16 มิถุนายน 2557

โศกเศร้า...เพื่อรับการทรงเปลี่ยนแปลงชีวิต

ความสุขมีแก่ผู้ที่โศกเศร้า  
เพราะเขาจะได้รับการปลอบประโลม (การหนุนใจ)  (อมต.)

อะไรที่ไม่ใช่ความหมายในพระธรรมตอนนี้

ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการที่มีอารมณ์ไม่ดีเป็นเนื่องนิจ   ร้องไห้ตลอดเวลา   ในที่นี้พระเยซูไม่ได้หมายถึงคนที่หดหู่ โศกเศร้า  มีแต่ความทุกข์ใจ   หรือบ่นพึมพำ

ความโศกเศร้าในที่นี้ไม่ได้เกิดจากการสงสารตนเอง   หรือเป็นคนที่ร้องห่มร้องไห้เพราะความไม่พอใจหรือไม่ถูกใจในการทำงาน  รูปร่างหน้าตาของตน   หรือหลายๆ เรื่องในชีวิต

ความโศกเศร้าในที่นี้ไม่ได้เกิดจากผลการสูญเสียสิ่งภายนอก  ไม่ว่าจะเป็นวัตถุสิ่งของ หรือ ความสัมพันธ์ทั่วไป   ไม่ใช่ความโศกเศร้าที่เกิดจากไม่ได้สิ่งที่อยากได้ใคร่มีตามที่ปรารถนา   หรือไม่ใช่ทำทีโศกเศร้าเพื่อให้คนอื่นเห็นว่าตนเป็นคนเคร่งครัด  เช่นที่พระเยซูคริสต์กล่าวเตือนในมัทธิว 6:16 เมื่อ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ถือ​อด​อาหาร อย่า​ทำ​หน้า​เศร้า​หมอง​เหมือน​พวก​คน​หน้า​ซื่อ​ใจ​คด เพราะ​พวก​เขา​ทำ​หน้า​ให้​มอม​แมม เพื่อ​จะ​ให้​คน​เห็น​ว่า​เขา​ถือ​อด​อาหาร...”

ความโศกเศร้าในที่นี้ไม่ได้หมายถึงความสิ้นหวังสิ้นคิด เช่น ยูดาส อิสการิโอท  ที่รู้ถึงความผิดบาปของตนเอง   เกิดความเสียใจ   ยอมรับสิ่งที่กระทำผิด   เอาเงินไปคืน   แต่เขาไม่ได้ “โศกเศร้า”  อย่างที่พระเยซูคริสต์หมายถึงตามพระธรรมตอนนี้   นี่เป็นความแตกต่างระหว่าง “ความสิ้นหวัง” กับ “ความโศกเศร้า” ในจิตวิญญาณ   เพราะ “ความสิ้นหวัง” ของยูดาสเกิดจากการที่เขามองที่ตัวเขาเอง   แต่มิได้มุ่งมองที่พระคริสต์   ผลที่ตามมาก็คือการฆ่าตัวตาย

นี่คือความหมายที่พระคริสต์กล่าวถึง

การโศกเศร้าในที่นี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องต่อเนื่องจากการที่สำนึกว่าตนขัดสนฝ่ายจิตวิญญาณ    เป็นความโศกเศร้าที่เกิดจากการที่คนๆ นั้นสำนึกว่าตนล้มละลายในด้านจิตวิญญาณ   เสียใจที่ตนเป็นเช่นนั้นทำให้เกิดความโศกเศร้า   ยอมรับถึงความผิดบาปเสียหายที่เกิดขึ้นในชีวิต   และสำนึกในความผิดพลาดของตน   และในที่นี้รู้สึกเจ็บปวดต่อการผิดบาปและตกลงในสภาพชีวิตที่ล้มละลายด้านจิตวิญญาณดังกล่าว   เขาจึงโศกเศร้าด้วยการสารภาพในความบาปผิด   เป็นความโศกเศร้าที่คร่ำครวญแสวงหาการทรงช่วยจากเบื้องบน (เพราะตนไม่สามารถพึ่งตนเองหรือช่วยตนเองได้)  อย่างที่เปาโลกล่าวใน โรม 7:24 ที่ว่า  “โอย ข้าพ​เจ้า​เป็น​คน​น่า​สม​เพช​อะไร​เช่น​นี้? ใคร​จะ​ช่วย​ให้​พ้น​จาก​ร่าง​กาย​แห่ง​ความ​ตาย​นี้"   เป็นความโศกเศร้าถึงความบาปผิดของตนที่ชัดเจน   เขาเป็นเหมือนผู้ป่วยที่บอกถึงอาการเจ็บป่วย  หรือการเจ็บปวดอย่างเฉพาะเจาะจง   ว่าตนกำลังเจ็บในส่วนใดของร่างกาย และ ชีวิต  

นี่เป็นการโศกเศร้าในจิตวิญญาณของเราที่แสวงหารับการเยียวยารักษาจิตวิญญาณของตน    เป็นความโศกเศร้าที่ติดตามด้วยการหันกลับมาแสวงหาพระพักตร์ของพระเจ้า   ดัง โยเอล 12:12-13 กล่าวไว้ว่า  12พระ​ยาห์​เวห์​ตรัส​ดัง​นี้​ว่า ถึง​กระ​นั้น​ก็​ดีบัดนี้ พวกเจ้า​จง​กลับ​มา​หา​เรา​ด้วย​สุด​ใจด้วย​การ​อด​อา​หาร การ​ร้อง​ไห้ และ​การ​โอด​ครวญ 13 ​​จง​ฉีก​ใจ​ของ​พวกเจ้า ไม่​ใช่​ฉีก​เสื้อ​ของ​เจ้าจง​กลับ​มา​หา​พระ​ยาห์​เวห์​พระ​เจ้า​ของ​พวกท่านเพราะ​ว่า​พระ​องค์​ทรง​เปี่ยม​ด้วย​พระ​คุณ​และ​พระ​กรุ​ณา...” (มตฐ.) 

การโศกเศร้าในที่นี้ยังมีความหมายรวมถึงความโศกเศร้าที่เกิดจากความบาปผิดของคนอื่นด้วย   เมื่อคริสตชนอ่านพระธรรมมัทธิวบทที่ 23  เรามักตอกย้ำถึงวิบัติที่เกิดขึ้นแก่คนอื่นที่พระเยซูคริสต์กล่าวถึง   แล้วก็ “สะใจ” หยุดเพียงแค่นั้น  แต่เรากลับละเลยที่จะพิจารณาและทำอย่างพระเยซูคริสต์ในตอนสุดท้ายของบทนี้   พระองค์ทรงคร่ำครวญถึงความบาปผิดมากมายที่ผู้นำศาสนาและคนทั้งหลายกระทำ   และพระองค์มีใจต้องการให้พวกเขาได้เข้ามาอยู่ภายใต้การปกป้องคุ้มครองของพระองค์   แต่พวกเขากลับไม่ยอม  และสิ่งเหล่านี้ที่ทำให้พระองค์โศกเศร้าในสดุดี 119:136 เขียนไว้ว่า “น้ำ​ตา​ของ​ข้า​พระ​องค์​ไหล​พรั่ง​พรูเพราะ​คน​ไม่​ปฏิ​บัติ​ตาม​ธรรม​บัญ​ญัติ​ของ​พระ​องค์”    

ยากอบ 4:9-10 เขียนไว้ว่า “จง​เป็น​ทุกข์ โศก​เศร้า และ​ร้อง​ไห้ ให้​เสียง​หัว​เราะ​ของ​พวก​ท่าน​กลาย​เป็น​ความ​โศก​เศร้า และ​ความ​ชื่น​ชม​ยินดี​กลาย​เป็น​ความ​เศร้า​สลด พวก​ท่าน​จง​ถ่อม​ใจ​ลง​ต่อ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า แล้ว​พระ​องค์​จะ​ทรง​ยก​ชู​ท่าน”   พระธรรมตอนนี้ไม่ได้ต่อต้านความชื่นชมยินดี   หรือมิได้นิยมความโศกเศร้า    บริบทในยากอบบทที่ 4 กำลังกล่าวถึงผู้คนที่ปรารถนาความชั่วภายในชีวิตของเขา   ไม่แยแสไม่สนใจต่อความบาปผิด   เพราะคนพวกนี้ “ทำตัวเป็นมิตรกับโลก  แต่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับพระเจ้า”   และผู้เขียนเรียกร้องให้คนเหล่านั้นกลับใจอย่างจริงใจ

ด้วยความโศกเศร้าจากภายในของชีวิตเนื่องจากความบาปผิดและการล้มละลายในจิตวิญญาณของเรา   จึงทำให้เราได้รับการปลอบประโลม   จากผ้ากระสอบแห่งการไว้ทุกข์เขาจะได้รับชุดสวมใส่ใหม่แห่งการสรรเสริญ    ที่เราได้ประสบการณ์เช่นนี้เพราะพระคริสต์ได้ทรงปลดอำนาจของความบาปชั่วอันหนักอึ้งที่กดทับชีวิตจิตวิญญาณของเราออก   ชีวิตจึงได้รับความเป็นไท   แล้วทรงเปลี่ยนแปลง  และยกชูชีวิตของเราขึ้นใหม่จากพระองค์

นี่คือพระพรจากพระเจ้า   นี่คือความสุขที่มาจากการได้รับ “การยกโทษ” จากพระเจ้า  ได้รับการเยียวยารักษา   ชีวิตที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงจากพระเจ้า   และ รับการทรงสร้างใหม่จากพระองค์   นี่ไม่ใช่เป็นพระพร และ ความสุขในชีวิตของเราเท่านั้น   แต่จะก่อเกิดความสุขและพระพรกระทบต่อสังคมชุมชนอีกด้วย   เพราะเมื่อชีวิตภายในของเราได้รับการเปลี่ยนแปลงและสร้างใหม่จากพระคริสต์   เราถึงจะมีพลังชีวิตที่สามารถจะสร้างการปรองดองคืนดี  และ  นำสันติสุขมายังสังคมชุมชนต่อไป

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น