“ข้าพระองค์เชื่อ
ที่ยังขาดความเชื่ออยู่นั้นขอทรงช่วยให้เชื่อด้วยเถิด”
(มาระโก 9:24 อมต.)
เสียงร้องขอความช่วยเหลือจากก้นบึ้งแห่งหัวใจพ่อ
“...แต่ถ้าพระองค์ทรงช่วยได้ขอโปรดทรงสงสารเรา
และช่วยเราด้วยเถิด” (ข้อ 22)
พระเยซูคริสต์ท้าทายผู้เป็นพ่อว่า
“ถ้าช่วยได้นะหรือ...ทุกสิ่งเป็นไปได้สำหรับคนที่เชื่อ”
ผู้เป็นพ่อเห็นแสงสว่างท่ามกลางความมืดมนที่เป็นมาเวลานาน ร้องประโยคอมตะออกมาว่า
“ข้าพระองค์เชื่อ ที่ยังขาดความเชื่ออยู่นั้นขอทางช่วยให้เชื่อด้วยเถิด”
ใช่...ความเชื่อเป็นความไว้วางใจในพระเจ้า
แต่ความเชื่อที่เกิดขึ้นในตัวเรา...ไม่ใช่การตัดสินใจเชื่อหรือไม่เชื่อเท่านั้น
แต่ความเชื่อเป็นพระราชกิจของพระเจ้าที่ทรงกระทำในชีวิตของเรา
ดังผู้เป็นพ่อทูลขอพระเยซูคริสต์ให้ช่วยเขามีความเชื่อในส่วนที่ขาดอยู่ด้วย
ความเชื่อคือการที่เรารู้ถึงพระคริสต์และพลังอำนาจของพระองค์
เป็นการที่เรารู้ว่าพระองค์เป็นพระผู้ช่วยในชีวิตของเรา
เรารู้ว่าพระองค์ผู้ทรงไถ่ถอนให้เราหลุดรอดออกจากอำนาจแห่งความบาปผิด
การรู้เช่นนี้เท่านั้น ไม่ได้ทำให้ความเชื่อของเราเข้มแข็งเสมอไป
บ่อยครั้งชีวิตของเราล้มเหลว ความเชื่อของเราสะดุดล้ม
ในเวลาวิกฤติเช่นนี้ ถ้าเราเปิดชีวิตเราให้พระเจ้าเข้ามา
พระองค์จะทรงกระทำพระราชกิจของพระองค์ในชีวิตของเรา
เราได้รับประสบการณ์และการสัมผัสจากพระองค์
ความเชื่อที่ขาดพร่องจึงได้รับการเสริมเพิ่มเติมเต็มให้แข็งแรงขึ้น
เราไว้วางใจพระองค์มากยิ่งขึ้น
เมื่อใดที่ความเชื่อเราล้มเหลว...จงอย่าท้อถอย อย่าหันหลังให้พระคริสต์
เพราะนั่นเป็นเวลาและโอกาสที่พระองค์จะกระทำพระราชกิจในชีวิตของเรา
เป็นโอกาสที่เราจะเติบโตขึ้นในความเชื่อ
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail:
prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น