15 กุมภาพันธ์ 2555

พระกิตติคุณ: รักเพื่อให้ มิใช่ รักเพื่อได้

อ่าน ลูกา 6:27-36

27แต่เราบอกพวกท่านที่กำลังฟังอยู่ว่า
จงรักศัตรูของท่าน
จงทำดีกับคนที่เกลียดชังท่าน
28จงอวยพรแก่คนที่แช่งด่าท่าน
จงอธิษฐานเผื่อคนที่ทำร้ายท่าน
29ใครตบแก้มของท่านข้างหนึ่ง จงหันอีกข้างหนึ่งให้เขาด้วย
ใครเอาเสื้อคลุมของท่านไป ถ้าเขาจะเอาเสื้อด้วยก็อย่าหวง
30จงให้แก่ทุกคนที่ขอจากท่าน
ถ้าใครเอาสิ่งของของท่านไป ก็อย่าทวงคืน
31จงปฏิบัติคนอื่นเหมือนอย่างที่ท่านปรารถนาให้เขาปฏิบัติต่อท่าน

35 แต่จงรักศัตรูของท่านและทำดีต่อเขา
จงให้เขายืมโดยไม่หวังที่จะได้คืน
แล้วท่านจะเป็นบุตรขององค์ผู้สูงสุด
เพราะว่าพระองค์ทรงพระกรุณาต่อทั้งคนอกตัญญูและคนชั่ว
36พวกท่านจงมีใจเมตตากรุณาเหมือนอย่างพระบิดาของท่านมีพระทัยเมตตากรุณา
(ลูกา 6: 27-31, 35-36 ฉบับมาตรฐาน)

พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์เป็นวิธีคิด กรอบคิด และมุมมองชีวิตที่สวนกระแสสังคมโลกในปัจจุบัน แต่ที่สำคัญกว่านั้น พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ตอบโจทย์ปัญหาชีวิตและสังคมของทุกวันนี้ และเมื่อทำตามจึงมีพลังในการแก้ปัญหาชีวิต ความสัมพันธ์ และสังคมในโลกปัจจุบัน

พระกิตติคุณ เป็นวิธีคิด กรอบคิด และมุมมอง ที่ผู้ติดตามพระเยซูคริสต์ต้องสำแดงให้เห็นชัดในการดำเนินชีวิตแต่ละวันตามพระบัญชาของพระองค์ ตามความคาดหวังของพระเยซูคริสต์จากเราผู้เป็นสาวกและตัดสินใจมีชีวิตที่ติดตามพระองค์ การที่จะมองดูว่าชีวิตสาวกพระเยซูคริสต์ หรือ คริสตชนคนใดว่ามีพระกิตติคุณเป็นหัวใจในชีวิตหรือไม่ก็ดูได้จากการกระทำของเขาในแต่ละวัน

เป็นความจริงที่ว่า ความรักเมตตากรุณาเป็นหัวใจของพระกิตติคุณ เพราะพระเจ้าทรงรักเมตตากรุณา และพระคริสต์ทรงสำแดงความรักเมตตากรุณาให้เป็นรูปธรรม แต่พระกิตติคุณที่เป็นรูปธรรมนี้ต่างจากวิธีคิด กรอบคิด และมุมมองของกระแสแห่งโลกนี้ เพราะพระเยซูคริสต์สำแดงความรักเมตตากรุณาแก่ศัตรู, ทำดีกับคนที่เกลียดชังตน, อวยพรแก่คนที่แช่งด่าตน, อธิษฐานเผื่อคนที่ทำร้ายตน, ความรักในพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์คือรักที่พร้อมจะให้ มิใช่รักเพื่อที่จะได้ เป็นความรักที่จะให้โดยไม่จำกัดด้วยเงื่อนไขและเหตุผล หรือติดขัดด้วยสิทธิและศักดิ์ศรีแห่งตน โดยไม่คิดว่าตนเองเป็นเจ้าของ ความรักในพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์คือการสละด้วยจิตใจที่เมตตาและให้ด้วยใจกรุณา

มีคนถามผมว่า รักตามนัยพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์นี้ เป็นพระบัญญัติ เป็นกฎเกณฑ์ เป็นระเบียบปฏิบัติ หรือเป็นศีลธรรม หรือเป็นคริสต์จริยธรรม ผมตอบไปว่าไม่ใช่ทั้งนั้น ที่คริสตชนหรือสาวกของพระคริสต์มีวิธีคิด กรอบคิด มุมมองชีวิต ท่าทีที่แสดงออกเช่นนี้เพราะเรากระทำตามแบบอย่างของพระบิดา ตามที่พระเยซูคริสต์กล่าวไว้ว่า “พวกท่านจงมีใจเมตตากรุณาเหมือนอย่างพระบิดาของท่านมีพระทัยเมตตากรุณา” (ข้อ 36) ถ้าเราทำตามแบบอย่างของพระบิดาเราก็เป็น “บุตรขององค์ผู้สูงสุด”(ข้อ 35)

อีกประการหนึ่ง การรักด้วยจิตใจเมตตากรุณาตามพระทัยของพระบิดาเป็นหัวใจของพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์เพราะ นี่คือคุณภาพชีวิตแห่งแผ่นดินของพระเจ้าที่เป็นเป้าประสงค์ของการมาบังเกิดเป็นมนุษย์ของพระเยซูคริสต์ ตามที่ปรากฏในคำอธิษฐานที่ทรงสอนสาวกตอนหนึ่งว่า “ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่ ขอให้เป็นไปตามพระทัย ของพระองค์ ในสวรรค์เป็นอย่างไรก็ให้เป็นอย่างนั้นในแผ่นดินโลก”(มัทธิว 6:10 ฉบับมาตรฐาน) ดังนั้น คริสตชนจึงมีเป้าประสงค์เดียวกับพระเยซูคริสต์ที่จะให้ชุมชนสังคมมีชีวิตเป็นไปตามพระทัยของพระบิดา อย่างน้อยที่สุดในชุมชนของคริสตชนพึงสำแดงความรักเมตตาตามพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ออกมาเด่นชัดเป็นรูปธรรม

ทุกวันนี้ คริสตจักร สถาบันคริสเตียน โรงเรียน โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย หน่วยงานพันธกิจต่างๆ ได้เป็นชุมชนที่สำแดง “พระทัยเมตตากรุณาอย่างพระบิดา” ที่เป็นรูปธรรมหรือไม่? ในเรื่องอะไรบ้าง อย่างไรบ้าง ตามหัวใจแห่งพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์? และในข้อที่ 35 พระเยซูกล่าวไว้ตอนหนึ่งชัดเจนว่า “...พระบิดาทรงพระกรุณาต่อทั้งคนอกตัญญูและคนชั่ว...”(ซึ่งมักอยู่นอกกรอบ หรือไม่ก็กลายเป็นเงื่อนไขที่จำกัดการสำแดงความรักเมตตาของเราที่เรียกตนเองว่า “สาวกพระคริสต์”?)

ประเด็นสำหรับการใคร่ครวญและอภิปรายกลุ่ม

1. ท่านจะตอบสนองต่อการทรงเรียกของพระเยซูคริสต์ให้ “รักศัตรูของท่าน” ได้อย่างไรบ้างในวันนี้?

2. ท่านเคยทำตามสิ่งที่พระเยซูคริสต์ทรงสอนข้างต้นหรือไม่? เมื่อไหร่? ในเรื่องอะไร? ผลเป็นอย่างไรบ้าง?

3. วันนี้พระเยซูคริสต์ทรงเรียกท่านในจิตใจให้สำแดงความรักเมตตาตามพระกิตติคุณของพระองค์กับใครบ้าง? ให้สำแดงความรักเมตตาตามพระกิตติคุณในรูปแบบใด?

ใคร่ครวญภาวนา

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า เป็นการง่ายที่จะพูดพร่อยๆ ว่า “หัวใจของคริสต์ศาสนาคือความรักเมตตา” ด้วยใบหน้าที่เชิดขึ้นและดูเหมือนชื่นบาน ข้าพระองค์มักตกหลุมพรางที่สำแดงความรักแต่ปากและคำพูด แต่พระองค์ประสงค์ให้ข้าพระองค์สำแดงความรักเมตตาอย่างเป็นรูปธรรมตามแบบอย่างของพระบิดา พระองค์ต้องการให้ข้าพระองค์รักคนที่เป็นศัตรูในชีวิตจิตใจของข้าพระองค์ พระองค์ต้องการให้ข้าพระองค์อวยพรคนที่หวังร้ายทำลายข้าพระองค์ พระองค์ต้องการให้ข้าพระองค์อธิษฐานเผื่อคนที่เกลียดข้าพระองค์ พระองค์ต้องการให้ข้าพระองค์ยกโทษและขอกลับคืนดีกับคนที่เกลียดข้าพระองค์

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดเมตตาในความผิดบาปของข้าพระองค์ ที่ข้าพระองค์พยายามตอบสนองการทรงเรียกให้มีความรักเมตตาตามพระกิตติคุณของพระองค์ด้วยสมองและปัญญาเท่านั้น ข้าพระองค์สอน เทศน์ เขียนบทความคริสต์ศาสนศาสตร์ ฯลฯ แต่ขาดอยู่อย่างหนึ่งคือการสำแดงออกเป็นรูปธรรมในชีวิตประจำวัน

โปรดทรงช่วยข้าพระองค์ เรียนรู้ถึงการที่จะรัก “ศัตรู” ของข้าพระองค์ เมตตาคนที่เกลียดข้าพระองค์ และโปรดประทานกำลังจากพระองค์เพื่อข้าพระองค์จะสามารถกระทำตามพระประสงค์ของพระองค์ แม้ว่าข้าพระองค์จะรู้สึกยุ่งยากใจ สับสน หรือกลัวที่จะต้องรักคนนั้นที่เกลียดและทำลายข้าพระองค์ โปรดประทานพลังแห่งพระคุณของพระองค์แก่ข้าพระองค์ที่จะเปลี่ยนแปลงข้าพระองค์ให้เป็นเฉกเช่นพระบิดาที่มีพระทัยเมตตากรุณาแก่คนที่อกตัญญูและคนชั่ว อาเมน

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น