3
แต่การล่วงประเวณี การโสโครกทุกอย่างและการละโมบนั้น
แม้แต่จะเอ่ยถึงในท่ามกลางพวกท่านก็อย่าเลย จะได้สมกับที่เป็นพวกธรรมิกชน
4
และการพูดลามก การพูดเล่นไม่เป็นเรื่อง หรือการพูดหยาบโลน
ก็เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม แต่จงขอบพระคุณดีกว่า
5 ขอจงรู้ชัดถึงเรื่องนี้ว่า
ทุกคนที่ล่วงประเวณีหรือที่ทำการโสโครกหรือที่ละโมบ
(ซึ่งก็คือคนนับถือรูปเคารพ)
จะไม่มีมรดกในแผ่นดินของพระคริสต์และพระเจ้า
(เอเฟซัส 5:3-5 มตฐ.)
เคยมีคริสตชนที่เข้าใจว่า พระธรรมเอเฟซัส 5:5 เป็น “คำขู่” ที่เปาโลใช้ปรามคริสตชนไม่ให้กระทำผิดทางเพศ และ
ความละโมบโลภมาก เพราะจะถูกตัดสิทธิ หรือ
ถูกไล่ออกจากมรดกในแผ่นดินของพระเจ้า
ที่เปาโลขู่ หรือ ปรามเช่นนี้เพราะต้องการให้คริสตชนพึงระมัดระวังที่จะไม่กระทำบาปชั่วที่เลวร้ายดังกล่าวหรือ?
ในเอเฟซัส 5:5
กล่าวว่า ขอจงรู้ชัดถึงเรื่องนี้ว่า ทุกคนที่ล่วงประเวณี หรือที่ทำการโสโครก หรือที่ละโมบ...ซึ่งก็คือคนนับถือรูปเคารพ...จะไม่มีส่วนในมรดกในแผ่นดินของพระคริสต์และพระเจ้า ในข้อ 5
นี้เป็นการขยายความหมายของข้อที่ 3
เกี่ยวกับการล่วงประเวณี การโสโครก และการละโมบว่าทำไมควรเกิดขึ้นในชีวิตของคริสตชนและในคริสตจักร
นี่ไม่ใช่คำขู่ แต่นี่คือสัจจะความจริง ที่คริสตชนที่มักอ้างว่าตนได้รับความรอดแล้วในพระเยซูคริสต์ยังมีพฤติกรรมชีวิตเหล่านี้อยู่ ทำให้เปาโลต้องเขียนจดหมายเตือนบรรดาคริสตชนกลุ่มนี้ว่า
ถ้าชีวิตยังขืนเป็นเช่นนี้เขาจะไม่มีมรดกในแผ่นดินของพระคริสต์และของพระเจ้า
(ข้อ 5)
หรือจะไม่มีส่วนในแผ่นดินของพระเจ้า
ทำไมเปาโลถึงว่าเช่นนั้น เปาโลเคยกล่าวมิใช่หรือว่า เรามิได้รอดด้วยการประพฤติของเรา แต่เรารอดด้วยพระคุณของพระเจ้า?
ใช่เลยครับ! เราไม่สามารถรอดด้วยการกระทำดีของเราเอง แต่เรารอดด้วยความรักเมตตาที่เสียสละชีวิตของพระคริสต์ เรารอดด้วยพระคุณของพระองค์
แต่คนกลุ่มนี้กระทำปู้ยี่ปู้ยำพระคุณของพระเจ้า คนกลุ่มนี้ทำให้พระคุณของพระเจ้าด้อยค่าราคาลด คนเหล่านี้กำลังหลู่พระเกียรติของพระเจ้า!
มองในอีกมุมหนึ่ง คริสตชนกลุ่มนี้น่าสงสารและเห็นใจ เพราะชีวิตที่ได้รับความรอดของเขากลับถูกครอบงำจากอำนาจบาปชั่ว ความคิด
มุมมอง การตัดสินใจ การพูด
และพฤติกรรมชีวิตของเขากลับตกใต้อำนาจและอิทธิพลของความบาปชั่วในลักษณะต่างๆ
ซึ่งในที่นี้เปาโลระบุถึงการตกอยู่ใต้อิทธิพลความบาปชั่วสามลักษณะคือ คนล่วงประเวณี คนโสโครก
และ คนละโมบ
เมื่ออ่านถึงข้อที่ 5 ผมเกิดคำถามขึ้นมาทันทีว่า ทำไมเปาโลเตือนสำนึกให้ผู้อ่านตระหนักว่า ความบาปชั่วทั้ง 3
ลักษณะดังกล่าวถึงเป็นการกราบไหว้รูปเคารพ?
อมตธรรมแปลตอนนี้ว่า “คนเช่นนี้เป็นผู้กราบไหว้รูปเคารพ”
ผู้ที่กราบไหว้รูปเคารพ คือคนที่ยอมตนสวามิภักดิ์ต่อสิ่งที่เขาไหว้และเคารพ เขาเทิดทูนให้สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ สูงสุด
และขาดไม่ได้ในชีวิตของเขา
และในความเป็นจริงคือสิ่งนั้นมีอิทธิพลครอบงำและบงการชีวิตของเขาทั้งสิ้น ในที่นี้เปาโลบอกกับผู้อ่านว่า คริสตชนกลุ่มนี้กำลังถูกอิทธิพลและอำนาจของการล่วงประเวณี ชีวิตที่โสโครกไม่บริสุทธิ์ และ ชีวิตที่มีแต่ความละโมบในรูปแบบต่างๆ
บงการทั้งในการคิด การพูด และการกระทำของคนๆ นั้น
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วก็ชัดเจนว่า คริสตชนคนนั้นๆ ไม่ได้มีชีวิตในแผ่นดินของพระคริสต์และแผ่นดินของพระเจ้า คือชีวิตของเขาหลุดออกไปจากการครอบครองของพระคริสต์และพระเจ้า
พระคริสต์ไม่ได้เป็นใหญ่ในชีวิตของเขาต่อไป
แต่ชีวิตของเขาถูกครอบงำด้วยอิทธิพลของของการล่วงประเวณี ความคิด การพูด และการกระทำที่โสโครก
การมุ่งคิดวางแผนงานต่างในชีวิตภายใต้อิทธิพบของความละโมบโลภมาก
แน่นอนครับ
จะไม่มีส่วนใดเลยในแผ่นดินของพระคริสต์และของพระเจ้า!
นี่ไม่ใช่คำขู่ครับ
แต่เป็นสัจจะความจริงแห่งพระสัญญาของพระเจ้าครับ!
เปาโลชวนเราให้ใคร่ครวญพิจารณาตนเองในวันนี้ว่า
แล้วชีวิตคริสตชนของเรายืนอยู่ที่ไหนกันแน่ครับ?
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น