1 เมื่อพระเยซูทอดพระเนตรเห็นฝูงชนมากมาย ก็เสด็จขึ้นเนินเขา และประทับนั่ง
เหล่าสาวกของพระองค์พากันมาหาพระองค์
2
และพระองค์ทรงเริ่มต้นสั่งสอนพวกเขาว่า... (มัทธิว 5:1-2 อมต.)
บทใคร่ครวญ 9
บทต่อไปนี้เป็นกระบวนการสร้างสาวกของพระเยซูคริสต์ในเรื่องเป็นคนที่มี “ความสุข”
ใครๆ ก็อยากจะมีชีวิตที่มีความสุข
ไม่น่าเชื่อเลย
แม้แต่การทำรัฐประหารก็เพื่อคืนความสุขให้ประชาชน!?
บทใคร่ครวญชุด “ความสุข” ที่พระคริสต์ทรงสอนและใช้สร้างความคิดและความเชื่อของสาวก ที่เป็นรากฐานในการดำเนินชีวิตประจำวัน เป็นความสุขที่ผู้คนทั้งหลายไขว่คว้า เป็นความสุขที่เหมือนกับที่คณะก่อการยึดอำนาจจะนำมาให้ประชาชนหรือไม่? หรือเป็น “ความสุข” ที่แตกต่างออกไป?
แต่ที่แน่ๆ ก็คือ ความสุขที่ว่านี้คริสตชนเรียกว่า “พระพร” และพระพรที่พระเยซูคริสต์ทรงสอนและต้องการให้เกิดเป็นจริงในชีวิตของผู้คนมีองค์ประกอบหลักที่สำคัญสองส่วนด้วยกันคือ เป็นทั้ง “ความรู้” และต้อง “กระทำ”
ในสิ่งที่เรียนรู้ตามที่พระคริสต์สอนนั้นจึงจะเกิดเป็นพระพร หรือ ความสุข
พระพรหรือความสุข
มิใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างมายากล
เวทมนต์ หรือ คาถาอาคม
แต่ถ้าเราต้องการ “พระพร” หรือ “ความุข”
ตามที่พระเยซูคริสต์สอน
เราต้องกระทำตามสิ่งที่พระองค์สอนในชีวิตประจำวัน
ในมัทธิว 5:3-11
พระเยซูเริ่มสอนถึง คน 8 คุณลักษณะเฉพาะที่จะมีความสุขหรือได้รับพระพร พระองค์กล่าวว่า “ความสุขมีแก่ผู้ที่...” ถึงแปดครั้ง
แปดลักษณะด้วยกัน
ถ้าเราพิจารณาอย่างพินิจพิเคราะห์จะสามารถเห็นว่า คุณลักษณะแปดประการของคนที่ได้รับพระพรหรือมีความสุขตามคำสอนของพระเยซูคริสต์ เป็นกระบวนการแห่งพระราชกิจของพระเจ้าที่ทำการ
“พลิกคว่ำและเปลี่ยนแปลงจิตใจมนุษย์อย่างรุนแรง”
ที่สำคัญเราต้องไม่เข้าใจผิดว่า พระพรหรือความสุขของผู้คน 8 คุณลักษณะ มิใช่คำสัญญา หรือ
มีเงื่อนไขว่าถ้าคุณเป็นคนแบบนี้แล้วคุณจะมีความสุข
หรือได้รับพระพรจากพระเจ้า
ถ้าเราไปเข้าใจเช่นนั้นเราจะพบว่าคำสอนของพระเยซูดูเหมือนขัดแย้งกันเองอย่างสิ้นเชิง
พระพร หรือ ความสุข 4
ประการแรก เป็นความสุขที่เกี่ยวกับคุณลักษณะชีวิตภายในของคนเรา เป็นการกล่าวถึง “จิตใจ”
ของผู้ที่ต้องการเป็นผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่เชื่อฟังพระองค์ เป็นผู้ที่มีความนอบน้อมถ่อมตน คนที่ตกอยู่ในความโศกเศร้า เป็นคนที่ถ่อมสุภาพ เป็นคนกระหายหาความชอบธรรม
ในส่วนพระพร หรือ ความสุขของคน 4 ลักษณะหลังเน้นความสำคัญที่ “การกระทำ”
ในชีวิตในการเป็นสาวกที่ติดตามพระคริสต์
กล่าวคือเป็นคนที่แสดงออกถึงความเมตตากรุณา แสดงออกถึงชีวิตที่บริสุทธิ์ เป็นผู้ที่สร้างสันติ และ เป็นคนที่แสวงหาความชอบธรรมแม้จะถูกกดขี่ข่มเหงก็ตาม
คำสอนถึงพระพรหรือความสุขของคนแปดคุณลักษณะข้างต้นนี้
เหมาะสมสำหรับเราที่มีชีวิตอยู่ในสังคมปัจจุบัน ท่ามกลางสังคมที่สับสน ว้าวุ่น
ใช้อำนาจเอาชนะคะคานกัน แย่งชิงทุกรูปแบบเพื่อผลประโยชน์แห่งตนและพรรคพวก
หลอกล่อให้ประชาชนผู้คนตกลงในกับดักทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การใช้อำนาจ/แย่งชิงอำนาจ เน้นเรื่องประชาธิปไตยที่ใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ เพื่อตนและพวกตนจะมีอำนาจและเป็นใหญ่ เน้นเรื่องประชานิยม เพียงเอาผลประโชน์เข้าล่อจนประชาชนหลงงมงายถูกโกงอย่างเป็นระบบ
ในสภาพการณ์เช่นนี้ ให้เรากลับมาใคร่ครวญถึง
คำสอนที่เป็นพระพรและความสุขสำหรับชีวิตของเราจากพระเยซูคริสต์ครับ
ความสุขมีแก่ผู้ที่สำนึกว่าตนขัดสนฝ่ายจิตวิญญาณ...
ความสุขมีแก่ผู้ที่โศกเศร้า...
ความสุขมีแก่ผู้ที่ถ่อมสุภาพ...
ควมสุขมีแก่ผู้หิวกระหายความชอบธรรม...
ความสุขมีแก่ผู้ที่เมตตากรุณา...
ความสุขมีแก่ผู้ที่มีจิตใจบริสุทธิ์...
ความสุขมีแก่ผู้ที่สร้างสันติ...
ความสุขมีแก่ผู้ที่ถูกข่มเหงเพราะความชอบธรรม...
พระพรหรือความสุขที่พระเยซูคริสต์กล่าวถึงนี้เป็นของ
“คนรากหญ้า”
ที่ถูกช้างสารงัดกันจนหญ้าถูกเหยียบย่ำจนแหลกลาน ที่สำคัญกว่านั้นครับ พระพรและความสุข
ที่พระเยซูพูดถึงนี้คนที่จะนำมาให้เกิดเป็นจริงเป็นรูปธรรมคือ ผ่านชีวิตของคนรากหญ้าที่ถูกเหยียบจนแหลกลาญนี้แหละครับ ไม่มีอัศวินขี่ม้าขาว/ม้าดำที่ไหนจะนำ “ความสุข”
มาคืนให้เราได้หรอกครับ
คนรากหญ้าเฉกเช่นเราทั้งหลายที่มีใจสัตย์ซื่อและมีชีวิตที่เชื่อฟังพระคริสต์ และดำเนินชีวิตตามคำสอนของพระองค์ต่างหาก ที่จะเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทย และนำพระพรและความสุขจากเบื้องบนมายังสังคมประเทศไทยอีกครั้งหนึ่งครับ
ความสุขมีแก่ผู้สร้างสันติ เพราะเขาจะได้ชื่อว่าเป็นลูกของพระเจ้า
ความสุขมีแก่ผู้ที่ถูกข่มเหงเพราะความชอบธรรม เพราะแผ่นดินของพระเจ้าเป็นของเขาแล้ว
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail:
prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น