16 พฤษภาคม 2557

เมื่อคริสตชนเดินสวนทางกับพระคริสต์?

คนทั้งสามก็ตีฝ่าแนวรบของฟีลิสเตียไปตักน้ำจากบ่อนั้น(ใกล้ประตูเมืองเบธเลเฮม)มาให้  
แต่ดาวิดไม่ยอมดื่ม   กลับรินลงต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า...
(2ซามูเอล 23:16 อมต.)

การขึ้นเถลิงราชบัลลังก์ของดาวิดมิได้เป็นไปด้วยความสะดวกราบเรียบ  ภายหลังที่เขาได้รับการเจิมจากผู้เผยพระวจนะซามูลเอล   ดาวิดก็ไม่เป็นที่ถูกตาต้องใจของทางราชบัลลังก์จนเขาต้องหนีเร่ร่อนระหกระเหินเพื่อเอาชีวิตรอด  เขาต้องหนีไปซ่อนตัวในถ้ำ ในถิ่นทุรกันดารนอกกรุงเยรูซาเล็มพร้อมกับกลุ่มที่ติดตามเขาไปด้วยความจงรักภักดี  ซึ่งพระคัมภีร์เรียกกลุ่มคนนี้ว่า “ยอดนักรบของดาวิด” (อมต.)

ในพระธรรม 2 ซามูเอล ได้เล่าเรื่องหนึ่งว่า   เมื่อดาวิดกระหายน้ำและเปรยขึ้นว่า  “ถ้ามีใครไปนำน้ำจากบ่อใกล้ประตูเมืองเบธเลเฮมมาให้ดื่มก็จะดี!” (23:15 อมต.)   ซึ่งในเวลานั้น เยรูซาเล็มถูกกองกำลังของฟีลิสเตียศัตรูตัวร้ายกาจล้อมอย่างเข้มแข็งแน่นหนา

เมื่อได้ยินคำเปรยของดาวิด  “ยอดนักรบ”สามคนของดาวิดได้ตีฝ่าแนวรบของฟีลิสเตียไปตักน้ำจากบ่อใกล้เยรูซาเล็มมาให้ดาวิด  พวกเขาสามารถหนีรอดและปลอดภัยจากการติดตามไล่ล่าของกองกำลังฟีลิสเตีย   กลับมาถึงที่ซ่อน   และนำน้ำนั้นมาให้แก่ดาวิด

แต่นักรบผู้แกร่งกล้าทั้งสามต้องประหลาดใจ   เมื่อดาวิดไม่ยอมดื่มน้ำที่ทั้งสามยอมเสี่ยงตายนำมา   แต่ดาวิดกลับรินลงต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า

ดาวิดมิได้ปฏิเสธที่จะรับน้ำนั้นจากยอดนักรบที่อุตส่าห์เสี่ยงชีวิตไปนำมา   แต่ดาวิดกลับยกย่องวีรกรรมที่ยอมเสียสละสุดๆ ของทั้งสาม   ซึ่งเป็นการเสียสละที่บริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์  เกินกว่าที่ดาวิดจะยอมดื่มน้ำนั้นอย่างเห็นแก่ตัว   ดาวิดทูลต่อพระเจ้าว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า  ข้าพระองค์ไม่อาจดื่ม(น้ำนี้)ได้! นี่คือเลือดของคนที่เสี่ยงชีวิตเอามาไม่ใช่หรือ?” (ข้อ 17 อมต.)

ภาพของพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมตอนนี้   ทำให้เราคริสตชนต้องกลับมาทบทวนถึงการดำเนินชีวิตของเราที่เรียกตนเองว่าเป็นคริสตชน หรือ คนที่ติดตามพระเยซูคริสต์   เปาโลกล่าวใน 2โครินธ์ 5:15 ว่า   เพราะว่าพระคริสต์ได้ยอมสิ้นชีวิตเพื่อเราทุกคน... “เพื่อบรรดาคนที่มีชีวิตอยู่จะไม่อยู่เพื่อตนเองอีกต่อไป   แต่อยู่เพื่อพระองค์ที่สิ้นพระชนม์  และทรงเป็นขึ้นมาเพราะเห็นแก่เราทั้งหลาย” (มตฐ.)

พระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมตอนนี้ได้สะท้อนความจริงแก่เราว่า   เราไม่ควรดำเนินชีวิตประจำวันของเราอย่างเห็นแก่ตนเอง   ดาวิดได้รินน้ำนั้นลงบนพื้นดินต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อมอบถวายน้ำนั้นแด่พระองค์   เช่นเดียวกัน   การที่เราได้รับของพระราชทานอันหาค่ามิได้ที่พระเจ้าประทานแก่เรา   คือชีวิตของพระเยซูคริสต์   เรามิใช่รับของประทานนั้นเพื่อตัวเราเองอย่างเห็นแก่ตัว   แต่ให้เรา “รินชีวิต” นั้นเพื่อเป็นการถวายด้วยการรับใช้พระองค์ท่ามกลางชีวิตของผู้คนที่อยู่ล้อมรอบข้างเรา   ตามพระประสงค์ของพระองค์

ดาวิดไม่ยอมดื่มน้ำจากบ่อใกล้เยรูซาเล็มอย่างเห็นแก่ตัว

ต่างจากคริสตชนในปัจจุบันจำนวนมาก   ที่ยอมรับเอาพระโลหิตของพระเยซูคริสต์   ที่ไถ่ถอนให้ตนเองได้ชีวิตรอดพ้นจากอำนาจแห่งความบาปผิด   แล้วตั้งหน้าตั้งตารอที่จะไปอยู่ที่สวรรค์เท่านั้น   เป็นคริสตชนที่รับความรอดอย่างเห็นแก่ตัวหรือไม่?   แล้วไปชวนคืนอื่นๆ ให้มาเป็นคริสตชนที่เห็นแก่ตัวอีกหลายๆ คน?

ดังนั้น พระกิตติคุณของคนกลุ่มนี้จึงเป็นพระกิตติคุณเพื่อประโยชน์ของตัวเอง!

เมื่อมาเป็นสมาชิกในคริสตจักร  ก็มาคริสตจักรเพื่อแสวงหาความสงบใจของตนเอง  หาความสุขความพอใจของตนเอง   ประกอบศาสนพิธีเพื่อความบริสุทธิ์ของตนเอง   ประกาศให้คนรับเชื่อเพราะเชื่อว่าเมื่อตายไปแล้วตนเองจะได้มีตัวเลขไปรายงานองค์พระผู้เป็นเจ้าว่าตัวเองได้ทำให้คนอื่นกลับใจกี่คน?  

ทำเพื่อตนเองทั้งนั้น!?

คริสตชนปัจจุบันหลายคนที่ทำตัวเป็นเหมือนผู้โดยสารรอรถที่ป้ายรถเมล์พร้อมตั๋วรถ  เพื่อที่จะขึ้นรถเมล์คันที่จะนำเขาไปสวรรค์

แต่คริสตชนกลุ่มนี้ไม่สนใจใยดีว่า ชุมชนสังคมรอบข้างจะมีชีวิตเช่นไร   ปฐมเทศนาของพระเยซูคริสต์ดูจะไม่มีอิทธิพลในความคิดและการดำเนินชีวิตของคนกลุ่มนี้เลย   แต่น่าแปลกมาก  เขาทำตัวเหมือนคนที่ไม่ต้องการอยู่ในโลกนี้   แต่เขากลัวที่จะต้องจากโลกนี้!      ซึ่งตรงกันข้ามกับคำสั่งของพระคริสต์ที่ส่งเขาเข้าไปในสังคมโลกนี้   และทรงกระตุ้นเตือนให้ตระหนักเสมอว่าเขาไม่ใช่คนของโลกนี้

ปัจจุบันเราจะหาคริสตชนที่มีจิตวิญญาณเหมือน “ยอดนักรบของดาวิด” ได้ที่ไหน?   ที่เป็นคนรับใช้ของพระคริสต์   ที่พร้อมจะตอบสนองต่อความประสงค์ของพระองค์ทันที ในแต่ละเรื่อง   แม้ต้องเสี่ยงชีวิตปานใดก็ตาม 

พระเยซูคริสต์ยอมให้ชีวิตแก่ทุกคน   แต่ในปัจจุบันนี้คริสตชนไทยสักกี่คนที่พร้อมยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อพระประสงค์ของพระคริสต์?   เพื่อแผ่นดินของพระเจ้าที่พระคริสต์ทรงนำมาสถาปนาในแผ่นดินโลก?

พระเยซูคริสต์สอนสาวกอธิษฐานว่า   ...ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่  ในสวรรค์เป็นอย่างไร   ให้เป็นอย่างนั้นมาในแผ่นดินโลก...   แปลกนะ...  พระเยซูคริสต์ตั้งอกตั้งใจมาในโลกนี้   เพื่อนำแผ่นดินและการปกครองของพระเจ้ามาสถาปนาในโลกนี้   แต่คริสตชนส่วนหนึ่งพยายามจะทำตนเองให้ได้ไปสวรรค์?   ไม่สนใจใยดีการดำเนินชีวิตในวันนี้ว่าสร้างผลกระทบเช่นไรต่อชุมชนสังคมโลก!

แล้วคริสตชนคนนั้นจะเดินสวนทางกับพระเยซูคริสต์หรือเปล่าเนี่ย!?

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น