ ผู้บริหารในสถาบัน ผู้นำในหน่วยงาน การเป็นศิษยาภิบาล กรรมกรที่ขายแรงงาน เกษตรกรผู้เพาะปลูก หรือแม้แต่การทำงานบ้าน ถ้าเราไม่มีพระคริสต์ทรงเป็นแก่นกลางเสาหลัก
หรือ สรณะในการดำเนินชีวิต และ การประกอบอาชีพประจำวันของเราแล้ว สิ่งต่าง ๆ ที่เราทุ่มเททำไป ในที่สุดก็พบแต่ความว่างเปล่าหาสาระคุณค่ามิได้
พระคริสต์ได้สัญญากับเราว่า พระองค์จะสถิตกับเราในชีวิตทุกวันจนกว่าจะสิ้นยุค
แต่เราคงต้องตระหนักชัดทุกวันทุกเวลาด้วยว่า พระคริสต์สถิตกับเรา แล้วเราให้พระคริสต์สถิต ณ จุดใด
ตำแหน่งใดในชีวิตประจำวันของเรา?
เราให้พระประสงค์ของพระองค์เป็นความต้องการเป้าหมายในชีวิตของเราหรือไม่?
เราให้พระองค์เป็นแสงสว่างชี้นำทางเรา หรือ เราให้พระองค์วิ่งไล่ตามหลังเรา?
เราทูลขอให้พระองค์ทำอย่างที่เราต้องการ หรือ เราพร้อมจะติดตามพระองค์ไป?
เรามุ่งมั่นทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยปัญญาความสามารถของเราเท่านั้น
หรือ เราพึ่งพิงในพระปัญญาของพระองค์ด้วย?
เราพึ่งพิงคนรอบข้าง เราไว้ใจคนที่จะ “โหวตหรือลงคะแนนเสียงให้เรา”
หรือ
ความหวังของเราขึ้นอยู่กับคนรอบข้างที่เรานำ หรือ อนาคต ฐานะ ตำแหน่ง ความหวังของเราอยู่ที่พระประสงค์ของพระเจ้า?
ความสำเร็จของเราขึ้นอยู่กับงบประมาณ หรือ ความสำเร็จของเราอยู่ที่พระราชกิจที่ทรงกระทำในสถานการณ์/ชีวิตการงานของเราในแต่ละวัน?
ทุกวันนี้เราขับเคลื่อนชีวิตการงานแต่ละวันของเราด้วยกำลังของเรา
หรือ ขับเคลื่อนชีวิตการงานด้วยพลังชีวิตจากองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์
ที่อยู่ในชีวิตเรา?
ทุกวันนี้เราพยายามควบคุมชีวิตของเราให้ดำเนินไปตาม
“คำสอน” ของพระคริสต์ หรือ พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงควบคุม และ ประทาน
พลังชีวิตด้านต่าง ๆ แก่เรา ให้ขับเคลื่อนไปตามพระประสงค์ของพระองค์?
ทุกวันนี้เราพยายามที่จะมีชีวิตและทำสิ่งที่ดีแด่พระคริสต์
หรือ ทุกวันนี้พระคริสต์ทรงเปลี่ยนแปลงและเสริมสร้างชีวิตของเราขึ้นใหม่ผ่านสถานการณ์ต่าง
ๆ ที่เราเผชิญหน้า เพื่อเราจะเติบโตเข้มแข็งขึ้น มีชีวิตที่เกิดผลดีตามพระประสงค์แห่งการทรงสร้างของพระเจ้า
“จงเกิดผลดีทวีมากขึ้นทั่วทั้งแผ่นดิน”
สิ่งที่เราจะต้องระมัดระวังคือ...
ในการดำเนินชีวิตประจำวันของเรา ถ้าเราคิดที่จะพึ่งพิงกำลังความสามารถของตนเอง
หรือ หวังพึ่งกำลังสนับสนุนจาก “ฐานเสียง” หรือ “คนรอบข้าง” ที่เป็นกำลังความสามารถของเรา และ ผู้สนับสนุนเรา เมื่อนั้นความทุกข์ยากลำบาก ปัญหา ความวิบัติก็จะเกิดขึ้น เพราะสิ่งเหล่านั้น พระเจ้าเท่านั้น
ที่จะทรงกระทำได้
หากองค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรงสร้างบ้าน
ผู้สร้างลงแรงไปก็เหนื่อยเปล่า
หากองค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรงพิทักษ์รักษานคร
คนยามยืนเฝ้าอยู่ก็เหนื่อยเปล่า (สดุดี 127:1 อมธ.)
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
Prasit.emmaus@gmail.com; 081 289 4499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น