08 กุมภาพันธ์ 2555

ทำไมพระเจ้าตอบช้าจัง?

อ่าน สดุดี 102:1-28

ขออย่าซ่อนพระพักตร์ของพระองค์จากข้าพระองค์
ในยามที่ข้าพระองค์ทุกข์ยาก
ขอเงี่ยพระกรรณฟังข้าพระองค์
ขอทรงตอบโดยเร็ว เมื่อข้าพระองค์ร้องทูล (สดุดี 102:2)

เมื่อเราถามคำถามใคร หรือ บอกเขาถึงความห่วงกังวล เราต้องการคำตอบ หรือ การตอบสนองจากเขารวดเร็วทันที เมื่อหวนคิดถึงในสมัยอดีต เราเขียนจดหมายในการติดต่อสื่อสารกัน ถ้าเขียนจากเชียงใหม่ถึงกรุงเทพฯ ถ้าตอบมาในหนึ่งสัปดาห์หรือสิบวันถือว่าเขาตอบเรารวดเร็ว ถ้าเขียนถึงอเมริกากว่าจะตอบมาเร็วที่สุดก็ปาเข้าไปครึ่งเดือน ในเวลานั้นเรารอคอยได้ เราอดทนได้ แต่เมื่อเทคโนโลยีทางการสื่อสารในปัจจุบันพัฒนาก้าวไกล ได้ทำให้เราเป็นคนด่วนได้ใจร้อนต้องการคำตอบในชั่วพริบตา จะว่าไปแล้วการใช้อีเมล์ ก็ว่าช้าไปแล้ว เราต้องการให้ผู้รับข่าวสารจากเราตอบสนองเร็วที่สุด บางคนเมื่อส่งอีเมล์แล้ว ตามขนาบด้วยโทรศัพท์มือถือ ไม่ใช่อะไรหรอกครับต้องการให้เขาตอบทันที เราต้องการคำตอบหรือการตอบสนองเดี๋ยวนี้!

ท่านเคยมีประสบการณ์ความรู้สึกรีบเร่งด่วนจี๋เช่นนี้ในการติดต่อสื่อสารกับพระเจ้าบ้างไหม? แต่การที่เรามีใจรีบร้อนต้องการให้พระเจ้าตอบคำอธิษฐานของเราทันทีมิใช่เพราะความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยี หรือ ยุคเครื่องมือสื่อสารทันสมัยเท่านั้น ตั้งแต่โบราณกาลมาแล้ว ซึ่งเราสามารถอ่านพบในพระธรรมสุดดี บทที่ 102 เราพบคำอธิษฐานของคนหนึ่งที่กำลังตกอยู่ในความทุกข์ยากลำบาก เขาอธิษฐานต่อพระเจ้า ต้องการให้พระเจ้ารีบเร่งตอบเขา ขอพระเจ้าช่วยเขาทันที ในข้อที่ 2 ผู้เขียนสดุดีได้ได้ร้องทูลพระเจ้าว่า “ขออย่าซ่อนพระพักตร์ของพระองค์จากข้าพระองค์ ในยามที่ข้าพระองค์ทุกข์ยาก ขอเงี่ยพระกรรณฟังข้าพระองค์ ขอทรงตอบโดยเร็วเมื่อข้าพระองค์ร้องทูล” ในเวลาที่สถานการณ์ล่อแหลมเข้าตาจน เขาอธิษฐานด้วยใจกังวลจนสับสนร้อนและรน และเราในวันนี้ก็ไม่แตกต่างอะไรกับคนในหลายสิบศตวรรษก่อน

การที่ผู้เขียนพระธรรมสดุดีบทนี้ร้องเรียกให้พระเจ้าตอบเขาโดยเร็วนั้น ทำให้ผมต้องกลับมาใคร่ครวญและได้ข้อคิดว่า ประการแรก ผมกลับย้อนมองเห็นว่า ผู้เขียนสดุดีคนนี้กล้าจริงๆ ดูเขาไม่เก็บถ้อยจำกัดความที่ใช้สนทนากับพระเจ้า สำหรับผมแล้ว เราเป็นใครกันที่จะไปสั่งพระเจ้าให้ตอบเร็วๆ? เพราะความคิดของเราไม่ใช่ความคิดของพระเจ้า เวลาของพระเจ้าจึงแตกต่างจากที่เราคิดเราปรารถนา พระเจ้าประสงค์กระทำและประทานสิ่งดีที่สุดให้สำหรับเรา ดังนั้นจึงต้องเป็นไปตามความคิดและเวลาที่พระองค์กำหนด แต่อย่างไรก็ตามในสดุดีบทนี้เราไม่เห็นว่ามีตอนไหนที่แสดงถึงการบังคับต่อรองกับพระเจ้า แต่เป็นการร้องขอจากก้นบึ้งแห่งหัวใจของเขา

ประการที่สอง ผมเห็นว่าพระเจ้ามิได้ตอบผู้ร้องทูลในสดุดีบทนี้ตามกำหนดเวลาของเขา เป็นความจริงที่ว่าทางของพระเจ้านั้นมิใช่ทางของเรา และเวลาของพระเจ้ามิใช่เวลาของเรา แต่อย่างไรก็ตามมันเป็นความทุกข์ยากแสนสาหัสที่ต้องรอคอยการทรงตอบทรงช่วยของพระเจ้า อีกทั้งพระเจ้าเปิดโอกาสให้เรามีเสรีที่จะเปิดใจบอกพระเจ้าถึงความต้องการของเราว่า ขอพระเจ้ามาช่วยโดยเร็วพลัน แต่พระเจ้าทรงตอบในเวลาที่เหมาะสมสำหรับเรา ดังนั้น เราจึงยังรู้สึกว่าทำไมพระเจ้าตอบเราชักช้าเหลือเกิน ยิ่งกว่านั้น เป็นความชักช้าที่เราแสนเจ็บปวด

ชายคนหนึ่งตกงาน กำลังหางาน เขารู้ว่าเขาต้องการทำงานที่เป็นสายตรงกับความสามารถของเขา แต่ก็รู้ว่าโอกาสที่จะได้งานอย่างที่เขาต้องการนั้นมีเพียงน้อยนิด เป็นการง่ายที่เขาจะท้อแท้สิ้นหวังในเวลาที่เขาต้องรอการตอบจากพระเจ้านานเหลือเกิน แต่เขากลับบอกว่า พระธรรมสดุดีบทที่ 102 นี้ให้กำลังใจแก่เขาที่จะทูลขอต่อพระเจ้าอย่างจริงใจ เปิดใจตรงไปตรงมาจากส่วนลึกของหัวใจ ที่เขาได้ทูลขอให้พระเจ้ารีบตอบโดยเร็ว และในเวลาเดียวกัน สดุดีบทนี้ก็เตือนชายคนนี้ด้วยว่า เวลาของพระเจ้าไม่ใช่เวลาที่เราต้องการ ดังนั้น ในสถานการณ์เช่นนี้เราจึงอยู่ระหว่างแรงดึงสองด้าน ระหว่างแรงดึงที่บอกพระเจ้าตรงๆ ว่าตอบเร็วๆ พระเจ้าข้าฯ และ อีกด้านหนึ่งคือการทูลขอพระเจ้าที่จะประทานความอดทนรอคอยด้วยความไว้วางใจในวิถีทางของพระเจ้าว่าเหมาะสมและดีที่สุดสำหรับชีวิตของเรา

ประเด็นสำหรับการใคร่ครวญและอภิปรายในกลุ่ม

1. ท่านเคยอธิษฐานขอพระเจ้าตอบท่านโดยเร็วหรือไม่?
เกี่ยวกับเรื่องอะไร?
ในเวลานั้นท่านรู้สึกอย่างไร?
ผลเป็นอย่างไรบ้าง? ท่านได้บทเรียนชีวิตอะไรบ้าง?

2. ในวันนี้ท่านมีสิ่งใดที่ต้องการให้พระเจ้าตอบสนองในชีวิตของท่านบ้าง หรือ
ตอบสนองสำหรับโลกในวันนี้?
ท่านกล้าอธิษฐานทูลขอต่อพระเจ้าหรือยัง?

ใคร่ครวญภาวนา

ขอบพระคุณพระเจ้าที่ทรงเปิดกว้างให้ข้าพระองค์ได้อธิษฐาน สนทนา และร้องทูลต่อพระองค์
อย่างเปิดและใจตรงไปตรงมา อย่างจริงใจและสัตย์ซื่อ

แม้กระทั่งการร้องทูลให้พระองค์ตอบข้าพระองค์โดยเร็ว
ตามความคิดและใจปรารถนาของข้าพระองค์เอง อย่างผู้เขียนสดุดีบทที่ 102

องค์พระผู้เป็นเจ้าในเวลานี้...

ข้าพระองค์ร้องทูลต่อพระองค์เพื่อเพื่อนที่กำลังเจ็บปวดทนทุกข์จากการเยี่ยวยารักษาเกี่ยวกับโรคร้าย(......) โปรดทรงรักษาพวกเขาโดยเร็ว

ข้าพระองค์ระลึกถึงเพื่อนที่กำลังตกงาน กำลังหางานทำ ขอโปรดให้เขาได้งานทำในเร็ววัน

ข้าพระองค์คิดถึงครอบครัวที่รู้จักกำลังเกิดความขัดแย้งอย่างแรง ขอโปรดประทานศานติ และ การคืนดีให้เกิดขึ้นในเร็วๆนี้

ข้าพระองค์คิดถึงเพื่อน..............................................................................................

ข้าพระองค์คิดถึงประชาชนจำนวนหลายล้านในโลกนี้ที่อดอยากไม่มีอาหารพอ โปรดทรงเลี้ยงดูเขาวันนี้ เดี๋ยวนี้

ข้าพระองค์เองกำลังต้องจมอยู่ในมรสุม คลื่นแห่งชีวิตถาโถม(.......) โปรดตอบและทรงช่วยข้าพระองค์ในวันนี้

โปรดสอนข้าพระองค์ให้กล้าที่จะอธิษฐานอย่างเปิดใจ จริงใจ และสัตย์ซื่อ
โปรดสอนข้าพระองค์ที่จะอดทนรอคอยพระองค์
โปรดสอนข้าพระองค์ที่ไว้วางใจในวิถีทางและเวลาของพระองค์ที่ประทานแก่ข้าพระองค์
ว่าเป็นวิถีทางชีวิตและเวลาที่ดีเหมาะสมที่สุดสำหรับข้าพระองค์

ข้าพระองค์ทูลในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า
อาเมน

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น