12 กันยายน 2557

ใครเป็นผู้จัดการชีวิตของท่าน?

ถ้าเปรียบเทียบกับประสบการณ์ในปัจจุบัน   ใครที่จะโดยสารรถ (ติดตาม) ไปกับพระเยซูคริสต์   เราก็ต้องให้พระองค์เป็น “คนขับ” รถที่เราไปด้วยกันกับพระองค์   หรือ ถ้าพระคริสต์ใช้เราให้ขับรถนั้น   เราก็ต้องขับตามกำกับ หรือ ตามที่พระองค์ต้องการให้เราไปและต้องการให้เราขับอย่างไร

ท่านพร้อมที่จะให้พระเยซูคริสต์เป็นผู้จัดการในชีวิตของท่านหรือไม่?

ปัญหาที่เราพบเสมอคือ   เราต้องการที่จะเป็นผู้จัดการชีวิตของเราเอง   และในส่วนลึกของจิตใจเรามักไม่ค่อยเห็นด้วยกับทิศทางที่พระองค์ทรงนำในชีวิตของเรา   บางครั้งก็เถียงหรือคัดค้านวิธีนำของพระองค์ในใจของเรา   เรามักลืมตัวคิดไปว่า เรารู้ดีในทุกเรื่อง   สาเหตุลึก ๆ ที่ทำให้เราต้องมีความเครียดในชีวิตก็เพราะเรามักสู้กับพระประสงค์และการทรงนำของพระองค์เสมอ   “ผมรู้นะว่าพระองค์ต้องการให้ผมทำอย่างงี้   แต่ใจผมต้องการทำอย่างนั้นมากกว่า”

ทุกเช้าเมื่อเราตื่นขึ้น  เรามีเรื่องที่ต้องตัดสินใจ...   ใครที่จะเป็นผู้ที่รับผิดชอบชีวิตของเรา?   ใครจะเป็นผู้ที่ควบคุมชีวิตและสิ่งทั้งหลายในวันนี้  เราหรือพระเจ้า?   ใครจะควบคุมสถานการณ์ในวันนี้   เราหรือพระเจ้า?   เราต้องตัดสินใจในแต่ละวัน  ในแต่ละขณะ  เราต้องเป็นผู้ตัดสินใจ   เมื่อเราเลือกที่จะให้ตัวเราเองเป็นผู้จัดการชีวิตของเรา   มักนำมาซึ่งความขัดแย้ง  ความสับสน  และความตึงเครียดในชีวิต

พระเยซูได้กล่าวในมัทธิว 16:24 ว่า
ถ้าใครต้องการจะติดตามเรา
ให้คนนั้นปฏิเสธตนเอง
รับกางเขนของตนแบกและตามเรามา (มตฐ.)

เมื่อเราตัดสินใจเชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์   นั่นหมายความว่า เรามอบชีวิตของเราให้พระองค์เป็นผู้จัดการ   นั่นหมายความว่าเรา “ปฏิเสธที่จะเป็นผู้จัดการชีวิตของเราเอง”   แล้วดำเนินชีวิตตามที่พระองค์ชี้นำ   ไปทุกที่ที่พระองค์นำไป   แล้วทำตามสิ่งที่พระองค์ประสงค์ให้เรากระทำในชีวิต  “แบกกางเขนของตนและตามพระองค์ไป”   ถ้าเป็นการขับรถยนต์ เราต้องยอมลุกจากที่นั่งของคนขับ   แล้วมอบให้พระองค์ทรงเป็นผู้ขับรถชีวิตของเรา  แล้วเราย้ายไปนั่งในที่นั่งของผู้โดยสาร

แต่ในความเป็นจริง   บ่อยครั้งที่เรายอมลุกจากที่นั่งคนขับ   มานั่งหลังคนขับ   เราเองยังไม่ลดละที่จะทำหน้าที่บทบาทของคนขับ   บ่อยครั้งใช่ไหมที่เราบอกพระองค์ว่า   ขอพระองค์ช่วยเลี้ยวซ้าย   ช่วยหยุดรถที   ขอพระองค์ขับช้าลง   เร่งพระองค์ขับให้เร็วทันใจเราหน่อย  บอกให้พระองค์ขับไปยังทิศทางที่เราต้องการไป...

เราไม่ได้เป็นคนขับ...   แต่เรากำลังกำกับการขับรถของคนขับมิใช่หรือ?

เราเคยกำกับการทรงนำของพระเจ้าใช่ไหม?

เราต้องการให้พระเจ้าช่วยในเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้ป็นไปตามที่ใจของเราปรารถนา

เราต้องการแบกกางเขนแล้วตามพระองค์ไป   หรือเราต้องการให้พระเยซูแบกกางเขนของเรา แล้วเดินตามเราไป?

ปากบอกให้พระเจ้าทรงนำ   แต่เรากลับนำพระเจ้า!   ปากบอกว่าเราต้องการตามพระองค์ไป   แต่เราให้พระองค์ตามหาเรา?

ครูสอนเต้นรำบอกกับ ริก วอร์เรน และ ภรรยา เมื่อเขาไปเรียนเต้นรำว่า   ปัญหาใหญ่ของคนที่มาเรียนเต้นรำคือ  คู่เต้นรำมักบอกว่าให้อีกคนเป็นคนนำ   แต่ในภาคปฏิบัติมักพบว่าต่างคนต่างพยายามนำ   ผลที่เกิดขึ้นคือ   มักไปเหยียบเท้าของอีกคนหนึ่งเสมอ   และการเต้นรำก็จะถูกขัดจังหวะ  เกิดการสะดุด  

เมื่อเราพยายามที่จะนำพระเจ้า หรือ ควบคุมการทรงนำของพระองค์  จะด้วยตั้งใจทำหรือไม่ตั้งใจก็ตาม   ระวัง   ท่านอาจจะไปเหยียบ “เท้า” ของพระองค์เข้า!

สิ่งที่เราพึงกระทำคือ  เต็มใจและใส่ใจให้พระองค์ชี้นำในการดำเนินชีวิตของเรา   ให้พระเจ้าทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าในชีวิตของเรา  และให้พระเยซูคริสต์เป็นผู้จัดการชีวิตของเรา

วันนี้เราคงต้องนั่งลงสำรวจและถามตนเองตรง ๆ ว่า...  
มีเรื่องอะไรบ้างในชีวิตของเราที่ยากหนักหนาที่จะยอมอย่างสิ้นเชิงต่อพระเจ้า?  
ท่านเคยมีเรื่องต่อล้อต่อเถียงกับพระเจ้าในจิตใจไหม?   เรื่องอะไร?
พฤติกรรมชีวิตในทุกวันนี้ของท่านแสดงว่าใครเป็นคนจัดการในชีวิตของท่าน?  

ถ้าท่านมอบให้พระเจ้าทรงเป็นผู้ควบคุมจัดการชีวิตด้านต่าง ๆ ของท่าน   ท่านคิดว่า จะทำให้เกิดความแตกต่างในชีวิตของท่านอย่างไรบ้าง?

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น