15 กันยายน 2557

เราทำพันธกิจไปทำไม?

พระ​เยซู​จึง​ตรัส​กับ​บรร​ดา​สา​วก​ของ​พระ​องค์​ว่า
ถ้า​ใคร​ต้อง​การ​จะ​ติด​ตาม​เรา
ให้​คน​นั้น​ปฏิ​เสธ​ตน​เอง
รับ​กาง​เขน​ของ​ตน​แบก​
และ​ตาม​เรา​มา”
(มัทธิว 16:24 มตฐ.)

ถ้าใครตัดสินใจที่จะดำเนินชีวิตโดยมีพระประสงค์ของพระเยซูคริสต์เป็นเป้าหมายชีวิตของตน   สิ่งแรกคน ๆ นั้นจะต้องล้มเลิก และ เปลี่ยนแปลงเป้าหมายชีวิตที่ตนปรารถนาอยากได้ใคร่มี กล่าวคือ “ปฏิเสธ” ความคิด  ความต้องการ  ระบบคุณค่าเดิม ๆ ของตน  สิ่งมีค่าที่ตนปรารถนา และพฤติกรรมเดิม ๆ ที่ตนคุ้นชิน  เป็นเหมือนการเทเอาของเดิม ๆ เก่า ๆ ที่อยู่ในขวดแห่งชีวิตของเราออกทิ้งก่อน

สำหรับพระคริสต์แล้ว   การ “ปฏิเสธตนเอง” ดังกล่าวเป็นเพียงจุดเริ่มต้น   แต่ชีวิต จิตใจและวิญญาณต้องมีพื้นที่ที่ว่างที่จะ “รับเอากางเขนของตน”  แล้ว “แบก” ตามพระองค์ไป  การเป็นคริสตชนเป็นชีวิตที่เริ่มต้นด้วยการ “ยอมปฏิเสธ” หรือ “เททิ้ง” ชีวิตเดิมที่มีตนเองเป็นศูนย์กลาง  เลิกชีวิตที่มุ่งมั่นตั้งหน้าที่จะเสริมสร้างให้ชีวิตของตนเองมั่งคั่งมั่นคง  หยุดการทำให้ตนรู้สึกมีคุณค่าตามกระแสนิยมของสังคมโลก   แล้ว “เปิดรับ” เอาระบบคุณค่าใหม่ในชีวิตที่มิใช่สิ่งที่เรามุ่งมั่นปรารถนา   แต่กลับเป็น “พระประสงค์ของพระคริสต์”  เข้ามาในชีวิตของเรา   ไม่เป็นเพียงแค่นั้นแต่ให้รับระบบคุณค่าใหม่ของพระคริสต์เป็นศูนย์กลางในชีวิตของเรา   ให้พระประสงค์ของพระคริสต์เป็นเป้าหมายในชีวิตของเรา

กางเขน เป็นเรื่องของการให้ชีวิตเพื่อคนอื่นจะได้มีชีวิต  

ให้เรากลับไปในบริบทสมัยพระเยซูคริสต์   กางเขนคือเครื่องมือประหารชีวิตของผู้ที่ทำอาชญากรรมร้ายแรง  และที่สำคัญคือผู้ที่ทำตนเป็นปฏิปักษ์ต่ออำนาจของโรมัน  เป็นพวกที่โรมันมองว่าเป็นภัยคุกคามต่ออำนาจความมั่นคงของตน   เป็นพวกที่เป็นภัยต่อความสงบของจักรวรรดิ์โรมัน   ดังนั้น กางเขนเป็นสัญลักษณ์ของความตาย   และการที่ใครตัดสินใจยอมแบกกางเขนในชีวิตของตน ก็เป็นคนที่ตัดสินใจแล้วที่ยอมให้ “ชีวิต”  ด้วยความคาดหวังว่าเพื่อให้มนุษยชาติ หรือ อย่างน้อยประเทศชาติของตนได้มีชีวิตที่มีคุณค่าอีกครั้งหนึ่ง

แต่พระเยซูคริสต์ พระองค์มิได้มาในโลกนี้เพื่อล้มล้างเปลี่ยนแปลงอำนาจเผด็จการทรราชย์ในเวลานั้น   แล้วให้อีกกลุ่มหนึ่งขึ้นเถลิงครองอำนาจเหนือประชาชนในนามของพระเจ้า   พระราชกิจการให้ชีวิตของพระองค์นั้นมิใช่มาเพื่อล้มล้างกลุ่มอำนาจเดิม   เพื่อจะมีกลุ่มอำนาจใหม่   เป้าหมายการเปลี่ยนแปลงของพระองต์มิใช่เป็นระบบโครงสร้างของสังคมโลกเท่านั้น    แต่พระองค์ประสงค์ที่จะให้ชีวิตแก่ประชาชนและทุกคน   และการเปลี่ยนแปลงเริ่มต้นที่ความคิด ความเชื่อ จิตใจและมุมมมองใหม่   คือการเปลี่ยนแปลงจากภายในชีวิตของประชาชนแต่ละคน   แล้วร่วมกันที่จะเดินตามวิถีแห่งกางเขนของพระองค์   มุ่งหน้าไปสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่คือ การนำผู้คนเข้าไปมีชีวิตใน “แผ่นดินของพระเจ้า”   คือเป็นชีวิตภายใต้การปกป้องคุ้มครองของพระองค์   และมีชีวิตที่มีคุณภาพตามที่พระองค์ประสงค์   และมีจิตใจที่เอื้ออาทรที่ประสงค์ให้คนอื่น ๆ ได้มีชีวิตที่มีคุณภาพและอยู่ภายใต้การปกป้องคุ้มครองของพระเจ้าด้วยพระคุณเมตตา

การแบกกางเขนของตนและเดินตามพระองค์ไป   คือการที่คริสตชนแต่ละคน แต่ละกลุ่ม  และแต่ละคริสตจักรกระทำสานต่อพระราชกิจแห่งการช่วยกู้และสร้างใหม่ของพระคริสต์ต่อจากพระองค์ในสังคมโลกปัจจุบัน   พันธกิจใด ๆ ที่คริสตจักรกำลังทำ และ ตั้งใจจะทำต่อไป  หรือที่จะทำในอนาคต   คริสตจักรและคริสตชนต้องถามตนเองก่อนทำพันธกิจนั้น ๆ ว่า   พันธกิจที่เราทำเป็นการสานต่อจากพระราชกิจของพระเยซูคริสต์หรือไม่ อย่างไรบ้าง?   และคงต้องพิจารณาแบบเจาะลึกลงไปว่า  
  • พันธกิจที่ทำอยู่นั้นแท้จริงเป็นการสร้างความมั่งคั่งมั่นคงของ  “องค์กร/คริสตจักร” หรือสานต่อพระราชกิจแห่งการทรงกอบกู้และสร้างใหม่ของพระคริสต์อย่างไรบ้าง?  
  • ถ้างานใดพันธกิจใดที่มิได้สานต่อพระราชกิจของพระคริสต์เราเลิกทำได้ใหม?  ทำไม?   
  • ในสถานการณ์ชีวิตของสังคมไทยและสังคมโลกปัจจุบัน   อะไร/ที่ไหนที่คริสตชนและคริสตจักรจะต้องสานต่อพระราชกิจของพระเยซูคริสต์?  
  • แล้วใครจะเอื้ออำนวยและหนุนเสริมเพิ่มพลังให้คริสตชนและคริสตจักรได้ “แบกกางเขน” สานต่อพระราชกิจของพระเยซูคริสต์?  และ ด้วยการทำอย่างไร?

คงมิใช่บอกว่า  ให้โรงเรียนคริสเตียน  โรงพยาบาลคริสเตียน มหาวิทยาลัยคริสเตียน   หน่วยงานคริสเตียนมากมาย  และคริสตจักรใหญ่/คริสตจักรเล็ก  คริสตจักรภาค   และคริสตชนแต่ละคน   ให้ “แบกกางเขน” ของตนไป   มิใช่ให้แต่ละคนแต่ละหน่วยงาน  ทำหน้าที่ของตนให้ดีเท่านั้นไม่เพียงพอแล้วครับ   แต่คริสตจักรต้องกล้าถามตนเองว่า   ทั้งหมดทั้งสิ้นที่ โรงพยาบาล  โรงเรียน  มหาวิทยาลัยคริสเตียน   หน่วยงาน  กรมกองงานคริสเตียน  และคริสตจักรน้อยใหญที่ทำอยู่นี้เป็นการสานต่อจากพระราชกิจแห่งการกอบกู้และสร้างใหม่ของพระคริสต์หรือไม่อย่างไรครับ?

อย่าลืมนะครับว่า... ให้เราแบกกางเขนของตนแล้วต้องตามพระเยซูคริสต์ไปนะครับ

อย่าดันทุรังแบกกางเขนของตน   ตามใจปรารถนาของตนเอง  หรือตามองค์กร  พรรคพวก   และที่น่าฉงนคือตามนโยบายที่กำหนดไว้    ถ้าเช่นนั้น  ก็ต้องถามต่อไปว่านโยบายที่กำหนดขึ้นเพื่อใครครับ?   สอดคล้อง หรือ คนละเรื่องกับการสานต่อพระราชกิจแห่งการกอบกู้และสร้างใหม่ของพระคริสต์อย่างไรบ้างครับ?

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น