หลายคนบอกว่า
ถ้ามีงานทำก็ขอบพระคุณพระเจ้าแล้ว
ในยุคที่เศรษฐกิจย่ำแย่เช่นนี้
เพื่อนบางคนบอกผมว่า ถ้าเราขืน
“เลือก(งาน)มาก จะยากนาน” หรือ
หลายต่อหลายคนพยายามรักษางานที่ตนทำไม่ให้มีอันต้องหลุดลอยไปจากมือ ถึงแม้จะบ่นว่าไม่พอใจเจ้านายมากน้อยแค่ไหนก็ตาม
การทำงานของเรามิใช่เป็นเครื่องบ่งบอกถึงความสัมพันธ์ของเรากับนายจ้างและเพื่อนร่วมงานของเราเท่านั้น
แต่เป็นเครื่องบอกชัดถึงความสัมพันธ์ของเรากับพระเจ้าด้วย
สำหรับคริสเตียนแล้วในการทำงานอาชีพรวมไปถึงงานรับจ้างต่างๆ แท้จริงแล้วเป็นการกระทำเพื่อรับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้า เราได้รับการวางรากฐานทางความเชื่อว่า ไม่ว่านายจ้างของเราจะเป็นใคร หรือ
เป็นคนอย่างไรก็ตาม เจ้านายที่แท้จริงที่ใช้เราทำงานคือพระเยซูคริสต์
และผลการทำงานของเราแต่ละคนจะทำให้รู้ว่าใครคือเจ้านายตัวจริงของเรา พระคัมภีร์บอกเราไว้ชัดเจนว่า
“ไม่ว่าพวกท่านจะทำสิ่งใด ก็จงทำด้วยความเต็มใจเหมือนทำถวายองค์พระผู้เป็นเจ้า
ไม่ใช่เหมือนทำต่อมนุษย์” (โคโลสี 3:23 ฉบับมาตรฐาน)
นั่นหมายความว่า
เรามิใช่คนทำงานที่ทำงานดีทำงานหนักเมื่อทำต่อหน้าเจ้านายที่ว่าจ้างเราเท่านั้น “...แต่ทำด้วยจริงใจโดยความเกรงกลัวองค์พระผู้เป็นเจ้า”
(ข้อ 22)
นี่หมายความว่าในการทำงานของเราต้องกระทำด้วยสำนึกในความคิดของเราเสมอว่า ที่เราทำงานมิใช่พยายามทำงานให้ผ่านๆ ไปเท่านั้น แต่ทำให้ดีที่สุด
ให้เกิดคุณค่าสูงสุดเพื่อเป็นการถวายเกียรติแด่พระเจ้า
คนของพระเจ้าเมื่อทำงานจะมีภาพของพระคริสต์อยู่ข้างหน้าการทำงานของตนเสมอ ไม่ว่าจะเป็นโครงการ งานตามคำสั่ง
หรืองานประจำที่ต้องทำให้สำเร็จในแต่ละสัปดาห์
สิ่งตอบแทนที่เราจะได้รับจากการทำงานของเรามิเพียงแต่ค่าจ้าง
เงินเดือน ค่าแรงของเราเท่านั้น แต่เรายังเชื่อมั่นว่าเราได้รับพระพรที่มากกว่าเงินทองจากองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วย เมื่อเราทำงานอย่างดี
เราจะกระทำด้วยการชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่ว่านายจ้างของเราจะชื่นชม ยอมรับ และเห็นผลงานที่ดีเยี่ยมนั้นหรือไม่ก็ตาม
ดังนั้น
ในวันนี้
ในสัปดาห์นี้ให้เรามุ่งมั่นตั้งใจในการทำงานให้เกิดผลดีมีคุณค่าสูงสุด จงเป็นคนทำงานที่ดีและทำดีที่สุดในงานที่ท่านทำ แต่รู้ตระหนักชัดว่า งานทั้งสิ้นที่ท่านทำนั้น “ท่านกำลังรับใช้พระคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า”
(ข้อ 24)
ประเด็นสำหรับใคร่ครวญและสนทนาในกลุ่ม
1) ท่านเคยมีประสบการณ์การทำงานอาชีพด้วยสำนึกในการถวายเกียรติแด่พระเจ้าหรือไม่? เป็นงานอาชีพอะไร? เกิดผลอย่างไรบ้าง?
2) จากประสบการณ์ของท่าน
การทำงานอาชีพที่สำนึกเสมอว่าเป็นการทำเพื่อถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า
ให้ผลที่แตกต่างจากการทำงานอาชีพเท่านั้นอย่างไร? ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
3) โปรดให้คำแนะนำว่า
เราจะตระหนักรู้เสมอในความคิดจิตใจของเราว่า เราทำงานอาชีพเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้าได้อย่างไร? (มีวิธีการอย่างไรบ้าง?)
4) วันนี้ ท่านจะทูลอธิษฐานต่อพระเจ้าในอาชีพการงานที่ท่านต้องกระทำว่าอย่างไรบ้าง?
ประสิทธิ์
แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail:
prasit.emmaus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น