28 พฤษภาคม 2557

พิษร้ายจากคำพูด

อ่าน สดุดี 64:1-9

ขอทรงซ่อนข้าพระองค์ให้พ้นจากการสมรู้ร่วมคิดของเหล่าคนชั่ว
ให้พ้นจากอุบายของคนชั่ว
พวกเขาลับลิ้นของตนอย่างลับดาบ   และพ่นวาจาดั่งยิงธนูอาบยาพิษ
พวกเขายิงใส่ผู้บริสุทธิ์จากที่ซุ่ม   พวกเขายิงทันทีอย่างไม่เกรงกลัว
(สดุดี 64:2-4 อมต.)

เราท่านต่างเคยรับบาดแผลหรือความเจ็บปวดจากคำพูดของคนบางคน
บ่อยครั้ง...ที่คนพูดเช่นนั้นโดยมิได้ไตร่ตรองว่าจะทำให้คนอื่นต้องได้รับความเจ็บปวด
บางครั้ง...พูดอย่างมิได้ใส่ใจว่าคำพูดของตนจะทำให้คนได้ยินได้ฟังรู้สึกเช่นไร
แต่คำพูดเหล่านั้นกลับเป็นเหมือนเหล็กในที่ต่อยฝังพิษลงในชีวิตจิตใจของผู้อื่น

ไม่ว่า...เมื่อมีใครกล่าววิพากษ์ หรือ พูดบางเรื่องที่ทำให้เกิดความเจ็บปวด หรือ
ไม่รู้สึกอะไร  เพราะเรารู้สึกชาชินกับการพูดของคนๆ นั้น
สิ่งแรกที่เราจะมีปฏิกริยาต่อการวิพากษ์ของคนๆ นั้นคือ...
เราพึงถามตนเองก่อนว่า  คำกล่าวหรือการวิพากษ์นั้นมีความจริงหรือไม่
ถ้ามีความจริง...จำเป็นที่เราจะต้องสัตย์ซื่อต่อตนเอง
แล้วทูลขอพระเจ้าเมตตากรุณาช่วยเราในการแก้ไขสิ่งไม่ดีในตัวเราเอง  หรือ
ถึงแม้ว่า... การกล่าววิพากษ์นั้นเป็นการกล่าวอย่างประสงค์ร้าย
เราจะต้องไม่ยอมปล่อยให้คำวิพากษ์นั้นมีฤทธิ์ทิ่มแทงชีวิตจิตใจของเรา
แต่ให้เราทูลขอต่อพระเจ้า   เพื่อขอการทรงช่วยจากพระองค์
ให้เราได้รับความเมตตา  พระคุณ ของพระองค์  
เพื่อเราจะตอบสนองคำพูดที่ประสงค์ร้ายนั้นด้วยจิตใจที่ยกโทษเยี่ยงพระคริสต์

ยิ่งกว่านั้น   ให้เราจะสัตย์ซื่อกับตนเอง
ถ้าเราได้พูดหรือวิพากษ์ที่ทำให้คนอื่นได้รับความเจ็บช้ำน้ำใจ
ให้เรายอมรับความผิดของตนเอง  และแสวงหาการยกโทษ
ทั้งจากองค์พระผู้เป็นเจ้า  และคนที่เราทำให้ชีวิตของเขาเกิดบาดแผล  และ
รู้สึกเจ็บปวดเพราะคำพูดของเรา

จากนั้น   ให้เราทูลขอการทรงช่วยจากพระเจ้า 
อย่างคำทูลขอของผู้ประพันธ์สดุดีว่า..

“ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า   ขอทรงตั้งยามดูแลปากของข้าพระองค์
คอยเฝ้าประตูริมฝีปากของข้าพระองค์” (สดุดี 141:3 อมต.)

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น