บางคนอ่านเรื่องราวยาโคบปล้ำสู้กับบุรุษท่านหนึ่ง(ซึ่งรู้กันว่าคือพระเจ้า)ตลอดคืนยันรุ่งแต่ไม่เอาชนะสักที บางท่านเกิดคำถามในใจว่า
ยาโคบเก่งแค่ไหนนะพระเจ้าถึงสู้ไม่ชนะสักที? หรือ ไม่ก็ถามในทำนองที่ว่า
ทำไมพระเจ้าไม่เผด็จศึกเอาชนะยาโคบให้เห็นดำเห็นแดงไปเลย?
ทำไมพระองค์ปล่อยให้การปล้ำสู้ยาวยืดเยื้อจนถึงรุ่งสาง? (ดู ปฐมกาล 32:26) ท่านเคยมีประสบการณ์ในชีวิตที่ต้องปล้ำสู้กับปัญหาอย่างยาวนานไหม? ทำไม?
ทำไมพระเจ้าถึงอนุญาตให้วิกฤติชีวิตที่เกิดขึ้นกับเราเป็นไปอย่างยืดเยื้อ(ตามความรู้สึกของเรา หรือ บางครั้งก็เป็นจริงเช่นนั้น)
ทำไมพระองค์ไม่ลงมือจัดการแก้ไขทันทีเมื่อเราอธิษฐานทูลขอต่อพระองค์ เรามักพบว่า
พระเจ้าจะทรงให้วิกฤตินั้นดำเนินต่อไปอีกระยะเวลาหนึ่ง
ทั้งนี้เพราะพระองค์ต้องการที่จะทำให้เรารู้ตัวว่าจริง ๆ แล้วเราได้เชื่อและวางใจในพระองค์แค่ไหน?
และเราแสวงหาพระองค์อย่างสุดจิตสุดใจหรือเปล่า?
การที่พระเจ้าทรงตอบสนองวิกฤติและการอธิษฐานของเราทันทีทันใด อาจจะสร้างความเข้าใจผิดคลาดเคลื่อนได้ว่า การอธิษฐานเป็นเหมือนวิธีการวิเศษ
เมื่อต้องการก็อธิษฐานแล้วมันจะเกิดขึ้นตามที่ต้องการ?
แต่พระเจ้าใช้วิกฤติในการเสริมสร้างคนของพระองค์ให้มีความเชื่อ
ไว้วางใจในพระองค์อย่างสุดจิตสุดใจ
บ่อยครั้งที่ผมเห็นเพื่อนคริสตชนจำนวนมาก ที่อธิษฐานร้องทูลพระเจ้าให้ช่วยปลดหนี้มหาศาล
และ หนักอึ้งที่มีในชีวิตของเขา
และทูลขอการอัศจรรย์จากพระเจ้าในการช่วยปลดหนี้ของเขาทันที เพราะเขาไม่รู้จะไปพึ่งใครที่ไหนได้อีกแล้ว
เขาทูลขอพระเจ้าทำการอัศจรรย์ให้หนี้ของเขาหลุดลอยออกจากชีวิตในทันที!
แต่น่าคิดว่า เขาได้เรียนรู้หรือไม่ว่า
หนี้สินรุงรังและหนักอึ้งของเขามันเกิดขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ใจ
เหนือกฎเกณฑ์ธรรมชาติการเงินและหนี้สินไหม?
แน่นอนว่า หนี้สินที่เกิดขึ้นมีที่มา มีสาเหตุ เขาและครอบครัวมีส่วนที่ทำให้หนี้สินเกิดและพอกพูนขึ้น แล้ววันหนึ่ง มาขอพระเจ้าขจัดปัดเปล่าหนี้เหล่านั้นให้อันตรธานหายวับไปชั่วพริบตานั้นถูกต้องแล้วหรือ? สมมติว่า หนี้นั้นเกิดหลุดลอยไปจริง เราท่านต่างไม่คิดหรือว่า
เขาจะไม่กลับก่อหนี้ยืมสินใหม่อีกหรือ?
เพราะถ้าหนี้ท่วมหัวก็สามารถกลับมาขอให้พระเจ้าปลดหนี้ได้อีก?
พระเจ้าสนใจและใส่ใจหนี้สินที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราทุกคน
พระเจ้าประสงค์ที่จะช่วยเราให้สามารถปลดหนี้ ยิ่งกว่านั้น
พระเจ้าประสงค์ให้เราได้เรียนรู้ที่จะไม่กลับไปก่อหนี้ใหม่ ทำอย่างไรที่จะไม่เป็นหนี้อีก จะใช้จ่ายและบริหารจัดการเงินทองในชีวิตประจำวันอย่างไร เราจะสามารถหยุดการใช้เงินล่วงหน้า(คือใช้เงินส่วนที่เรายังไม่มี)ได้อย่างไร?
พระองค์ประสงค์ที่จะเสริมสร้างวินัยชีวิตการเงินของเรา และตลอดระยะเส้นทางการทรงใส่ใจของพระเจ้า พระองค์เคียงข้างเราในความทุกข์ยากลำบากในชีวิต จนกว่าเวลาที่โซ่ตรวนหนี้สินหลุดจากชีวิตของเรา
ถ้าขณะนี้ที่กำลังอยู่ในวิกฤติชีวิตเรื่องหนี้สิน ขอยืนมั่น ณ จุดความจริงนั้น อย่าท้อถอยยอมแพ้ อย่าหลบหนีจากความจริง ทุกประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วค่ำคืน เพราะบางคนใช้เวลาที่ก่อตัวพอกพูนปัญหานั้นมาเป็นระยะเวลายาวนาน
บางท่านอาจจะมีรูปแบบที่ก่อเกิดปัญหาบางปัญหาฝังลึกในตน ไม่ว่าการตอบโต้กับคนอื่น วินัยชีวิตเชิงลบ ที่สร้างสั่งสมมาเป็นแรมปี ขอบอกตรงไปตรงมา ณ ที่นี้ว่า พระเจ้าจะไม่ลบล้างสิ่งเหล่านั้นออกจากชีวิตของเราหมดไปทันที พระองค์คอยใส่ใจ และ
เสริมสร้างให้เราเรียนรู้ปัญหาที่ซับซ้อนนั้นทีละชั้น อย่างที่เราลอกหอมหัวใหญ่ทีละชั้น ค่อย ๆ แกะออกทีละชั้น แต่ความหวังค่อย ๆ เกิดมากขึ้น จงมั่นใจเถิดครับ พระเจ้าอยู่กับเรา พระองค์เคียงข้างเรา พระองค์ค่อย ๆ บอกให้เรารู้จักที่จะจัดการกับปัญหาในชีวิตของตนเองลึกลงไปทีละชั้น ด้วยวิธีนี้พระเจ้าช่วยให้เราค้นพบตนเอง และ
เรียนรู้การจัดการปัญหาจากพระองค์ไปทีละก้าวทีละขั้น
ให้เราวางใจในการทรงชี้นำและสำแดงให้เราได้เรียนรู้จากพระองค์
อย่าลืมว่า
พระเจ้าอยู่เคียงข้างเราในทุกสถานการณ์ชีวิต
พระเจ้ากระทำสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเราในชีวิต
เมื่อท่านทูลขอต่อพระองค์ให้ทรงช่วยแก้ปัญหาในชีวิต ท่านจะต้องวางใจในการทรงประทานของพระองค์ในชีวิตของเรา แล้วเราจะได้รับประสบการณ์แห่งสันติสุข
พระปัญญา และ พระพรจากพระองค์
ประสิทธิ์
แซ่ตั้ง
Prasit.emmaus@gmail.com; 081 289 4499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น