08 กันยายน 2554

ฤาถึงเวลาต้องปฏิรูปการอภิบาลในคริสตจักร?: ตอนที่ 8 ว่าด้วยสถาบันผลิตผู้อภิบาล

สถาบันผลิตผู้อภิบาล

ในยุคสมัยแห่งการเรียนรู้ คริสตจักรจัดให้มีสถาบันที่จะฝึกฝนผู้อภิบาลอย่างเป็นระบบ (เช่น พระคริสต์ธรรมต่างๆ) แต่เราก็พบว่าในระบบนี้มีข้อบกพร่องและความจำกัดไม่น้อยทีเดียว ในที่นี้ขอยกเพียงบางประการเป็นตัวอย่างเท่านั้น

1) ดึงเอาบุคคลที่มีแนวโน้มจะเป็นผู้ปกครองและผู้อภิบาลที่ดีออกไปจากชีวิตชุมชนคริสตจักรท้องถิ่นที่บุคคลเหล่านี้ควรจะเป็นผู้รับใช้ แล้วเอาคนเหล่านี้ไปอยู่ในบรรยากาศทางวิชาการ ที่พูดเรื่องต่างๆ ในเชิงนามธรรม และคนส่วนใหญ่ในชุมชนใหม่นี้ไม่ค่อยเห็นรูปแบบ มีบรรยากาศ และสัมผัสได้ถึงความรับผิดชอบในการอภิบาลชีวิต

2) เนื่องจากหลักสูตรที่จัดขึ้นจะต้องเรียนมากมายหลากหลายวิชา เพื่อให้ครบตาม “มาตรฐาน” ทางวิชาการและปริญญาที่จะได้รับ ดังนั้น ผู้เรียนจึงตกเป็นเหยื่อของการ “ยัดเยียด” และติดตามวัดผลด้วยการสอบของแต่ละวิชา ชีวิตในสถาบันพระคริสต์ธรรมมีเวลาเพียงน้อยนิดหรือเกือบไม่มีเลยที่ผู้เรียนจะสะท้อนคิดแบบลงรากลึกเพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างแท้จริง

3) ในสถาบันพระคริสต์ธรรมมีบรรยากาศเสริมสร้าง ภาวะผู้นำแบบคริสเตียน และ ความรับผิดชอบในด้านจิตวิญญาณ ที่อยู่ในระดับจำกัด มีบ้างในบางสถาบันที่จัดให้นักศึกษาได้พบกับอาจารย์ที่ปรึกษา หรือ การพบปะสามัคคีธรรมในกลุ่มเฉพาะในแต่ละสัปดาห์ สิ่งนี้สะท้อนถึงความตั้งใจที่ดีแต่ก็พบความจริงว่า ส่วนมากแล้วความสัมพันธ์ระหว่างนักศึกษากับอาจารย์ที่ปรึกษาไม่มีสัมพันธภาพที่หยั่งรากลงลึก จึงไม่น่าแปลกใจว่า สถาบันพระคริสต์ธรรมเป็นสถาบันผลิตผู้ทำงานให้แก่หน่วยงานคริสเตียน และรองลงมาสำหรับคริสตจักรที่มีลักษณะเป็นองค์กร ที่มีปัญหา ความรับผิดชอบ และ สัมพันธภาพเฉพาะ ในองค์กรและคริสตจักรเหล่านี้

4) คณาจารย์ส่วนใหญ่ในสถาบันพระคริสต์ธรรม บ้างยังไม่เคยทำหน้าที่ “ศิษยาภิบาล” เต็มเวลามาก่อน และบ้างในปัจจุบันก็หลุดจากโอกาสของการเป็นผู้อภิบาลอย่างเต็มที่ ส่วนใหญ่แล้วอาจารย์ในพระคริสต์ธรรมจะรู้และช่ำชองในด้านวิชาการพระคัมภีร์ ทางศาสนศาสตร์ระบบ ประวัติศาสตร์คริสตจักร หรือ หลักข้อเชื่อ ฯลฯ แต่ขาดโอกาสที่จะรับใช้และพัฒนาสมรรถนะในฐานะผู้นำของคริสตจักร ดังนั้น จึงมีความจำกัดอย่างยิ่งในการเตรียมความพร้อมสำหรับนักศึกษาที่เข้ามารับการเตรียมพร้อมที่จะออกไปเป็นผู้นำในด้านการอภิบาลชีวิตชุมชนคริสตจักร

คำถามตรงที่เราต้องการคำตอบในปัจจุบันนี้คือ เราจะมีกระบวนการเตรียมผู้อภิบาลที่มีสมรรถนะที่ตอบสนองต่อสภาพชีวิตของชุมชนชีวิตคริสตจักรอย่างเกิดผลตามพระคัมภีร์ได้อย่างไร ด้วยแบบใด? แทนการใช้ระบบสถาบันพระคริสต์ธรรมในการบ่มเพาะ ฟูมฟัก และสร้างเสริมผู้อภิบาลคริสตจักรเข้ามาแทนที่ระบบการฟูมฟัก บ่มเพาะ และเสริมสร้างผู้อภิบาลชีวิตคริสตจักรโดยชุมชนคริสตจักรที่ผู้ได้รับการเตรียมพร้อมจะมีโอกาสการเรียนรู้ มีทักษะ และพัฒนาสมรรถนะในการเลี้ยงดูลูกแกะ หรือ อภิบาลชีวิตสมาชิกในคริสตจักรด้วยประสบการณ์ตรง และสามารถตอบสนองชีวิตตามบริบทที่เป็นอยู่

Clay Sterrett ได้เขียนไว้ว่า การสร้างเสริม(ผู้อภิบาล)ในยุคนี้มุ่งเน้นที่วิชาการ ในขณะที่คริสตจักรในสมัยพระคัมภีร์ใหม่มุ่งเน้นฝึกฝนที่จิตวิญญาณและการดำเนินชีวิต, การฝึกอบรมในยุคทันสมัยใช้ระบบฝึกฝนในห้องเรียน แต่ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่เน้นที่ชีวิตและประสบการณ์, การฝึกอบรมในยุคนี้เน้นการเรียนรู้ มุ่งฝึกอบรมคนหนุ่มคนสาวให้เป็นผู้อภิบาล แต่ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ฝึกอบรมทุกคนที่เชื่อซึ่งรวมถึงผู้สูงอายุด้วยให้เป็นผู้อภิบาลกันและกัน


ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
สะท้อนคิดจากบทความเรื่อง
The Urgent Need For Reformation in Pastoral Ministry ของ Darryl M. Erkel

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น