23 มิถุนายน 2558

สิ่งเล็กน้อยในชีวิตประจำวันที่ศักดิ์สิทธิ์

“ใครบังอาจดูถูกสิ่งเล็กน้อยที่เกิดขึ้น(เริ่มต้น)ในวันนี้  
เพราะพระเนตร...ขององค์พระผู้เป็นเจ้า...ชื่นชมยินดีเมื่อเห็นศิลามุมเอก...”
(เศคาริยาห์ 4:10 อมต.)

พระธรรมเศคาริยาห์ กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกรุงเยรูซาเล็มที่ยิวกลับจากการเป็นเชลยในต่างแดน   ได้ซ่อมสร้างพระมหาวิหารเยรูซาเล็มขึ้นใหม่   แต่การซ่อมสร้างพระวิหารกลับหยุดชะงัก   เพราะประชาชนไม่สนใจที่จะรับใช้พระเจ้า   เพราะต่างคนอ้างว่า ต้องมีภาระการทำมาหากินและความอยู่รอดปลอดภัยของตนเองมากมาย   และยิ่งกว่านั้นประชาชนยังท้อแท้  เหนื่อยหน่าย อ่อนแรง  จนไม่อยากทำอะไรสำหรับส่วนรวม

ท่ามกลางความเหน็ดเหนื่อย ท้อแท้ สิ้นหวังของประชาชน   เศคาริยาห์ให้กำลังใจประชาชน  ให้เชื่อพึ่งในพระกำลังของพระเจ้า   และชี้ให้ประชาชนเห็นว่า  ความอยู่รอดปลอดภัยของพวกเขาและสังคมประเทศชาติมิใช่เพราะเรามีความแข็งแกร่ง  เข้มแข็ง  ยืนหยัดแข็งขืนไม่ยอมใคร  จนพัฒนาไปเป็นความแข็งกร้าว   เพราะนั่นก็มิได้ชี้ชัดและประกันได้ว่า อิสราเอลจะอยู่รอดปลอดภัย  และมีชีวิตอย่างมีคุณค่า และพลัง แต่พระเจ้าตรัสว่า  “ไม่ใช่ด้วยกำลัง  ไม่ใช่ด้วยฤทธิ์อำนาจ  แต่โดยพระวิญญาณของพระเจ้า”   พระวิญญาณของพระเจ้าเท่านั้นที่จะกระทำแต่ละสิ่งในชีวิตประจำวันของผู้คนที่ดูธรรมดา  เล็กน้อย  บางครั้งมนุษย์ดูว่าด้อยค่า  แต่พระเจ้าทำให้กลับกลายเป็นสิ่งที่มีคุณค่าเที่ยงแท้  และนำถึงความสำเร็จอย่างแท้จริง

เมื่อเศคาริยาห์วางรากฐานพระวิหาร   ประชาชนและพวกผู้เฒ่าผู้แก่ที่เคยเห็นถึงความโอ่อ่ายิ่งใหญ่สวยงามของพระมหาวิหารที่ซาโลมอนสร้าง   ต่างพูดและรู้สึกว่า  พระวิหารที่เศคาริยาห์วางรากนั้น   บ่งบอกถึงพระวิหารนั้นมีขนาดเล็ก  และไม่น่าจะยิ่งใหญ่อลังการอย่างในอดีต   พวกเขาไม่เห็นคุณค่า!   และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ประชาชนไม่สนใจ  ไม่ให้ความร่วมมือ  ไม่ยอมเสียสละทุ่มเท เพราะเขาเห็นว่า สิ่งที่ทำนั้น“ด้อยค่า”

แต่พระเจ้าตรัสว่า  “ใครบังอาจดูถูกสิ่งเล็กน้อยที่เกิดขึ้น หรือ เริ่มต้นในวันนี้   เพราะพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงชื่นชมยินดีเมื่อเห็นศิลามุมเอก...”   ในสายพระเนตรของพระเจ้า  สิ่งใหญ่  ความงดงามโอ่อ่าตระการตา  ความแข็งแกร่งบึกบึน  ความทันสมัยใช่ว่าจะเป็นสิ่งดีมีคุณค่าเสมอไป

ทุกสิ่งเล็กสิ่งน้อยที่เราทำเป็นประจำ (รูทีน routine) ที่กระทำบนรากฐานของจิตใจจิตวิญญาณที่ตั้งใจทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า   ด้วยความรักเมตตาที่เสียสละแบบพระคริสต์ต่างหากที่นำมาซึ่งความชื่นชมยินดี   แล้วทำให้เห็นคุณค่าในชีวิตของเรา  จนเป็นเหตุให้เกิดพลังชีวิตในการจาริกไปบนเส้นทางแห่งพระประสงค์ได้

คุณค่าในชีวิตของเรา   ความศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์ในชีวิตประจำวันของเรา   มิได้ขึ้นอยู่กับการที่เรานุ่งขาวห่มขาว  หรือนุ่งดำห่มดำ   หรือมิใช่เพราะเราได้รับการสถาปนาเป็นศาสนาจารย์  ศิษยาภิบาล หรือ ผู้ปกครองคริสตจักร  หรือ ประกอบศาสนพิธีที่สำคัญเสมอไป   แต่อยู่ที่เราดำเนินชีวิตในเรื่องเล็กเรื่องน้อยของชีวิตประจำวัน   ตั้งแต่การเตรียมอาหารการกินสำหรับคนในครอบครัว   ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว   ความสัมพันธ์กับคนในที่ทำงาน  การห่วงหาอาทรแก่คนรอบข้างที่พบเห็น   การมีเวลาที่จะฟังเพื่อนคนหนึ่งจนได้ยินถึงความรู้สึก ต้องการในชีวิตของเขา   การมีเวลาที่จะอธิษฐาน มีเวลาอยู่กับพระเจ้า   มีเวลาที่จะสนุกสนานกับลูกที่บ้าน คุณค่า ความศักดิ์สิทธิ์ และพลังชีวิตสำหรับเรานั้นได้มาจากการทำงานชีวิตประจำวันเหล่านี้บนรากฐานแห่งความรักเมตตา เสียสละแบบพระคริสต์   เป็นการกระทำที่เราใส่ใจทำสิ่งเหล่านั้นว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าต้องการให้เราทำเช่นใดในสิ่งเล็กสิ่งน้อยเหล่านั้น   เมื่อเราทำลงไปแล้ว   พระองค์จะเป็นผู้อวยพระพรให้กลับกลายเป็นคุณค่าที่ยิ่งใหญ่สำหรับเราและสังคมที่เราอยู่ด้วย

ให้เราทุ่มเทชีวิตสำหรับสิ่งเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระเจ้า   แล้วพระองค์จะอวยพระพรที่ยิ่งใหญ่ในสิ่งเล็กน้อยที่เราทำเหล่านั้น

คุณค่าความสำคัญในชีวิตไม่ได้อยู่ที่ ความเล็กน้อย หรือยิ่งใหญ่ในสิ่งที่เราทำ   แต่อยู่ที่เราทำด้วยสุดใจสุดจิตสุดความคิดชีวิตของเราแค่ไหนตามพระประสงค์ของพระเจ้านั้นต่างหากที่วัดความยิ่งใหญ่   และคุณค่าที่เกิดขึ้นมิได้จากสิ่งที่เราทำ   แต่เป็นการที่พระเจ้าทรงกระทำพระราชกิจของพระองค์ในชีวิตประจำวันของเรา และ ผ่านชีวิตของเราแต่ละวัน   จนเกิดเป็นพระพรที่พระเจ้าประทานแก่งานที่เราทำนั้นต่างหาก

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น