27 กรกฎาคม 2554

แต่พระเจ้ารู้ซึ้งถึงจิตใจของท่าน...ตอนที่ 2

แต่พระองค์ตรัสแก่เขาว่า
“เจ้าทั้งหลายทำทีดูเป็นคนชอบธรรมต่อหน้ามนุษย์
แต่พระเจ้าทรงทราบจิตใจของเจ้าทั้งหลาย
ด้วยว่าซึ่งเป็นที่นับถือมากท่ามกลางมนุษย์
ก็ยังเป็นที่เกลียดชังจำเพาะพระพักตร์พระเจ้า”
(ลูกา 16:15)

พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า
“พวกท่านทำตัวเป็นคนชอบธรรมในสายตามนุษย์
แต่พระเจ้าทรงทราบจิตใจของท่าน
สิ่งที่ถือว่าสูงค่าในสายตามนุษย์ก็น่ารังเกียจในสายพระเนตรพระเจ้า”
(อมตธรรม, ลูกา 16:15)

ครั้งก่อนเราได้สะท้อนคิดพระธรรมตอนนี้ด้วยการพุ่งความสนใจของเราไปที่ว่า พระเจ้าทรงทราบลงลึกในก้นบึ้งแห่งหัวใจของเรา ในวันนี้ให้เราสะท้อนคิดต่อไปอีกหนึ่งถึงสองประเด็น

ประการแรก พระเจ้าทรงทราบถึงจิตใจที่โศกเศร้า จิตใจที่กำลังทุกข์ยากลำบาก แต่ท่านก็ยังสามารถทำเป็นว่าหน้าตาสดใสจิตใจชื่นบานให้คนอื่นเห็นได้ เราหลอกคนอื่นได้ แต่เราหลอกพระเจ้าไม่ได้ พระองค์ทรงมองเห็นลงลึกถึงสิ่งที่อยู่ในจิตใจของเรา แม้เราจะซ่อนเร้นมิดชิดเพียงใดก็ตาม และสำคัญกว่านั้นคือ พระเจ้าทรงเห็นภายในของเราอย่างลึกซึ้งยิ่งกว่าเราจะรู้เท่าทันตนเองเสียอีก

ประการที่สอง บางครั้งคนเรากลัวว่าพระเจ้าจะทรงทราบว่าภายในชีวิตของตนเป็นเช่นนั้นเช่นนี้ และพยายามที่จะเก็บซ่อนความคิดของตนจากสายพระเนตรของพระเจ้า แต่ไม่สำเร็จ หรือเขาคนนั้นอาจจะพยายามปกป้องหรือแสดงให้คนอื่นเห็นว่าการกระทำของตนนั้นดีถูกต้อง รวมถึงการที่พยายามจะทำให้จิตในภายในของตนให้สะอาดบริสุทธิ์ แต่เขาก็พบว่าไม่มีทางที่จะซุกซ่อนความจริงเหล่านั้นได้เลย ดังนั้น ชีวิตที่ดำรงอยู่จึงเป็นอยู่ด้วยความกลัวในพระพิโรธและการพิพากษาของพระเจ้า

ประการที่สาม ข่าวดีก็คือ เมื่อเราพิจารณาความจริงของการที่พระเจ้าทรงทราบลงลึกถึงก้นบึ้งแห่งจิตใจของเรานั้น เราต้องชัดเจนในที่นี้ว่าพระเจ้ามิได้เป็นผู้กระหายหาการลงโทษ แต่พระลักษณะที่สำแดงผ่านชีวิตของพระเยซูคริสต์เราพบว่า พระองค์เป็นเหมือนผู้เลี้ยงแกะที่มีจิตใจมุ่งเสาะหาแกะตัวที่หลงหาย หรือเป็นเหมือนหญิงที่เสาะหาเหรียญที่หาย เหมือนกับพ่อที่อ้าแขนต้อนรับบุตรคนเล็กที่ผลาญสมบัติส่วนของตนจนหมดสิ้น พระเจ้าต้องการอ้าแขนออกเพื่อโอบกอดเราแต่ละคนและเปลี่ยนแปลงแต่ละชีวิต พระเจ้าผู้ทรงมองทะลุเข้าในจิตใจของเราไม่ต้องการที่จะลงโทษเรา พระองค์พร้อมที่จะยกโทษแก่เราแต่ละคนถ้าเราพร้อมที่จะรับการยกโทษจากพระองค์ ดังนั้น พระเจ้าที่ทรงล่วงรู้ลงลึกถึงชีวิตจิตใจภายในของเรา พระองค์ทรงเข้าพระทัย ทรงกระตุ้นเราให้หันกลับมาหาพระองค์ด้วยความเชื่อมั่นและด้วยความหวัง

ในพระธรรมฮีบรูบทที่ 4 ได้อธิบายประเด็นนี้อย่างชัดเจน ในข้อ 13 ได้ชี้ให้เห็นว่า “ไม่มีสิ่งใดที่ทรงสร้างไว้จะซ่อนเร้นจากสายพระเนตรของพระเจ้าได้ ทุกสิ่งถูกเปิดเผยและถูกตีแผ่ต่อพระเนตรพระองค์ผู้ซึ่งเราทั้งหลายต้องกราบทูลรายงาน” (อมตธรรม) พระคัมภีร์กล่าวต่อไปว่า ดังนั้นให้เราชำระจิตใจของเราให้สะอาด และปรับแก้พฤติกรรมของเราให้ถูกต้องเช่นนั้นหรือ? ไม่ใช่แน่ แต่พระคัมภีร์ย้ำเตือนเราถึงพระเยซูคริสต์ “มหาปุโรหิตผู้ยิ่งใหญ่” ผู้ทรงเห็นใจในความอ่อนแอต่างๆ ของเรา เพราะพระองค์ทรงถูกทดลองใจเช่นเดียวกับเราทุกประการ กระนั้นก็ทรงปราศจากบาป”(ข้อ 15) เพราะพระเยซูคริสต์ทรงเข้าใจเรา และเพราะพระองค์ทรงเป็นมหาปุโรหิตที่ทรงเปิดทางแก่เราเพื่อเราจะสามารถคืนสู่สัมพันธภาพที่ถูกต้องกับพระเจ้า ตามที่บันทึกในพระธรรมฮีบรูว่า “ฉะนั้น ขอให้เราเข้ามาใกล้บัลลังก์แห่งพระคุณด้วยความมั่นใจ เพื่อเราจะได้รับพระเมตตา และจะพบพระคุณที่จะช่วยเหลือเราเมื่อถึงคราวจำเป็น”(4:16, อมตธรรม)

เพราะพระเยซูคริสต์ทรงสำแดงความรักของพระเจ้าผ่านการทรงยอมสละพระชนม์ชีพของพระองค์เพื่อเรา ดังนั้น พระองค์ทรงรู้จักเราเป็นอย่างดี เราจึงไม่ต้องกลัวที่จะถึงซึ่งความตาย แต่พระองค์จะทรงนำเราสู่ความเป็นไทใหม่ที่จะพบทางเข้าถึงพระเจ้า เป็นทางที่เปิดออกเพื่อเราที่จะมีประสบการณ์ตรงกับพระคุณที่มาถึงเรา ที่ทรงเปลี่ยนแปลงและสร้างจิตใจ และ การกระทำของเราขึ้นใหม่

ท่านรู้สึกต้องการเข้าถึงพระบัลลังก์ของพระเจ้าด้วยใจที่เป็นไทและกล้าหาญหรือไม่? ทำไม?
ถ้าท่านเชื่อมั่นอย่างจริงจังว่า พระเจ้าทรงทราบทุกสิ่งเกี่ยวชีวิตของท่าน และพระองค์ทรงรักท่านด้วยความรักอันมั่นคงของพระองค์ การดำเนินชีวิตของท่านจะเปลี่ยนแปลงแตกต่างไปจากที่เป็นในปัจจุบันนี้หรือไม่? อย่างไร?

พระเจ้าทรงทราบถึงชีวิตจิตใจทั้งสิ้นของเราแต่ละคน
ไม่มีสิ่งใดหรือส่วนใดในชีวิตที่จะซ่อนเร้นจากพระองค์ได้
นี่เป็นสิ่งที่น่าเกรงกลัวยิ่งสำหรับเรา?
แต่แท้จริงแล้ว นี่เป็นพระคุณพระคุณสำหรับเราแต่ละคน
แต่แท้จริงแล้ว พระองค์ทรงเฝ้ามองชีวิตของเราด้วยสายพระเนตรแห่งความเมตตา
แต่แท้จริงแล้ว พระองค์แสวงหาเราเพื่อที่จะมีความสนิทใกล้ชิดกับเรา
แต่แท้จริงแล้ว พระองค์ต้องการที่จะชำระเรา และ สร้างเราขึ้นใหม่

เป็นพระคุณ ที่พระเยซูคริสต์เป็นพระมหาปุโรหิตผู้ยิ่งใหญ่สำหรับเรา
เป็นพระคุณ ที่พระคริสต์ยอมสละพระชนม์ชีพเพื่อเราจะได้รับการยกบาปโทษ
เป็นพระคุณ ที่พระคริสต์ทรงเข้าใจถึงความอ่อนแอของเรา
เป็นพระคุณ ที่เราจึงเข้ามาอยู่เบื้องพระพักตร์ของพระเจ้าได้โดยทางพระเยซูคริสต์
เป็นพระคุณ ที่เราสามารถมีชีวิตที่ติดสนิทกับพระเจ้าได้
เป็นพระคุณ ที่ชีวิตของเราได้รับความเป็นไท และเข้าถึงพระเจ้าโดยปราศจากความกลัว

แท้จริงแล้ว ที่เราเข้าถึงพระเจ้าได้ในทุกวันนี้ก็เพราะพระคุณเมตตาของพระคริสต์
ขอพระองค์ได้โปรดชำระชีวิตจิตใจของเราใหม่ เพื่อเราจะสามารถดำเนินชีวิตตามพระประสงค์ของพระองค์อย่างเต็มเปี่ยม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น