02 มิถุนายน 2558

เดินทีละก้าว...พระเจ้าเคียงข้างทุกวัน!

จงมั่นใจในพระเจ้าถึงสิ่งดี ๆ ที่พระเจ้ากระทำในชีวิตของเรา และ ทำผ่านชีวิตของเราในวันนี้

เพราะ​ว่า​สำ​หรับ​ข้าพเจ้า การ​มี​ชีวิต​อยู่​ก็​เพื่อ​พระ​คริสต์ และ​การ​ตาย​ก็​ได้​กำ​ไร  (ฟิลิปปี 1:21 มตฐ.)

วันหนึ่ง   เมื่อจอร์จ ไวท์ฟิลด์ (George Whitfield) นักประกาศเรืองนามของโลกในสมัยของเขากำลังร่วมวงสนทนากับเพื่อนสนิทรุ่นราววัยเดียวกับเขา    เขาได้พูดถึงความลำบาก  ปัญหา  อุปสรรค  และความรู้สึกที่ตีบตัน  และสร้างความเหนื่อยอ่อนใจกายของงานพันธกิจที่เขาต้องแบกรับใช้อยู่นั้น   แล้วเขากล่าวตอนท้ายว่า  แต่อย่างไรก็ตาม คงอีกไม่นานที่เขาก็จะไปอยู่กับพระเจ้าแล้ว

เพื่อนร่วมกลุ่มสนทนาเกือบทุกคนแสดงออกถึงความรู้สึกในทำนองเดียวกันกับ จอร์จ  ไวท์ฟิลด์  มีเพื่อนเพียงคนเดียวที่นั่งเงียบอยู่ในกลุ่ม   ไวท์ฟิลด์จึงเอ่ยปากถามเพื่อนคนนี้ว่า 

“เพื่อน  นายเป็นเพื่อนที่มีอายุมากที่สุดในกลุ่มของเรา   ดูเหมือนเพื่อนจะไม่สนใจ หรือ ดีใจกับการที่เรามีชีวิตใกล้ฝั่ง  ที่ชีวิตเราจะเปลี่ยนสภาพไปอยู่ในบ้านขององค์พระผู้เป็นเจ้า”

ชายชราคนนั้นพูดโพล่งตรงเผงออกมาว่า  ผมไม่มีหน้าที่จะต้องทำอะไรกับความตายของตนเอง  หน้าที่และความรับผิดชอบของผมคือ  ทำวันนี้ด้วยความรับผิดชอบและสัตย์ซื่อต่อพระประสงค์ของพระผู้ช่วยให้รอดในวันนี้ให้ดีที่สุดและด้วยความสัตย์ซื่อ  และถ้าพระเจ้าเห็นว่าวันไหนที่พระองค์จะเรียกผมให้มีชีวิตที่เปลี่ยนจากที่เป็นในวันนี้ไปอยู่กับพระองค์แล้ว  ผมก็จะต้องไปตามที่พระองค์ทรงเรียกนะ

ไวท์ฟิลด์ รับว่าคำกล่าวของเพื่อนอาวุโสคนนี้เป็นเสียงเตือนจากพระเจ้า   และเป็นคำพูดความคิดที่หนุนเสริมเพิ่มกำลังชีวิตของเขาที่จะก้าวเดินต่อไปทีละก้าวในแต่ละวัน   ไม่ว่าสถานการณ์รอบข้างจะเป็นเช่นไร   เพียงให้เห็นคุณค่าในการที่เราจะใช้ชีวิตทำตามพระประสงค์ที่มอบหมายให้เราทำด้วยความสัตย์ซื่อและสุดจิตสุดใจสุดความคิดในแต่ละวัน

เมื่อชีวิตย่างเข้าสู่ฤดูกาล “ใบไม้ร่วง”   เป็นการง่ายที่เราจะลืมตนคิดถึงแต่สิ่งดี ๆ ในอดีตชีวิตที่ผ่านมา   แล้วมักโหยหาที่จะกลับไปทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง  หรือต้องการกลับไปแก้ไขสิ่งผิดพลาดให้ดีถูกต้อง   แต่นั่นเป็นความโหยหาที่เป็นจริงไปไม่ได้แล้ว   หรือไม่เราก็มุ่งมองไปข้างหน้าอยากจะไปให้ถึงสิ่งดี ๆ ที่เราจะสบายในอนาคต เช่น  การยึดมั่นแต่ที่จะมีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงจากชีวิตโลกนี้ไปอยู่กับพระเจ้า   จึงทำให้เราไม่ทำอะไรมากนัก   ทำหน้าที่ “รอคอย” รถเมล์เที่ยวสุดท้ายที่จะมารับเราไป “สวรรค์”   ด้วยชีวิตที่เฉื่อยชาไร้ประโยชน์

แต่เปาโลบอกเราว่า  ที่เรามีชีวิตอยู่ไม่ว่ากี่ปี กี่เดือน  กี่วัน หรือกี่ชั่วโมง  “เราอยู่เพื่อพระคริสต์”   และการที่เราจะอยู่เพื่อพระคริสต์  เราต้องอยู่เพื่อดำเนินชีวิตแต่ละวันนี้รับใช้ตามพระประสงค์   และสำนึกว่า ถึงเราจะแก่และอ่อนแรงแต่เราไม่ได้พึ่งพิงกำลังของเราเท่านั้น  แต่ได้รับเสริมหนุนด้วยกำลังจากพระวิญญาณบริสุทธิ์

ดังนั้น   ให้เรามีชีวิตอยู่ในวันนี้ด้วยมุ่งมองถึงสิ่งดี ๆ ที่มีข้างหน้าที่องค์พระผู้เป็นเจ้ามีพระประสงค์ต้องการให้เราทำ    และรู้ด้วยว่า  วันนี้เป็นวันที่พระเจ้าจะทรงใช้เราท่านแต่ละคนให้ทำสิ่งที่ดียิ่งในสายพระเนตรของพระองค์   ด้วยการหนุนเสริมเพิ่มพลังจากพระองค์   ส่วนเรื่องที่เราจะถูกรับไปอยู่กับพระเจ้าเมื่อใดนั้นไม่ใช่ภาระหน้าที่ของเรา   แต่พระเจ้าเป็นผู้รับผิดชอบและทำตามน้ำพระทัยของบพระองค์ในเรื่องนี้

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น