04 กรกฎาคม 2554

คุณเลือกที่จะคบกับคนกลุ่มใดในวันนี้?

1ครั้งนั้นบรรดาคนเก็บภาษี และพวกคนบาปเข้ามาใกล้เพื่อจะฟังพระองค์ 2ฝ่ายพวกฟาริสีและพวกธรรมาจารย์บ่นว่า “คนนี้ต้อนรับคนบาปและกินด้วยกันกับเขา” (ลูกา 15:1-2)

บ่อยครั้งเป็นการง่ายที่คริสเตียนอาจจะเข้าใจผิดตามคำกล่าวหาของพวกผู้นำศาสนายิวและพวกฟาริสี อย่างที่ปรากฏในลูกา 15:1-2 ตลอดพระกิตติคุณเราพบว่าพระเยซูคริสต์ได้ใช้ชีวิตกับพวกคนเก็บภาษี และ พวก”คนบาป” ในสายตาของคนที่เคร่งครัดตามศาสนายิวในเวลานั้น เราคิดและเข้าใจว่าที่พระเยซูคริสต์ทำตัวเช่นนั้นก็เพื่อที่จะสามารถเข้าถึงคนกลุ่มนี้ เพื่อที่จะประกาศข่าวดีแห่งแผ่นดินของพระเจ้าแก่เขา และเรียกร้องให้พวกเขากลับใจและรับเอาชีวิตใหม่ที่พระองค์นำมา

อาจจะเป็นความจริงอย่างที่กล่าวข้างต้น แต่ก็เป็นการสุ่มเสี่ยงที่เราจะคิดคล้อยตามอย่างการกล่าวร้ายป้ายสีของพวกฟาริสี ที่พระองค์ไปคบหาสัมพันธ์กับคนที่สังคมในสมัยนั้นตราหน้าว่าชั่วช้าบาปหนา และที่สำคัญก็คือการกระทำของพระเยซูคริสต์เช่นนี้เป็นการขืนฝืนกระแสสังคมที่เขากระทำกันในสมัยนั้นตามวัฒนธรรมและกระแสสังคมยิวในศตวรรษที่หนึ่ง และนี่ก็เป็นความผิดอย่างยิ่งตามความเชื่อและเข้าใจของพวกฟาริสีในเวลานั้น พวกเขาเชื่อว่า การคบค้าเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับสามัญชน หรือแม้แต่สามัญชนคนยิวอาจจะทำให้ตนมัวหมองแปดเปื้อนเสื่อมเสียความบริสุทธิ์ พวกฟาริสีจะรับประทานอาหารร่วมกับคนไม่กี่คนที่เขาแน่ใจว่าเป็นผู้ที่สะอาดบริสุทธิ์ในการกระทำตามกฎบัญญัติและการประกอบศาสนพิธีที่หยุมหยิม

ในสายตาของพวกฟาริสีแล้วพระเยซูคริสต์กระทำผิด ดำเนินชีวิตผิด ชีวิตมีแต่ความมัวหมองเพราะการคบค้าคนไม่เลือกหน้า คบคนเก็บภาษีที่นอกจากการดำเนินชีวิตที่ผิดพลาดแปดเปื้อน อีกทั้งยังเป็นกลุ่มคนต้องห้ามเพราะคบค้ากับศัตรูทางการเมืองของชาติ รีดไถคนยิวเพื่อเอาเงินภาษีไปสวามิภักดิ์แก่โรมันผู้กดขี่ และชนชั้นปกครองที่ชั่วร้ายอย่างเฮโรดและซีซาร์ นอกจากนั้นแล้วพระเยซูยังรับประทานอาหารกับคนบาปหนาที่สังคมรู้จักและตราหน้าห้ามคบ ในสายตาของฟาริสีแล้วพระเยซูคือผู้ที่กล่าวอ้างตนเองว่าเป็นตัวแทนจากพระเจ้าที่มีพฤติกรรมชีวิตแสนจะโง่เขลาโสมม

พฤติกรรมการคบค้าคนชั่ว สัมพันธ์คนบาปของพระเยซูกับคนเก็บภาษีและคนบาปที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในสังคมสาธารณะนี้เป็นการเขย่าและสร้างความรู้สึกตกใจ สับสน ไม่พอใจแก่พวกผู้นำและผู้คนที่เคร่งครัดในศาสนายิวในเวลานั้น แต่ที่น่าสังเกตว่า ผู้ดีบาปช้าในสังคมยิวเหล่านี้เป็นผู้ที่แสวงหาที่จะมาพบคบกับพระเยซู พวกเขาต้องการที่จะอยู่ใกล้ชิดกับพระองค์ ต้องการอยู่กับพระองค์เพื่อจะได้ยินได้ฟังคำสอนของพระองค์ และพระเยซูคริสต์ก็ยอมรับผู้คนกลุ่มนี้ด้วยความยินดี ถึงกับร่วมวงรับประทานอาหารกับผู้คนในกลุ่มนี้

ตัวอย่างการดำเนินชีวิตที่เปิดเผย โปร่งใสของพระเยซูคริสต์ดังกล่าวท้าทายการดำเนินชีวิตของเราแต่ละคน เรายอมที่จะมีชีวิตร่วมกับ “คนเก็บภาษี” และ “คนบาป” ในยุคสมัยนี้ของเราหรือไม่? หรือเราส่วนมากแล้วแยกตัวกันตนออกจากคนเหล่านี้ แล้วพยายามที่จะแทรกตนเองเข้าในกลุ่มชนที่สังคมมองว่าเป็น “คนดี มีศีลธรรม ดำเนินชีวิตที่บริสุทธิ์?” กลุ่มคนที่เลือกดำเนินชีวิตในวิถีที่เห็นชัดเจนว่าแตกต่างตรงกันข้ามกับพระประสงค์ของพระเจ้าต้องการที่จะอยู่ใกล้ชิดกับเราหรือไม่? แล้วพวกเขาต้องการที่จะเข้ามาใกล้ชิดกับเราไหม?

คำถามที่เราแต่ละคนต้องตอบตนเองและพระเจ้าในวันนี้คือ
1. ชีวิตประจำวันของเราในวันนี้ได้กระทำตามแบบอย่างชีวิตที่เปิดกว้างของพระคริสต์สำหรับผู้คนทั้งหลาย รวมไปถึงประเภท “คนเก็บภาษีและคนที่ถูกตราหน้าว่าบาป” ในสังคมไทยยุคนี้หรือไม่?
2. ท่านคิดว่าทำไมคนที่ถูกตราหน้าว่าเป็นคนบาปจึงชื่นชอบพระเยซูคริสต์?
3. เราท่านจะดำเนินชีวิตในที่ทำงาน ในบ้าน ในชุมชนวันนี้ตามแบบอย่างของพระเยซูคริสต์ได้อย่างไรบ้าง?
4. ท่านคิดว่าคนกลุ่มดังกล่าวจะเข้ามาใกล้เราท่านหรือไม่? ทำไม?

ให้เราขอบพระคุณพระเยซูคริสต์สำหรับแบบอย่างชีวิตที่ยอมอยู่ร่วมกับคนเก็บภาษีและคนบาปในสมัยของพระองค์ แบบอย่างชีวิตดังกล่าวท้าทายอย่างมากต่อการตัดสินใจเลือกของเราว่าวันนี้จะดำเนินชีวิตและเลือกที่จะใช้ชีวิตกับใคร กลุ่มไหน ที่เราจะได้พบเห็นและสัมพันธ์ในวันนี้ เพื่อเราจะสามารถเปิดชีวิตสำหรับวิถีทางใหม่อย่างที่พระองค์ทรงเลือกกระทำ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น