ปัญญาจากผู้เฒ่า
มีเรื่องเล่าว่า
มีชายผู้สูงวัยอาศัยอยู่บนภูเขากับหลานชายคนหนึ่ง
ทุกเช้าผู้เป็นปู่จะนั่งที่โต๊ะอาหารในห้องครัวอ่านพระคัมภีร์เล่มเก่าคร่ำคร่าของตน ผู้เป็นหลานอยากจะเป็นเหมือนปู่ของตน เขาอยากที่จะอ่านพระคัมภีร์เป็นประจำทุกวัน
วันหนึ่งหลานชายถามปู่ว่า
“ปู่ครับ
ผมพยายามอ่านพระคัมภีร์อย่างปู่
แต่อ่านอย่างไงก็ไม่เข้าใจ และเมื่อพอจะรู้เรื่องบ้าง
แต่เมื่อปิดพระคัมภีร์ไปไม่เท่าใดก็ลืมเรื่องที่อ่านนั้น แล้วปู่ว่าการอ่านพระคัมภีร์มันมีประโยชน์อะไร? อ่านไปทำไมกัน?
ปู่ตอบหลานว่า
“หลานปู่...เอาถังตักน้ำเก่า ๆ ใบนี้ลงเขาไปที่แม่น้ำแล้วตักน้ำหิ้วขึ้นมาบ้านให้ปู่สักถัง”
หลานชายทำอย่างที่ปู่บอกให้ทำ แต่เมื่อกำลังหิ้วน้ำขึ้นเขามา ปรากฏว่าน้ำรั่วออกไปจากถัง เมื่อมาถึงบ้านในถังไม่เหลือน้ำเลย ผู้เป็นปู่บอกให้หลานลงไปตักใหม่ และให้รีบนำน้ำขึ้นมาบ้านให้เร็วกว่าเดิม ปู่ทำเช่นนี้กับหลานถึงสามรอบ
และในทุกรอบก็กระตุ้นให้หลานรีบหิ้วน้ำขึ้นมาบ้านให้เร็วกว่าครั้งก่อน
แต่ทุกครั้งหลานก็มาพร้อมกับถังน้ำที่น้ำรั่วไปหมดแล้ว
ในที่สุด
หลานชายกระหืดกระหอบพูดกับปู่ว่า
“ปู่ครับ...ไม่เป็นประโยชน์เลย”
ผู้เฒ่าพูดกับหลานว่า
“ลองดูข้างในถังซิหลานมันมีอะไรเปลี่ยนแปลงไหม? ถังเก่าใบนี้ดูสะอาดสดใสกว่าเดิมไหม?
หลานเอ๋ย...นี่แหละคือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเราอ่านพระคัมภีร์เป็นประจำทุกวันไม่ย่อท้อ หลานอาจจะไม่สามารถเข้าใจทุกเรื่องที่อ่าน
หรือ จำทุกข้อได้
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตของหลานคือ
พระวจนะของพระเจ้าเปลี่ยนชีวิตข้างใน เปลี่ยนวิธีคิด มุมมอง การตัดสินใจของหลาน และ ก็ทำให้ชีวิตภายนอกของหลานเปลี่ยนตามไปด้วย”
ผู้ที่เชื่อศรัทธาในพระเยซูคริสต์ที่อาศัยในโลกที่ทันสมัย วุ่นวาย
สับสน แตกแยก เสื่อมเสีย
ทั้งท่านและผมต่างต้องซึมซับเอาพระวจนะของพระเจ้าเข้ามาในความคิดจิตใจทุกวัน แล้วพระวจนะนั้นจะค่อย ๆ ขัดล้างเปลี่ยนแปลงความคิดจิตใจของเราทุกวันให้ค่อย
ๆ สดใสสะอาดขึ้น
แม้ว่าเราบางคนอาจจะไม่สามารถที่จะจดจำหรือเข้าใจพระคัมภีร์ในทุกเรื่องที่เราอ่านและใคร่ครวญ แต่เราต้องไม่ลืมว่า
พระเจ้าทรงใช้พระวจนะของพระองค์ในแต่ละข้อแต่ละตอนที่จะชัดถู ชำระล้าง และทำให้ความคิดจิตใจของเราสะอาดสดใสขึ้น วันต่อวัน
ทุกวัน เราต้องตระหนักเสมอว่า
การอ่านพระวจนะเพื่อให้พลังแห่งพระวจนะเปลี่ยนแปลงเราจากภายในชีวิต เริ่มต้นที่ความคิด และ จิตใจของเรา
ขอให้เราท่านทุกคน
ได้อุทิศถวายชีวิตที่เราเป็นอยู่แด่พระเจ้าในการอ่านพระวจนะของพระองค์เป็นประจำทุกวัน ด้วยความสัตย์ซื่อ ด้วยความจงรักภักดี และด้วยจิตใจที่น้อมถวายแด่พระเจ้า และให้เราทูลขอต่อพระองค์โปรดใช้พระวจนะของพระองค์ที่จะขัดถูก
ชะล้าง
และเสริมสร้างชีวิตประจำวันของเราขึ้นใหม่ ให้มีชีวิตอย่างพระคริสต์มากยิ่ง ๆ ขึ้นทุกวัน
(พระคริสต์)ตรัสตอบว่า
“มีพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า
‘มนุษย์จะดำรงชีวิตด้วยอาหารเพียงอย่างเดียวไม่ได้
แต่ต้องดำรงชีวิตด้วยพระวจนะทุกคำ
ซึ่งออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า’ ”
(มัทธิว 4:4 มตฐ.)
พระองค์ทรงทำให้ท่านถ่อมใจ
ทรงปล่อยท่านให้หิว
และทรงเลี้ยงท่านด้วยมานา
ซึ่งท่านเองหรือปู่ย่าตายายของท่านก็ไม่ทราบว่าเป็นอะไร
เพื่อพระองค์จะทรงทำให้ท่านเข้าใจว่า
มนุษย์ไม่ได้ดำรงชีวิตอยู่ด้วยอาหารเพียงสิ่งเดียว
แต่มนุษย์จะดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยทุกสิ่งที่ออกมาจากพระโอษฐ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า
(เฉลยธรรมบัญญัติ 8:3 สมช.)
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
Prasit.emmaus@gmail.com; 081 289 4499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น