อ่าน พระธรรมสดุดี 121:1-8
ข้าพเจ้าเงยหน้าดูภูเขา
ความช่วยเหลือของข้าพเจ้ามาจากไหน
คามช่วยเหลือของข้าพเจ้ามาจากพระยาเวห์
ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก
(สดุดี
121:1-2
ฉบับมาตรฐาน)
เนื่องจากเราเติบโตในวัฒนธรรมตะวันออกที่หลายชนชาติมีคติความเชื่อว่า
ยอดเขา หรือ ที่สูงเป็นที่ประทับของเหล่าเทพเจ้า หรือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์
และหลายชนชาติที่มักจะสร้างวัดหรือสถานศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขา และเมื่ออ่านพระธรรมสดุดีบทนี้ข้อ 1-2 มักเหมาเอาความเข้าใจว่า
เมื่อเรามองไปที่ภูเขาหรือยอดเขา
ความอุปถัมภ์ของเรามาจากพระเจ้า
กล่าวคือ
มองว่าเมื่อมองไปยังภูเขาเราคิดถึงความช่วยเหลือจากพระเจ้าผู้สถิตบนยอดเขานั้น
แต่ผู้เขียนสดุดี เป็นชาวยิว
และ คนยิวที่อ่านสดุดีบทนี้มิได้คิดอย่างที่เราเข้าใจกัน เพราะสำหรับชาวยิวแล้ว “ภูเขา”
เป็นสัญลักษณ์ถึง “พื้นที่อันตรายอย่างยิ่ง”
เพราะที่ภูเขานั้นเป็นที่เปลี่ยว
เป็นที่หลบซ่อนของพวกโจรที่คอยปล้นชิงและทำร้ายคนเดินทางผ่านไปบนเส้นทางภูเขา บนภูเขาจะพบกับหุบเขา ซึ่งชาวยิวมองเห็นว่านี่คือสัญลักษณ์ของความตาย อย่างในสดุดีบทที่ 23
ที่กล่าวว่า
เมื่อข้าพเจ้าเดินไปในหุบเขาเงาแห่งความตาย (ข้อ 4
อมตธรรม) หรือมีความหมายถึง หุบเขาอันมืดมิดที่สุด ส่วนในฉบับมาตรฐานแปลว่า
หุบเขาเงามัจจุราช นอกจากนั้นก็จะมีเหวที่ลงลึกจนบางครั้งไม่เห็นก้นเหว หน้าผาที่สูงชันดูทะมึนน่ากลัว อีกทั้งมีอากาศที่เลวร้ายอันตราย สำหรับชาวยิวแล้ว เมื่อเขาเงยหน้าเพ่งมองดูไปที่ภูเขา
เขาเห็นถึงอันตรายและภัยพิบัติที่รออยู่ข้างหน้า จึงเกิดคำถามตามว่า
ใครที่จะช่วยเขาให้สามารถผ่านความอันตรายอย่างน่ากลัวที่ขวางอยู่ข้างหน้า ความช่วยเหลือของเขาจะมาจากไหน และเขายืนยันในความเชื่อศรัทธาของเขาว่า ความช่วยเหลือของเขาในยามที่วิกฤติอันตรายมาจากพระเจ้าผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก
พระองค์จะทรงช่วยให้เขาจาริกผ่านวิกฤติอันตรายทั้งสิ้นที่อยู่ข้างหน้า
เราจะพบคำตอบชัดเจนว่า ความช่วยเหลือในยามชีวิตต้องฝ่าฟันอันตรายมิได้มาจากภูเขาหรือยอดเขาสูง แต่มาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก รวมทั้งภูเขาที่อยู่ข้างหน้านี้ด้วย (ข้อ 2)
พระองค์จะทรงป้องกันมิให้เราต้องสะดุดล้มลง (ข้อ 3) พระองค์ทรงปกป้องเราจากเหตุร้ายต่างๆ ที่จะโจมตีในสถานการณ์ชีวิตของเรา
(ข้อ 6)
พระองค์จะทรงอารักเราให้ปลอดภัยจากภยันตรายทั้งสิ้น พระองค์จะดูแลเราตลอดเวลา (ข้อ 7-8)
สำหรับเราปัจจุบันเมื่ออ่านพระธรรมสดุดีบทนี้
ทำให้เราระลึกได้ว่า เมื่อเราต้องมุ่งมองภูเขาแห่งความน่ากลัว
และอันตรายเราคิดถึงภูเขาทางเศรษฐกิจของเราที่ชักหน้าไม่ถึงหลัง แย่กว่านั้นหนี้สินเพิ่มพูน ภูเขาที่เรากำลังตกงาน ภูเขาความสัมพันธ์ในครอบครัวที่กำลังจะแตกแยกฉีกขาดจากกัน
ภูเขาเรื่องลูกวัยรุ่นที่เราไม่สามารถเข้าใจและสื่อสารกับเขารู้เรื่อง ภูเขาที่ต้องใช้เหล้าและสารเสพติดในชีวิต
ภูเขาด้านสุขภาพที่บอบบางวิกฤติ
ภูเขาแห่งความเจ็บปวดในจิตใจ
ภูเขาแห่งการงานที่ถาโถมมามากมายจนดูเหมือนไม่มีวันทำสำเร็จ ภูเขาในความสัมพันธ์กับเพื่อนในที่ทำงาน ภูเขา... ฯลฯ
เมื่อวิกฤติและอันตรายที่ขวางอยู่ข้างหน้าทำให้เราเกิดความกลัดกลุ้มใจ ทำให้เราวิตกกังวลถึงอนาคต พระธรรมสดุดี 121 ได้ให้คำตอบที่เราเชื่อและมั่นใจได้ ในทุกๆ ภูเขาแห่งชีวิตที่เรากำลังเผชิญหน้า พระเจ้าทรงอยู่กับเราที่นั่น มิเพียงเท่านั้น พระองค์พร้อมที่จะช่วยเรา พระองค์พร้อมที่จะชี้นำ ที่จะปกป้อง
ที่จะดูแลเอาใจใส่
ที่จะฟังเรา
พร้อมที่จะรักษาเราให้ปลอดภัย และอยู่เคียงข้างเราเผชิญและทะลุผ่านและพ้น
“ภูเขา” แห่งวิกฤติชีวิตเหล่านั้น
พระองค์ทรงยืนหยัดเคียงข้างและจับมือเราฝ่าฟันผ่านทะลุภยันตรายเหล่านั้น ไปสู่ความปลอดภัย
แต่พระเจ้ามิได้สัญญาว่าจะยกภูเขาที่ขวางหน้าของเราทิ้ง หรือ
มิได้สัญญาว่าชีวิตจะไม่มีอันตรายและเจ็บปวด
แต่พระองค์สัญญาว่าจะอยู่กับเราตลอดเวลา ไม่ว่าสถานการณ์ใด
และนี่คือสิ่งวิเศษที่สุดที่พระเจ้าทรงให้กับเรา
ประเด็นสำหรับการใคร่ครวญและอภิปรายกลุ่ม
- เมื่อท่านรู้สึกกลัว หรือชีวิตถูกความวิตกกังวลครอบงำ อะไรที่กระตุ้นช่วยท่านให้ตระหนักว่าในเวลาเช่นนั้นพระเจ้าทรงอยู่เคียงข้างท่าน?
- อะไรคือภูเขาแห่งความกลัวหรืออันตรายในชีวิตของท่านปัจจุบันนี้? และ
- พระเจ้าทรงสำแดงให้ท่านมั่นใจว่าพระองค์ทรงอยู่กับท่านในสถานการณ์นั้นอย่างไรบ้าง?
ใคร่ครวญภาวนา
ขอบพระคุณพระเจ้าที่ทรงสร้างความมั่นใจแก่ข้าพระองค์ผ่านพระธรรมสดุดีบทที่
121
แท้จริงแล้ว ความช่วยเหลือในชีวิตมิได้มาจาก “ภูเขา”
หรือพลังความสามารถของมนุษย์
หรือเพราะการทุ่มเททำงานหนัก
หรือการวางแผนอย่างระมัดระวัง
แต่ความช่วยเหลือในชีวิตของข้าพระองค์มาจากพระองค์
ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก
ขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงปกปักรักษาข้าพระองค์มิให้สะดุดล้มบนเส้นทางชีวิตที่ดำเนินไป
ขอบพระคุณพระองค์สำหรับการทรงดูแลเอาใจใส่และทรงนำอย่างใกล้ชิด
ขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงอยู่เคียงข้างเสมอ
แม้ในบางเวลาที่ข้าพระองค์มิได้สนใจที่พระองค์อยู่ด้วย
หรือในบางเวลาที่รู้สึกว่าช่างอยู่ห่างไกลจากพระองค์
ขอพระวิญญาณบริสุทธิ์โปรดเมตตาข้าพระองค์
โปรดสอนและสร้างข้าพระองค์ใหม่ที่จะไว้วางใจพระองค์ด้วยสุดจิตสุดใจและสุดความคิดของข้าพระองค์
ในเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับ
“ภูเขา” แห่งวิกฤติชีวิต
โปรดประทานความมั่นใจว่าพระองค์อยู่เคียงข้างข้าพระองค์ และ
พระองค์พร้อมเสมอที่จะทรงช่วยและชี้ทาง
โปรดเปิดตาใจของข้าพระองค์ที่จะเห็นการทรงชี้นำทางชีวิตที่ควรจะเดินไป
แล้วข้าพระองค์จะเดินไปทางนั้นด้วยความเชื่อฟังและสัตย์ซื่อ
ขอบพระคุณพระเจ้า พระผู้ทรงช่วยข้าพระองค์ อาเมน
ประสิทธิ์
แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
prasit.emmaus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น