23 พฤษภาคม 2555

หัวใจของผู้นำแบบคนรับใช้


เมื่อพูดถึงเรื่อง “หัวใจ” ในที่นี้เรามิได้หมายความถึงก้อนเนื้อพิเศษที่ทำหน้าที่สูบฉีดโลหิตไปสู่ส่วนต่างๆ ของร่างกายเท่านั้น   แต่เราหมายถึง “จิตใจ” ที่หยั่งรากฝังลึกลงในจิตวิญญาณ  อารมณ์  และความปรารถนาของเรา   ดังในพระวจนะของพระเจ้าที่บอกให้เรา  “จงระแวดระวังใจของเจ้ากว่าสิ่งอื่นใด  เพราะทุกสิ่งที่เจ้าทำ ออกมาจากใจ” (สุภาษิต 4:23)

“จิตใจ” เป็นรากฐานของความเป็นผู้นำของแต่ละคน   เพราะนั่นคือตัวกระตุ้นพลังขับเคลื่อนใจปรารถนาเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า  และความปรารถนาที่จะรับใช้ในแผ่นดินของพระองค์   ไม่ต้องสงสัยเลยว่าใครก็ตามที่รู้สึกว่าได้รับการทรงเรียกจากพระเจ้าในการทำหน้าที่ในการเป็นผู้นำ  คนๆ นั้นจะรู้สึกถึงการทรงเรียกนั้นมาจากส่วนลึกของก้นบึ้งแห่งจิตใจของเขา

แต่ในเวลาเดียวกันเราก็สังเกตพบเช่นกันว่า  “จิตใจ” บางครั้งก็พ่นความคิดและทัศนคติที่เป็นพิษร้าย  และแย่กว่านั้นคือสิ่งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการกระทำพันธกิจของคนๆ นั้นด้วย   เมื่อหลายเดือนก่อน ผมได้รับรู้จากเพื่อนสนิทท่านหนึ่งที่ทำงานในหน่วยงานรับใช้พระเจ้าที่สำคัญแห่งหนึ่ง   เขาเกือบต้องล้มทั้งยืนเมื่อถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดจนพิจารณาให้ถอดออกจากการเป็นผู้อำนวยการของหน่วยงานนั้น   ผมเข้าใจในความรู้สึกเจ็บปวดและเสียใจอย่างมากของเขาและครอบครัว

สิ่งที่ผมเรียนรู้อย่างมากจากเพื่อนสนิทท่านนี้คือ  เขา “ระแวดระวังใจ” ของเขาไม่ตกเป็นเบี้ยล่างของพิษร้ายที่มาจากใจของกรรมการบริหารและเพื่อนร่วมงานบางคนของเขา   ไม่ตอบโต้แต่พร้อมอธิบายด้วยความสุภาพพร้อมหลักฐาน  ไม่ฟ้องร้อง  ตีโต้กลับ   แต่ใช้เวลาอธิษฐานใกล้ชิดพระเจ้า   เดือนแล้วเดือนเล่าดูไม่เห็นสิ่งใดดีขึ้น   แต่เมื่อถึงเวลาของพระเจ้า  พระองค์ทรงเข้ามาแทรกแซงในเหตุการณ์นั้นและทรงนำเพื่อนคนนี้ไปบนเส้นทางที่พระองค์ทรงใช้เขาในงานของพระองค์ที่สำคัญอีกงานหนึ่ง

แท้จริงแล้วการตอบสนองต่อวิกฤติชีวิตของเราแต่ละคนแสดงออกให้เห็นถึงรากฐานความเชื่อศรัทธาของผู้นำคนๆ นั้น   ชี้วัดถึงสัมพันธภาพและความสนิทชิดเชื้อระหว่างเขากับพระเจ้า   อีกทั้งยังเป็นการเปิดเผยถึงความปรารถนาที่แท้จริงในชีวิตของเขาที่สาธารณชนสามารถเห็นและรับรู้ได้   และเป็นการแสดงออกมาชัดเจนว่า เขาเป็นผู้นำที่รับใช้พระเจ้า  หรือ  เป็นผู้นำเพื่อสนองความปรารถนาของตนเองเท่านั้น   ผมไม่พบอาการของเพื่อนคนนี้ว่าเมื่อตกในสถานการณ์เช่นนี้แล้วรู้สึกเสียหน้า  รู้สึกเสียศักดิ์ศรี  หรือต้องการที่จะเรียกคืน “ศักดิ์ศรีที่ถูกเหยียบย่ำ”

ในฐานะที่เป็นผู้นำที่เป็นคนรับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้า   สิ่งที่เกิดขึ้นกับเรามิได้เกิดขึ้นกับเราเท่านั้น  แต่เกิดขึ้นกับพระเจ้าผู้ทรงใช้เราทำงานและทรงเรียกเราให้รับใช้พระองค์ในโลกนี้ด้วย   ดังนั้น  พระองค์คือผู้ที่จะจัดการเรื่องเหล่านี้ที่เกิดขึ้น   เราในฐานะผู้นำที่รับใช้พระเจ้า   ในภาวะเช่นนี้สิ่งที่เราทำได้และควรกระทำคือ  ใกล้ชิดและสนิทกับพระเจ้า  และทูลขอจากพระองค์

“ข้าแต่พระเจ้า 
ขอทรงเนรมิตสร้างใจสะอาดในข้าพระองค์   และ
ขอทรงสร้างจิตใจหนักแน่นขึ้นใหม่ภายในข้าพระองค์”    (สดุดี 51:10 ฉบับมาตรฐาน)

ข้าแต่พระยาเวห์  
ขอทรงสอนพระมรรคาของพระองค์แก่ข้าพระองค์  
เพื่อข้าพระองค์จะดำเนินในความจริงของพระองค์  
ขอทรงรวมใจของข้าพระองค์เป็นใจเดียว 
ให้ยำเกรงพระนามของพระองค์     (สดุดี 86:11 ฉบับมาตรฐาน)

เราจะให้ใจใหม่แก่พวกเจ้า   และ
เราจะบรรจุวิญญาณใหม่ไว้ภายในของเจ้าทั้งหลาย  
เราจะนำใจหินออกจากเนื้อของเจ้าและให้ใจเนื้อแก่เจ้า   (เอเสเคียล 36:26 ฉบับมาตรฐาน)   

ในการที่เราจะทำหน้าที่ผู้นำที่รับใช้ของพระเจ้า   เราต้องตระหนักชัดเสมอว่า  เราต้อง “รับใช้” เป็นสิ่งแรกแล้วค่อยตามด้วย “การนำ”   เราต้องเรียนรู้การเป็นผู้นำที่รับใช้ตามแบบอย่างของพระคริสต์ในทุกสถานการณ์   พระเจ้าทรงเลือกและทรงเรียกให้เรานำ   มิเพียงแต่เราจะต้องเข้มแข็งและทำงานรับใช้เท่านั้น   แต่เราต้องยืนมั่นและเข้มแข็งที่จะถวายอุทิศชีวิตจิตใจทั้งสิ้นแต่พระเจ้า   แต่ต้องระลึกเสมอว่าเรากำลังทำงานเพื่อใคร   และใครคือผู้ควบคุมสถานการณ์ทั้งสิ้นที่เกิดขึ้น!

ไม่ว่าพวกท่านจะทำสิ่งใด  ก็จงทำด้วยความเต็มใจเหมือนทำถวายองค์พระผู้เป็นเจ้า  ไม่ใช่เหมือนทำต่อมนุษย์... เพราะท่านกำลังรับใช้พระคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่”  (โคโลสี 3:23-24 ฉบับมาตรฐาน)

ประเด็นสำหรับใคร่ครวญและอภิปรายกลุ่ม

1. สำหรับท่านแล้ว “จิตใจ” เป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรบ้าง?   ใน “จิตใจ” ของท่านมีทัศนคติ และ ความรู้สึกเกี่ยวกับการเป็นผู้นำอย่างไรบ้าง?

2. สำหรับท่านแล้ว   ท่านเห็นว่า “การรับใช้ก่อนแล้วค่อยนำ” นั้นเป็นผู้นำลักษณะใด?   ท่านคิดว่าใช้ได้ไหมในการทำงานของท่าน?

3. การเป็นคนรับใช้เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับการทรงเรียกให้ท่านเป็นผู้นำอย่างไรบ้าง?

4. ในวันนี้ท่านจะทูลขอพระเจ้าเกี่ยวกับการเป็นผู้นำของท่านอย่างไรบ้าง?

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com
081-289 44 99

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น