“ฉันเกลียดเจ้าหมอนี่”
คำพูดนี้สะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่มีใครบางคนพยายามที่จะควบคุม
หรือ บงการชีวิตของใครคนอื่น
แล้วอะไรที่ทำให้คนบางคนที่จะพยายามควบคุม
หรือ มีอำนาจเหนือคนอื่นล่ะ?
คำตอบคือ ความกลัวไง
เพราะความกลัวเราเลยพยายามเข้าไปควบคุมจัดการเหนือชีวิตของคนอื่นมิใช่หรือ?
การที่เรามีความรู้สึกที่ไม่มั่นคงทำให้เราต่อต้านแข็งขืน
หรือ พยายามที่จะเข้าควบคุมคนอื่น
เมื่อเราเกิดความรู้สึกที่ไม่มั่นคง
เพราะสิ่งที่เรากำลังคิดในเวลานั้นคือ คิดว่าคนอื่นคิดคนอื่นมองเราในแง่ร้าย
ในทางที่ไม่ดี
มุมมอง ความคิด
ความรู้สึกเช่นนี้เป็นการทำลายความสัมพันธ์กับคนรอบข้างที่เราต้องเข้าไปเกี่ยวข้อง
เป็นเรื่องแปลกมากครับ
คนเราต้องการที่จะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคนอื่น
เราปรารถนาที่จะมีความสนิทสนมกับคนอื่น
แต่เราก็กลัวที่จะต้องได้รับความเจ็บปวด
หรือ การสูญเสียจากความใกล้ชิดสนิทสนม
ความรู้สึกไม่มั่นคงเป็นตัวทำลายความสัมพันธ์
ทำให้เราไม่กล้าที่จะสนิทสนม(อย่างจริงใจ)
เราไม่สามารถมีความสัมพันธ์สนิทสนมกับใครบางคน
ถ้าในความสัมพันธ์นั้นยังมีความกลัวซุกซ่อนอยู่
ถ้าความรู้สึกไม่มั่นคงเป็นตัวทำลายความสัมพันธ์
แล้วอะไรล่ะที่เป็นตัวเสริมสร้างความสัมพันธ์สนิท?
ความรัก
ความเมตตาไงล่ะที่เสริมสร้างสัมพันธภาพ
ในพระธรรม
1ยอห์น 4:18 กล่าวว่า “ในความรักนั้นไม่มีความกลัว
แต่ความรักที่สมบูรณ์นั้นก็ขับไล่ความกลัวออกไปเสีย
เพราะ...ผู้ที่กลัวก็ยังไม่มีความรักที่สมบูรณ์”
(มตฐ.)
แล้วความรักเมตตาขับไล่ความกลัวออกไปได้อย่างไร?
ความรักนั้นย้ายจุดมุ่งมั่นสนใจของเราออกจากตนเองไปยังคนอื่น
เมื่อเราต้องพบปะผู้คนมากมายด้วยความสัมพันธ์ที่สนิทสนม
เราต้องสนใจคนที่อยู่ข้างหน้าและรอบตัวเรา มิใช่สนใจแต่ตนเอง
แต่ถ้าเรากำลังพบใครบางคนแล้วมัวแต่คิดว่า
เอ...แล้วเขาจะคิดอย่างไรกับการแต่งตัวของเรา...
เราจะเกิดความรู้สึกไม่มั่นคง
แต่ถ้าเราเปลี่ยนจากการคิดถึงแต่ตนเอง
ไปสู่ความคิดว่าเราจะร่วมทำงานรับใช้พระเจ้ากับเขา
ความรู้สึกกลัวไม่มั่นคงก็จะอันตรธานไป
เช่นเดียวกันในความสัมพันธ์
ถ้าเรามุ่งเน้นให้ความสำคัญแก่คนอื่น
ก็จะทำให้เราเกิดพลังที่จะขับไล่ความกลัวนั้นออกไปจากชีวิตจิตใจของเรา
แล้วเราจะมีพลังที่จะมุ่งมั่นสนใจความสำคัญของคนอื่นได้อย่างไร?
เรารู้แก่ใจแล้วว่า พระเจ้ารักเมตตาเรามากแค่ไหน
ถ้าเวลาใดที่เราตระหนักชัดถึงความรักเมตตาของพระเจ้าที่มีในชีวิตของเรา
พระเจ้าให้คุณค่าและความสำคัญในชีวิตของเรา
ในเวลานั้นเองเราไม่จำเป็นที่จะต้องพยายามทำให้คนอื่นเห็นถึงคุณค่า
ความสำคัญของเราอีกต่อไป
เราไม่ต้องใช้เวลาในการพยายามทำตนให้เป็นที่ถูกอกต้องใจของคนอื่น
เพราะเรารู้และมั่นใจว่า เรามีคุณค่า
เรามีความสำคัญ
เพราะเราตระหนักชัดว่าพระเจ้าทรงรักเรา
ในเวลาเช่นนั้น เราจะรู้สึกถึงชีวิตที่ได้รับการปลดปล่อย มีเสรีในการที่จะชื่นชมยินดี
ความเป็นตัวตนของเรา
คุณค่าในชีวิตของเรามิได้ขึ้นอยู่กับความคิดความเห็นของคนอื่นต่อไป
เมื่อเรามั่นใจในความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับองค์พระผู้เป็นเจ้า
ก็จะไม่มีแรงกดดันจากความคาดหวังของคนอื่นที่บีบคั้นในชีวิตของเราได้
เพราะความรักเมตตาของพระเจ้าที่ปลดปล่อยให้ท่านมีพลังเสรีที่จะรักเมตตาคนอื่นอย่างไร้ความกลัว
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น