ผู้ที่ตักเตือนคนอื่น
จะได้รับความโปรดปรานภายหลัง
มากกว่าผู้ที่ใช้ลิ้นป้อยอ
(สุภาษิต 28:23 มตฐ.)ถ้าท่านเป็นโสดและกำลังใช้เวลา(ประวิง) เพราะว่าไม่รู้จะตัดสินใจเลือกไปทางไหนดีในเรื่องชีวิตคู่ อย่าเพิ่งตัดสินใจ นิ่งสงบอยู่แค่นั้นก่อน แต่คนโสดบางคนก็จะบ่นว่า “ไม่มีใครเป็นเพื่อนเย็นวันศุกร์” หรือ บางคนว่า “ไม่มีใครคอยเป็นเพื่อนและช่วยยามจำเป็น” แต่การตัดสินใจแต่งงานที่ผิดพลาดสร้างผลร้ายแรงต่อชีวิตของเรามากกว่าหลายร้อยพันเท่าที่ไม่มีเพื่อนออกไปพักผ่อนตอนเย็นวันศุกร์ หรือ ใครคนหนึ่งเป็นเพื่อนหรือคอยช่วยเมื่อยามจำเป็น ระมัดระวังไว้ว่า เมื่อเราถลำตัวเข้าในความสัมพันธ์ลงลึกแล้วยากที่จะถอนตัวออกจากความสัมพันธ์ดังกล่าว (แม้ภายหลังจะรู้ว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดก็ตาม... แล้วก็ปล่อยเลยตามเลย)
สุภาษิต 28:23
กล่าวว่า “ผู้ที่ตักเตือนคนอื่น
จะได้รับความโปรดปรานภายหลัง
มากกว่าผู้ที่ใช้ลิ้นป้อยอ”
เราคงต้องกล้าที่จะชวนให้เขา(คนรัก)พิจารณาถึงอารมณ์ของเราและเขา กล้าที่จะไตร่ตรองและเรียนรู้ถึงอารมณ์ของกันและกัน
เช่น “คุณไม่สามารถควบคุมอารมณ์ในเรื่องอะไรบ้าง?” “เวลาโกรธคุณควบคุมความโกรธได้ไหม?”
“แล้วเธอเห็นถึงอารมณ์ของฉันเป็นอย่างไรบ้าง?” “คุณจะสามารถรับได้กับอารมณ์ดังกล่าวอย่างซ้ำซากได้ไหม?”
ที่สุดคือ
ความสัมพันธ์ส่วนตัวของเราและเขากับพระเยซูคริสต์เจ้าเป็นอย่างไร
และถ้าเรายังไม่มีความสัมพันธ์สนิทกับพระองค์ในขณะนี้
สิ่งแรกคือเราต้องเริ่มความสัมพันธ์นี้ทันที ชีวิตจิตวิญญาณของเราต้องเชื่อมต่อสัมพันธ์ติดสนิทกับพระเจ้าก่อนสิ่งอื่นใด
จากนั้น เราต้องมอบชีวิตของเราให้ดำเนินตามมาตรฐานของพระเจ้า และไม่ปล่อยให้พลังของ “คลื่นทะเลแห่งอารมณ์”
โถมซัดให้ตัดสินใจในบางอย่างแบบไม่ชาญฉลาด (หรือเข้าขั้นโง่ ๆ ) ระมัดระวังที่จะคิดว่า เรากำลังอยู่ในบรรยากาศแห่งความรัก
แล้วปล่อยใจอารมณ์ความรู้สึกในเวลานั้นเป็นตัวกระตุ้นในการตัดสินใจอนาคตชีวิตของเรา
อีกประการหนึ่ง ถ้าเรายังมีอารมณ์ความรู้สึกเจ็บปวด หรือมีบาดแผลในชีวิต
อย่าเพิ่งออกไปอยู่ด้วยกันสองต่อสอง(กับคนที่จะเป็นคนรักใหม่) ขอให้บาดแผลหรือความเจ็บปวดในชีวิตได้รับการเยียวยารักษาก่อน
หรืออย่างน้อยอยู่ในกระบวนการเยียวยารักษา เราต้องเอาชนะอารมณ์ และ
ความโกรธในตัวเราเสียก่อน ปลด
“เป้แห่งอารมณ์” ลงจากไหล่ของเราเสียก่อน
มีผู้เปรียบเปรยให้ฟังว่า “เมื่อฉันเดินเข้าสู่พิธีสมรสในชุดเจ้าสาว ตอนนั้นไม่ได้คิดว่า แท้ที่จริงฉันกำลังสะพาย “เป้แห่งขยะอารมณ์”
เข้าไปในพิธีนั้นด้วย แล้วฉันก็นำ
“ขยะแห่งอารมณ์เข้าไปในชีวิตแต่งงานด้วย”
การแต่งงานไม่ได้เป็นตัวสร้างปัญหา แต่การแต่งงานเป็นการฉายภาพให้เห็นปัญหา ดังนั้น
ถ้าเราสามารถจัดการกับปัญหาอารมณ์ในชีวิตของเราทั้งสองก่อนมากแค่ไหน เราจะมีความสุขมากขึ้นแค่นั้น เราจะมีชีวิตคู่ที่ยกย่องให้เกียรติพระเจ้ามากขึ้น และเราจะมีความสัมพันธ์สนิทสนมอย่างลึกซึ้ง ทั้งในชีวิตส่วนตัวของเราแต่ละคน ในความสัมพันธ์กับคู่ชีวิต ในความสัมพันธ์ทางเพศ และในความสัมพันธ์ด้านจิตวิญญาณ และต้องไม่ลืมว่า
ความสัมพันธ์ดังกล่าวทั้งหมดเกี่ยวข้องสัมพันธ์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ด้วยการที่เราเริ่มมีความสัมพันธ์กับพระเจ้าก่อน
แล้วมีเป้าหมายชีวิตตามการทรงเรียกในชีวิตของเราแต่ละคน
ประเด็นที่ควรพิจารณา
- คุณคิดว่าก่อนที่จะแต่งงานกัน คุณจำเป็นจะต้องเปลี่ยนแปลงอะไรก่อนบ้าง? หรือ มีอะไรในชีวิตคุณที่จะต้องได้รับการเยียวยารักษาก่อนที่พร้อมจะแต่งงาน?
- คุณคิดว่า ความสัมพันธ์ของคุณกับคู่รักจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง ถ้าคุณยอมตนดำเนินตามมาตรฐานของพระเจ้าในชีวิตคุณ?
- มีคำถามยาก ๆ ในความสัมพันธ์ของคุณกับคู่รักในเรื่องอะไรบ้างที่คุณจำเป็นถามก่อน?
- ถ้าคุณแต่งงานแล้ว คุณกำลังต้องแบก “เป้แห่งอารมณ์” ในเรื่องอะไรบ้างในชีวิตของคุณ? แล้วคุณจะหาการเยียวยารักษาสิ่งเหล่านั้นได้อย่างไร?
- ถ้าเป็นคนที่แต่งงานแล้ว ท่านจะช่วยคนโสดที่กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับ “เป้แห่งอารมณ์” หรือที่กำลังต้องการเยียวยารักษา หรือ ที่เสี่ยงต่อการให้ “คลื่นแห่งอารมณ์” ซัดโถมให้ตัดสินใจอย่างไม่ฉลาดได้อย่างไร?
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น