19 พฤษภาคม 2557

คำขู่ หรือ คำสัญญา?

3 แต่​การ​ล่วง​ประเวณี การ​โสโครก​ทุก​อย่าง​และ​การ​ละโมบ​นั้น แม้​แต่​จะ​เอ่ย​ถึง​ในท่ามกลาง​พวก​ท่าน​ก็​อย่า​เลย จะ​ได้​สม​กับ​ที่​เป็น​พวก​ธรรมิกชน

4 และ​การ​พูด​ลา​มก การ​พูด​เล่น​ไม่​เป็น​เรื่อง หรือ​การ​พูด​หยาบ​โลน ก็​เป็น​สิ่ง​ที่​ไม่​เหมาะ​สม แต่​จง​ขอบ​พระ​คุณ​ดี​กว่า

5 ขอ​จง​รู้​ชัด​ถึง​เรื่อง​นี้​ว่า ทุก​คน​ที่​ล่วง​ประเวณี​หรือ​ที่​ทำ​การ​โสโครกหรือ​ที่ละโมบ (ซึ่ง​ก็​คือ​คน​นับ​ถือ​รูป​เคารพ) จะ​ไม่​มี​มร​ดก​ใน​แผ่น​ดิน​ของ​พระ​คริสต์​และ​พระ​เจ้า
(เอเฟซัส 5:3-5 มตฐ.)

เคยมีคริสตชนที่เข้าใจว่า พระธรรมเอเฟซัส 5:5 เป็น “คำขู่” ที่เปาโลใช้ปรามคริสตชนไม่ให้กระทำผิดทางเพศ และ ความละโมบโลภมาก   เพราะจะถูกตัดสิทธิ หรือ ถูกไล่ออกจากมรดกในแผ่นดินของพระเจ้า   ที่เปาโลขู่ หรือ ปรามเช่นนี้เพราะต้องการให้คริสตชนพึงระมัดระวังที่จะไม่กระทำบาปชั่วที่เลวร้ายดังกล่าวหรือ?

ในเอเฟซัส 5:5 กล่าวว่า   ขอจงรู้ชัดถึงเรื่องนี้ว่า   ทุกคนที่ล่วงประเวณี  หรือที่ทำการโสโครก  หรือที่ละโมบ...ซึ่งก็คือคนนับถือรูปเคารพ...จะไม่มีส่วนในมรดกในแผ่นดินของพระคริสต์และพระเจ้า   ในข้อ 5 นี้เป็นการขยายความหมายของข้อที่ 3 เกี่ยวกับการล่วงประเวณี  การโสโครก  และการละโมบว่าทำไมควรเกิดขึ้นในชีวิตของคริสตชนและในคริสตจักร

นี่ไม่ใช่คำขู่   แต่นี่คือสัจจะความจริง   ที่คริสตชนที่มักอ้างว่าตนได้รับความรอดแล้วในพระเยซูคริสต์ยังมีพฤติกรรมชีวิตเหล่านี้อยู่   ทำให้เปาโลต้องเขียนจดหมายเตือนบรรดาคริสตชนกลุ่มนี้ว่า   ถ้าชีวิตยังขืนเป็นเช่นนี้เขาจะไม่มีมรดกในแผ่นดินของพระคริสต์และของพระเจ้า (ข้อ 5)   หรือจะไม่มีส่วนในแผ่นดินของพระเจ้า

ทำไมเปาโลถึงว่าเช่นนั้น   เปาโลเคยกล่าวมิใช่หรือว่า  เรามิได้รอดด้วยการประพฤติของเรา   แต่เรารอดด้วยพระคุณของพระเจ้า?

ใช่เลยครับ!   เราไม่สามารถรอดด้วยการกระทำดีของเราเอง   แต่เรารอดด้วยความรักเมตตาที่เสียสละชีวิตของพระคริสต์   เรารอดด้วยพระคุณของพระองค์   แต่คนกลุ่มนี้กระทำปู้ยี่ปู้ยำพระคุณของพระเจ้า   คนกลุ่มนี้ทำให้พระคุณของพระเจ้าด้อยค่าราคาลด   คนเหล่านี้กำลังหลู่พระเกียรติของพระเจ้า!

มองในอีกมุมหนึ่ง   คริสตชนกลุ่มนี้น่าสงสารและเห็นใจ   เพราะชีวิตที่ได้รับความรอดของเขากลับถูกครอบงำจากอำนาจบาปชั่ว   ความคิด  มุมมอง  การตัดสินใจ  การพูด  และพฤติกรรมชีวิตของเขากลับตกใต้อำนาจและอิทธิพลของความบาปชั่วในลักษณะต่างๆ  ซึ่งในที่นี้เปาโลระบุถึงการตกอยู่ใต้อิทธิพลความบาปชั่วสามลักษณะคือ  คนล่วงประเวณี   คนโสโครก  และ คนละโมบ

เมื่ออ่านถึงข้อที่ 5  ผมเกิดคำถามขึ้นมาทันทีว่า   ทำไมเปาโลเตือนสำนึกให้ผู้อ่านตระหนักว่า   ความบาปชั่วทั้ง 3 ลักษณะดังกล่าวถึงเป็นการกราบไหว้รูปเคารพ?   อมตธรรมแปลตอนนี้ว่า “คนเช่นนี้เป็นผู้กราบไหว้รูปเคารพ” 

ผู้ที่กราบไหว้รูปเคารพ   คือคนที่ยอมตนสวามิภักดิ์ต่อสิ่งที่เขาไหว้และเคารพ   เขาเทิดทูนให้สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ สูงสุด และขาดไม่ได้ในชีวิตของเขา   และในความเป็นจริงคือสิ่งนั้นมีอิทธิพลครอบงำและบงการชีวิตของเขาทั้งสิ้น   ในที่นี้เปาโลบอกกับผู้อ่านว่า  คริสตชนกลุ่มนี้กำลังถูกอิทธิพลและอำนาจของการล่วงประเวณี   ชีวิตที่โสโครกไม่บริสุทธิ์   และ ชีวิตที่มีแต่ความละโมบในรูปแบบต่างๆ บงการทั้งในการคิด  การพูด  และการกระทำของคนๆ นั้น

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วก็ชัดเจนว่า   คริสตชนคนนั้นๆ ไม่ได้มีชีวิตในแผ่นดินของพระคริสต์และแผ่นดินของพระเจ้า   คือชีวิตของเขาหลุดออกไปจากการครอบครองของพระคริสต์และพระเจ้า   พระคริสต์ไม่ได้เป็นใหญ่ในชีวิตของเขาต่อไป   แต่ชีวิตของเขาถูกครอบงำด้วยอิทธิพลของของการล่วงประเวณี   ความคิด การพูด และการกระทำที่โสโครก   การมุ่งคิดวางแผนงานต่างในชีวิตภายใต้อิทธิพบของความละโมบโลภมาก

แน่นอนครับ   จะไม่มีส่วนใดเลยในแผ่นดินของพระคริสต์และของพระเจ้า!

นี่ไม่ใช่คำขู่ครับ   แต่เป็นสัจจะความจริงแห่งพระสัญญาของพระเจ้าครับ!

เปาโลชวนเราให้ใคร่ครวญพิจารณาตนเองในวันนี้ว่า  

แล้วชีวิตคริสตชนของเรายืนอยู่ที่ไหนกันแน่ครับ?

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น