10 ตุลาคม 2553

มองให้เห็นพระหัตถ์ในชีวิตของท่าน

นัยน์ตาทั้งปวงมองดูพระองค์
และพระองค์ประทานอาหารให้ตามเวลา (สดุดี 145:15)

29ท่านทั้งหลายอย่าเสาะหาว่าจะกินอะไรดีหรือจะดื่มอะไร และอย่ามีใจกังวล 30เพราะว่าพวกต่างชาติทั่วโลกเสาะหาสิ่งของทั้งปวงนี้ แต่ว่าพระบิดาของท่านทั้งหลายทรงทราบแล้วว่า ท่านต้องการสิ่งเหล่านี้ 31แต่ท่านทั้งหลายจงแสวงหาแผ่นดินของ พระเจ้า แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งเหล่านี้ให้ (ลูกา 12:29-31)

พระเจ้าทรงทราบดีว่า มนุษย์ทุกคนมีความจำเป็นที่จะต้องกินและดื่ม และพระองค์ทรงเป็นผู้จัดเตรียมและประทานสิ่งจำเป็นพื้นฐานเหล่านี้ผ่านวิธีการต่างๆ บุคคลต่างๆ แต่คริสเตียนหลายคนยังห่วงหากังวลว่าสิ่งที่มนุษย์จำเป็นจะต้องกินจะต้องดื่มและจำเป็นต้องใช้จะขาดแคลนไม่เพียงพอ การห่วง วิตกกังวลมักเป็นเรื่องเกี่ยวกับอนาคต เป็นเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่เนื่องจากเราไม่สามารถเห็นอนาคตได้จึงมักทำให้เราเกิดความวิตกกังวลว่าอนาคตอาจจะนำความเลวร้ายลำบากขาดแคลน หรือ ผิดหวังมาสู่ชีวิตของเรา และนี่เป็นวิธีการหนึ่งที่เราทำให้ความนึกคิดของเราต้องตกกับดักความทุกข์ ความรู้สึกย่ำแย่ในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงกับเรา และนี่เป็นการตกใต้อำนาจแห่งการทดลองและล่อลวงของมาร

แทนที่เราจะเอาความคิดความรู้สึกของเราไปวิตกกังวลกับอนาคตที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริงและยังมาไม่ถึง หรือเอาความรู้สึกนึกคิดของเราให้ตกอยู่ใต้อำนาจมายาของความทุกข์ยากลำบากที่เรากลัวว่าจะเกิดขึ้นกับตน จนเกิดความรู้สึกและนึกไปว่าตนกำลังตกอยู่ในสภาพที่ทุกข์ยากลำบากที่ไม่พึงประสงค์นั้น(ทั้งๆที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง) เราควรที่จะมุ่งมองไปที่พระประสงค์ของพระเจ้าว่า พระองค์ทรงมีพระประสงค์ที่พิเศษเฉพาะเจาะจงสำหรับชีวิตของเรา และพระองค์กำลังนำเราไปสู่เป้าหมายปลายทางแห่งพระประสงค์ของพระองค์ทีละขั้น ทีละก้าว แต่ละวัน ในเส้นทางและเหตุการณ์ที่ทรงกำหนดไว้ และพระองค์ดำเนินเคียงข้างไปกับเราแต่ละคนไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับชีวิตของเรา ไม่ว่าเราจะต้องเผชิญสถานการณ์เช่นใด ทั้งนี้เพราะว่า “...พระเจ้าทรงช่วยคนที่รักพระองค์ให้เกิดผลอันดีในทุกสิ่ง คือคนทั้งปวงที่พระองค์ได้ทรงเรียกตามพระประสงค์ของพระองค์” (โรม 8:28)

ผู้คนในโลกนี้ส่วนใหญ่แล้วสับสน กังวล และวุ่นวายใจกับอนาคตของตนที่ยังมองไม่เห็น แต่สำหรับคริสเตียนแล้ว ควรจะมีชีวิตและจิตใจที่สงบ มั่นคง และชื่นชมยินดี เพราะคริสเตียนเชื่อและไว้วางใจว่า ในทุกสถานการณ์ชีวิตของเราแต่ละคนอยู่ภายใต้การทรงดูแล ควบคุม และการเอาใจใส่ขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระเยซูตรัสสอนว่า แทนที่ท่านจะวุ่นวายใจกับความวิตกกังวลถึงอนาคตมากมายหลายเรื่องและไม่รู้ว่าตนจะจัดการอย่างไรกับชีวิตของตนในวันพรุ่งนี้ พระองค์ทรงชี้แนะว่า วันนี้ ให้ท่านเปิดชีวิตให้องค์พระผู้เป็นเจ้าเข้ามาปกครองและจัดการ พระองค์จะทรงช่วยให้เราเห็นเป้าหมายแห่งพระประสงค์ทีละขั้นทีละก้าว เราจะเดินไปกับพระองค์ด้วยความไว้วางใจ ด้วยความมั่นใจ และด้วยจิตใจที่ชื่นชมยินดี ใครก็ตามที่ยอมทำเช่นนี้นอกจากจะไม่ต้องตกลงในกับดักแห่งความทุกข์ยากลำบากใจแล้ว ชีวิตยังจะเกิดผลด้วยความปีติชื่นชมอีกด้วย

ก้าวแรกก้าวหลักในการดำเนินชีวิตแต่ละวันของเราคือ เรามุ่งมองที่พระประสงค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่จะสำเร็จในชีวิตของเรา มิใช่มุ่งมองไปที่อนาคตที่ไม่แน่นอนและตนเองไม่สามารถที่จะควบคุมและจัดการ

ถ้าคริสเตียนมุ่งมองด้วยความอยากได้ใคร่มีมากยิ่งกว่าสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันแล้ว คริสเตียนท่านนั้นยิ่งตกลงในกับดักแห่งความทุกข์ยากมากยิ่งขึ้น เขาต้องพบกับความวิตกกังวลและถ้าเหตุการณ์มิได้เป็นไปตามที่ตนคาดหวังก็จะเกิดความเสียอกเสียใจ บางครั้งพัฒนาไปสู่ความไม่พอใจพระเจ้า

แต่ถ้าชีวิตของเรามุ่งมองและมุ่งมั่นในองค์พระผู้เป็นเจ้า ไว้วางใจในพระองค์ เปิดชีวิตจิตใจรับการทรงนำและพระเมตตาคุณของพระองค์ ในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเลวร้ายแค่ไหน แต่นั่นเป็นโอกาสที่เสริมสัมพันธภาพของคนๆ นั้นกับพระเจ้ามากและมั่นคงยิ่งขึ้น และเมื่อผ่านประสบการณ์ดังกล่าวนี้เขาจะมีความไว้วางใจและเชื่อมั่นในพระองค์ที่หนักแน่นยิ่งกว่าเดิม และนี่คือการเรียนรู้และการเปลี่ยนแปลงในชีวิตจิตวิญญาณของเรา

เราจะไม่ตกลงในกับดักแห่งความวิตกกังวลอีกต่อไป เพราะเราไม่ต้องวุ่นวายใจกับการที่เรากลัวว่า อาจจะไม่ประสบความสำเร็จตามแผนการในชีวิตของเราเอง เพราะเรามิได้มุ่งมองที่ความสำเร็จตามแผนการของเรา แต่เรามุ่งมองไปที่พระประสงค์ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงนำเราไปให้ถึงหลักชัยเป้าหมายตามที่พระองค์ทรงวางไว้ แล้วในแต่ละวันเราก็ได้เห็นถึงพระหัตถ์การทรงนำของพระองค์ที่ช่วยให้เราขยับขับเคลื่อนไปทีละเล็กทีละน้อยด้วยความไว้วางใจและชื่นชมยินดี การเปลี่ยนมุมมองในชีวิตเช่นนี้มีผลให้ความเชื่อของเราเปลี่ยนแปลงและกล้าแกร่งขึ้นด้วย และทุกเช้าเราจะตื่นขึ้นด้วยความตื่นเต้นที่จะมุ่งมองหาพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ที่จะขยับขับเคลื่อนแผนการของพระองค์ผ่านชีวิตในวันใหม่ของเรา

ดูเถิด ตาของผู้รับใช้มองดูมือนายของตนฉันใด
และตาของสาวใช้มองดูมือนายหญิงของตนฉันใด
ตาของข้าพเจ้าทั้งหลายมองดูพระเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย
จนกว่าพระองค์จะมีพระกรุณาต่อข้าพเจ้าทั้งหลายฉันนั้น (สดุดี 123:2)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น