เมื่อคณะผู้บริหารบริษัท เวสท์เติร์น ยูเนียน
คอมปานี (Western Union Company) ขอให้ โธมัส เอดิสัน(Thomas Edison) นักประดิษฐ์นวัตกรรมผู้ยิ่งใหญ่
ช่วยบอกราคาสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนั้นของเขาว่าราคาเท่าใด เอดิสัน
ขอเวลาที่จะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้
ภรรยาที่บ้านเสนอเขาว่า ให้เรียกราคา $20,000 แต่เอดิสันเองรู้สึกว่า
เป็นการตั้งราคาที่สูงเกินไป
เมื่อถึงวันที่พบปะกับคณะบริหารของบริษัทเพื่อเสนอราคา
ผู้บริหารบริษัทถามเอดิสันว่าจะเรียกราคาสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนั้นเท่าไหร่ ในใจของเอดิสันอยากจะบอกพวกเขาว่า $20,000
แต่เขาไม่อยากพูดออกมาจากปากของเขา
ท่ามกลางความเงียบ ผู้บริหารพูดขึ้นว่า “ถ้าราคา $100,000 จะว่าอย่างไร?”
บ่อยครั้ง เป็นการง่ายที่เราจะตีค่าราคาในเรื่องต่าง
ๆ ต่ำกว่าคุณค่าจริงของสิ่งนั้น
ถ้าเราไม่สามารถที่จะมองเห็นคุณค่าที่แท้จริงของสิ่งนั้นที่จะส่งผลกระทบต่อชีวิตสังคมมากแค่ไหน ในที่นี้เอดิสัน เห็นเพียงว่า
สิ่งที่เขาผลิตขึ้นใหม่ชิ้นนี้
เป็นสิ่งใหม่ในสังคมโลก ที่จะให้ประโยชน์เฉพาะเรื่อง
แต่เขาไม่ได้มองเห็นไกลถึงว่าสิ่งประดิษฐ์ของเขานอกจากจะสร้างประโยชน์เฉพาะแล้ว
ยังสร้างผลกระทบต่อวิถีการดำเนินชีวิตของมนุษยชาติ และต่อการเปลี่ยนแปลงสังคมมนุษย์ไปไกลกว่าที่เขาเห็นในเวลานั้น ดังนั้น
เขาจึงตีค่าราคาสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนั้นของเขาต่ำกว่าความเป็นจริง
คุณค่ามิได้มีแต่ผลประโยชน์เฉพาะที่เกิดขึ้นในเวลานั้นเท่านั้น
แต่พลังของสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนั้นเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คนและสังคมโลกนี้เลยทีเดียวอย่างเช่นการผลิตหลอดไฟฟ้าเป็นต้น
ในฐานะคริสตชน
เรามักมองเห็นคุณค่าราคาชีวิตของพระคริสต์
และ ชีวิตที่สละบนกางเขนของพระคริสต์เฉพาะเพียงการไถ่ชำระเราจากความบาปผิดที่เรากระทำเท่านั้น ดังนั้น
ทุกวันนี้เราจึงมองคุณค่าของพระคริสต์เฉพาะการเปลี่ยนแปลงด้านจิตวิญญาณของเรา และเป็นเรื่องของแต่ละบุคคลเท่านั้น แต่แท้ที่จริงแล้วชีวิตที่รัก เมตตา
ที่เสียสละแบบพระคริสต์นั้นนอกจากจะไถ่ถอนปลดปล่อยเราออกจากอำนาจแห่งความบาปชั่วนานาลักษณะแล้ว
ความรักที่เสียสละของพระคริสต์ยังเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ในการเปลี่ยนจิตใจ
ชีวิต และการเลือกวิถีชีวิตของผู้คน
และยังเป็นพลังการเปลี่ยนแปลงระบอบสังคมอีกด้วย และสิ่งนี้มิได้เกิดขึ้นเอง
แต่เป็นการทรงจัดเตรียมของพระเจ้าเพื่อมนุษยชาติที่พระองค์รักเมตตา
ดังที่มีเขียนไว้ว่า
“สิ่งที่ตาไม่เห็น
หูไม่ได้ยิน และสิ่งที่ใจมนุษย์คิดไม่ถึง
คือสิ่งที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้สำหรับคนทั้งหลายที่รักพระองค์” (1โครินธ์ 2:9 มตฐ.)
วันนี้เราจะดำเนินชีวิตแบบไหน บนเส้นทางแห่งความรัก เมตตา
และเสียสละด้วยชีวิตของพระคริสต์? ที่เราเรียกว่าบนวิถีทางแห่งชีวิตใหม่ในพระเยซูคริสต์
เราจะทำตัวเป็นเหมือนแม่ไก่ได้พลอย หรือ
แม่สุกรได้เพชร เช่นนั้นหรือ?
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น