ถ้าจะกล่าวว่า
การชนะเป็นสิ่งที่อยู่ในสายเลือดของผมคงไม่เกินความเป็นจริง
นอกจากมันซ่อนตัวในกระแสเลือดของผมแล้วมันยังฝังลึกในใต้จิตสำนึกของผม และสิ่งนี้มันมิได้อยู่ในตัวผมเท่านั้น
แต่มันยังถ่ายทอดลงไปยังลูกสาวลูกชายของผมด้วย ใช่ครับ
เขาต้องการมีชีวิตที่ชนะครับ
แต่การที่ใครจะชนะก็จะต้องลงในสังเวียนชีวิตของการแข่งขัน
ในสนามการทำงานเต็มไปด้วยการแข่งขัน เพราะแต่ละคนในสนามการงานต่างต้องการชนะ เด่น
ดี ดัง ต่างต้องการทำได้ดีกว่าคนอื่นๆ ดังนั้น จะต้องหาทางทำงานให้ได้ผลงานมากกว่าคนอื่น หรือ ทำงานให้เข้าตาเจ้านายมากกว่าคนอื่น
ชัยชนะที่กำลังพูดถึงนี้เป็นชัยชนะที่แต่ละคนต้องการให้ตนเองชนะ เอาชนะแม้คนที่ทำงานในบริษัทเดียวกัน ชนะแม้แต่คนที่ทำงานในองค์กรเดียวกัน ชนะเพื่อตนเองจะโดดเด่นกว่าคนอื่นๆ เพื่อที่จะแสดงว่าตนเองมีความสามารถด้านต่างๆ เหนือกว่าคนอื่นๆ เป็นชัยชนะที่ตนเองจะได้
เป็นชัยชนะที่เพื่อนที่ทำงานด้วยกันต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ และสูญเสีย!?
ปัจจุบัน คนเราถูกหล่อหลอม หรือ
ถูกครอบงำด้วยอิทธิพลกระแสสังคมที่แข่งขันว่า
ชีวิตนี้ต้องชนะ
และยิ่งกว่านั้นต้องชนะเท่านั้น ดังนั้น
เมื่อชีวิต “ไม่ชนะ” ไม่ได้อย่างใจคาดหวัง
หรือไม่ได้ดั่งใจที่คิดว่าตนควรจะได้
ก็รู้สึกว่าตนไม่ได้รับความยุติธรรม
รู้สึกว่าตนถูกเอารัดเอาเปรียบ
เกิดความท้อแท้ใจ
กำลังใจถดถอย
บ้างถึงขั้นต่อว่าพระเจ้าในใจว่า
ทำไมพระเจ้าไม่ใส่ใจตนบ้าง ทำไมพระเจ้าไม่ช่วยให้ตนชนะบ้าง?
เราจำเป็นที่จะต้องพิจารณากรอบคิดเรื่องชัยชนะของเราใหม่ ไม่เช่นนั้น
กรอบคิดดังกล่าวจะกลับกลายเป็นอาวุธที่มาทิ่มแทงทำร้ายชีวิตของเรา เช่น
กษัตริย์ซาอูลที่ต้องการให้ประชาชนยกย่องตนเองว่าเป็นผู้ที่มีชัยชนะ แต่เมื่อได้ยินประชาชนร้องซ้องสรรเสริญดาวิดว่า “ซาอูลฆ่าคนนับพัน แต่ดาวิดฆ่าคนนับหมื่น”
เพราะการที่ซาอูลรับไม่ได้กับการที่ตนมิใช่ผู้ชนะ และรับไม่ได้ที่มีคนที่เหนือกว่าตน และเกิดความรู้สึกไม่มั่นคงในความเป็นกษัตริย์ของเขา เป็นเหตุให้ซาอูลต้องหาทางกำจัดดาวิดเสีย
อะไรจะเกิดขึ้นถ้าซาอูลชื่นชมในชัยชนะของดาวิด?
ปัจจุบัน
เราจำเป็นต้องเปลี่ยนกรอบคิดเรื่องชัยชนะในชีวิตเสียใหม่! ดังนี้
1. เครื่องวัดชัยชนะมิได้วัดด้วยคะแนนที่เราทำได้เสมอไป
ทีมงานที่ประสบชัยชนะมิใช่ทีมที่ทำคะแนนได้ดีที่สุด แต่ทีมที่ยิ่งใหญ่คือทีมที่สามารถสกัดบทเรียนจากความพ่ายแพ้
หรือ ความล้มเหลวที่ผ่านมา
พวกเขาสามารถที่จะถอดบทเรียนจากครั้งที่ผ่านมาเพื่อใช้ปรับปรุงแก้ไข
เพื่อประยุกต์ใช้ในการขับเคลื่อนครั้งใหม่
ทีมนี้ยิ่งใหญ่เพราะเขาสามารถใช้โอกาสไม่ว่าจะเป็นฝ่ายแพ้หรือชนะที่จะสร้างการเรียนรู้ที่ลุ่มลึกมากกว่าชัยชนะที่ติดกรอบอยู่กับการแพ้หรือชนะคู่แข่งเท่านั้น
2.บางครั้งการที่คู่แข่งของเราประสบชัยชนะก็ดีกว่าที่เราชนะ ยิ่งผมแก่เฒ่าลงมากแค่ไหน
ผมกลับมีความชื่นชมตื่นเต้นมากเมื่อเห็นคนอื่นประสบชัยชนะหรือเฉลิมฉลองในชัยชนะที่เขาได้รับ ผมมีความรู้สึกชื่นอกชื่นใจและตื่นเต้นมากเมื่อเห็นคนรอบข้างได้รับชัยชนะ ผมไม่จำเป็นที่จะต้องชนะ แต่ผมใช้โอกาสและประสบการณ์ที่ได้รับในชีวิตที่ผ่านมาช่วยเอื้ออำนวยให้คนรอบข้างชื่นชมกับชัยชนะที่เขาได้รับ
ความสุขใจของผมคือผมไม่จำเป็นที่จะต้องชนะ ผมต้องการเห็นคนรอบข้างที่ผมทำงานด้วยค้นพบตะลันต์ความสามารถที่จะนำมาใช้ในการทำงานชีวิตของเขา เพื่อเขาจะได้ชัยชนะล้ำไปข้างหน้าผม แสดงว่าองค์กรของเรามีอนาคต!
3.การที่ทำตนให้ได้รับชัยชนะใช้ความพยายามน้อยกว่าการที่ยอมหนุนให้คนอื่นชนะแทนที่ตนจะชนะ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง จะต้องใช้ความพยายามอย่างมากมายเพื่อชนะใจตนเอง
ที่จะชื่นชมกับชัยชนะของคนรอบข้างที่เราทำงานหรือเกี่ยวข้องด้วย นั่นหมายความว่าเราจะต้องทำอย่างที่เรามักได้รับการสอนว่า “ให้เราทำดีที่สุด” ซึ่งเป็นสิ่งที่เราสามารถจะควบคุมได้ แต่เราไม่สามารถที่จะควบคุมผลที่จะเกิดขึ้นจากการทำงานนั้น เราไม่รู้ว่าเกมการเมืองในองค์กร
ในบริษัทของเราจะเป็นอย่างไร
แต่สิ่งที่เราสามารถให้กับองค์กรและคนรอบข้างคือการที่เราทำดีที่สุดเต็มความสมารถของเรา และนี่คือสิ่งที่เราจะต้องทุ่มเทความพยายามอย่างเต็มที่
กล่าวอีกนัยหนึ่งชัยชนะมิใช่เราได้รับผลที่เกิดจากการทำงานตามที่เราต้องการ
ที่เราพอใจ
แต่ชัยชนะที่แท้จริงคือการที่เราทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ
และกำลังสติปัญญาของเราทำงานนั้นๆ ให้ดีที่สุด
และพร้อมหนุนเสริมเพื่อนรอบข้างให้ประสบความสำเร็จและมีชัยในการงานที่กำลังทำอยู่ และชื่นชมในชัยชนะที่เขาได้รับ
และที่สำคัญอย่างมากคือ เหนือความชนะหรือพ่ายแพ้
ให้เราเรียนรู้ชีวิตและคุณค่าของชีวิตของทั้งเพื่อนรอบข้างและคุณค่าชีวิตของเราด้วย
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail:
prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น