อ่านเอเฟซัส 4:1-3
เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าผู้เป็นนักโทษโดยเห็นแก่องค์พระผู้เป็นเจ้า
ขอวิงวอนพวกท่านให้ดำเนินชีวิตสมกับการทรงเรียกที่ท่านได้รับการทรงเรียกมานั้น
(4:1 มตฐ.)
เมื่อตอนที่ผมเรียนอยู่ชั้นมัธยม ผมได้รับประสบการณ์การทรงเรียกจากพระเจ้า ในตอนนั้นผมเข้าใจว่า
ผู้ที่ได้รับการทรงเรียกคือคนที่พระเจ้าเรียกให้ไปรับใช้พระองค์ในงานของคริสตจักร
เช่น เป็นมิชชันนารี ศาสนาจารย์ ศิษยาภิบาล
หรือ ครูศาสนา
แม้ว่าผมจะไม่ได้นำเรื่องนี้ไปปรึกษากับศิษยาภิบาลของผม แต่ผมก็มั่นใจว่า
พระเจ้าทรงเรียกผมและผมเองก็ได้อธิษฐานถวายตัวแก่พระเจ้าที่จะทำงานของพระองค์ ผมตัดสินใจเรียนในโรงเรียนพระคัมภีร์
และต่อมาได้รับทุนเตรียมศาสนศาสตร์ของโรงเรียนพระคริสตธรรมเชียงใหม่(แมคกิลวารีในปัจจุบัน)
แล้วมาเรียนหลักสูตร B.D. ความเข้าใจในตอนนั้นคือเรียนเพื่อไปรับใช้พระเจ้าในคริสตจักร
ผมได้รับความเข้าใจที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษในความเชื่อว่า พระเจ้าทรงเรียกให้เป็นศาสนาจารย์ หรือ
ศิษยาภิบาลในคริสตจักร
และเมื่อมาคิดทบทวนย้อนหลังพบว่า
ในตอนนั้นผมได้มองข้าม หรือ ไม่เห็นว่า
การทรงเรียกของพระเจ้าจะเกี่ยวข้องอะไรกับฆราวาสหรือสมาชิกคริสตจักรทั่วไปแต่อย่างไร
อย่างไรก็ตาม ต่อมาผมได้เรียนรู้ว่า การมีความคิด ความเข้าใจ และมุมมองข้างต้นเป็นการมองอย่างคนสายตาสั้น ถ้าเปรียบเทียบกับความหมายการทรงเรียกในพระคัมภีร์ เป็นสิ่งที่แน่นอนว่าคนที่ได้รับสถาปนาเป็นศาสนาจารย์ ศิษยาภิบาล
รับใช้งานของพระเจ้าในคริสตจักรเป็นผู้ที่ได้รับการทรงเรียกจากพระเจ้า แต่ความจริงอีกด้านหนึ่งก็เป็นความจริงเท่ากันคือ คริสตชนที่ไม่มีตัวย่อ ศจ.
ศบ. คศ ผป.
มน. อยู่ข้างหน้าชื่อของเขาก็เป็นคริสตชนที่ได้รับการทรงเรียกจากพระเจ้าเช่นกัน
เราเห็นความจริงนี้ชัดเจนใน
เอเฟซัส 4:1
เป็นตัวอย่างหนึ่ง
เปาโลเขียนในที่นี้ไว้ว่า
“...ข้าพเจ้าผู้เป็นนักโทษโดยเห็นแก่องค์พระผู้เป็นเจ้า
ขอวิงวอนพวกท่านให้ดำเนินชีวิตสมกับการทรงเรียกที่ท่านได้รับการทรงเรียกมานั้น” ขอตั้งข้อสังเกตว่า
เปาโลไม่ได้หมายถึงผู้นำในคริสตจักรเท่านั้นที่ได้รับการทรงเรียกจากพระเจ้า ตรงกันข้ามเปาโลหมายถึงทุกคนที่เป็นสมาชิกในชุมชนคริสตจักร
ท่านวิงวอนและให้กำลังใจพวกเขาที่จะดำเนินชีวิตให้สมค่ากับ
“การทรงเรียกที่เขาได้รับนั้น”
ตามบริบทหรือสถานการณ์ในคริสตจักรเอเฟซัส เปาโลหมายถึงการที่พระเจ้าทรงเรียกแต่ละบุคคล
และ การทรงเรียกทั้งชุมชนคริสตชนในคริสตจักร
ถ้าใครก็ตามที่ได้รับพระคุณของพระเจ้าโดยผ่านทางความเชื่อศรัทธาในพระเยซูคริสต์ คนนั้นก็ได้รับการทรงเรียกแล้ว ยิ่งกว่านั้น
คริสตชนในฐานะสมาชิกคนหนึ่งในพระวรกายของพระคริสต์คือคริสตจักร คนๆ นั้นก็มีส่วนร่วมกับสมาชิกคนอื่นในชุมชนนั้น คริสตชนได้รับการทรงเรียกจากพระเจ้า
ในวันนี้
ขอท่านหาเวลาที่จะสงบอยู่กับพระเยซูคริสต์ แล้วใคร่ครวญว่า...
1. ท่านมั่นใจหรือไม่ว่าท่านได้รับการทรงเรียกจากพระเจ้าในชีวิตของท่านในปัจจุบันนี้?
2. ถ้าท่านมั่นใจว่า ชีวิตของท่านได้รับการทรงเรียกจากพระเจ้า
ชีวิตที่ได้รับการทรงเรียกหมายความว่าอย่างไรสำหรับตัวท่านเอง?
3. ถ้าท่านยังไม่มั่นใจว่าพระเจ้าทรงเรียกท่าน เมื่อท่านอ่านข้อเขียนของเปาโลในเอเฟซัส 4:1 ที่ว่า “...การทรงเรียกที่ท่านได้รับ...” ท่านคิดและเข้าใจอย่างไร?
4. ท่านเห็นว่าชีวิตของท่านในทุกวันนี้ได้ดำเนินชีวิตสมค่ากับการทรงเรียกหรือไม่ อย่างไร?
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น