19 กันยายน 2557

เมื่อชีวิตต้องทุกข์ยากลำบากเกินกว่าจะรับมือ

อ่านสดุดี บทที่ 46

พระ​เจ้า​ทรง​เป็น​ที่​ลี้​ภัย​และ​เป็น​กำลัง​ของ​เรา
เป็น​ความ​ช่วย​เหลือ​ที่​พร้อม​อยู่​ใน​ยาม​ยาก​ลำ​บาก
ฉะนั้น​เรา​จะ​ไม่​กลัว แม้​ว่า​แผ่น​ดิน​โลก​จะ​เปลี่ยน​แปลง​ไป
แม้​ว่า​ภูเขา​ทั้ง​หลาย​จะ​โคลง​เคลง​ลง​สู่​สะดือ​ทะเล
แม้​ว่า​น้ำ​ทะเล​คึก​คะ​นอง​และ​ฟอง​ฟู
แม้​ว่า​ภูเขา​สั่น​สะ​เทือน​เพราะ​ทะเล​อลวน​นั้น ...
พระ​ยาห์​เวห์​จอม​ทัพ​สถิต​กับ​เรา​ทั้ง​หลาย
พระ​เจ้า​ของ​ยา​โคบ​ทรง​เป็น​ที่​กำบัง​อัน​แข็ง​แกร่ง​ของ​เรา...
พระ​องค์​ทรง​ให้​สง​คราม​สงบ​จน​ถึง​ที่​สุด​ปลาย​แผ่น​ดิน​โลก
พระ​องค์​ทรง​หัก​คัน​ธนู​และ​ฟัน​หอก​เสีย
พระ​องค์​ทรง​เผา​โล่​กลม​ด้วย​ไฟ...

“จง​นิ่ง​เสีย และ​รู้​เถิด​ว่า เรา​คือ​พระ​เจ้า...”
(สดุดี 46:1-3, 7, 9-10ก มตฐ.)

จากประสบการณ์ชีวิตของผู้ประพันธ์สดุดีบทที่ 46  ได้สะท้อนสัจจะความจริงแห่งชีวิตในโลกนี้ว่า   เมื่อเราตกอยู่ในภาวะชีวิตที่ตกต่ำทุกข์ยากลำบากแบบสุด ๆ  เกินกว่าที่เราจะสามารถรับมือกับสภาวะชีวิตดังกล่าว  ผู้ประพันธ์สดุดีบทนี้ใช้ภาพของธรรมชาติและมนุษย์เพื่อชี้ถึงความยากลำบากดังกล่าวเช่น  “แผ่นดินโลกเปลี่ยนแปลง” “ภูเขาโคลงเคลง” แล้วเคลื่อนไหว “ลงสู่สะดือทะเล”   น้ำทะเล “คึกคะนองและฟองฟู”  ภูเขาสูง “สั่นสะเทือน”  เพราะความอลวนปั่นป่วนใต้พื้นโลก  

แต่ผู้ประพันธ์กลับบอกเราว่า เขาจะไม่กลัว!   ทำไมเขาถึงไม่กลัว?

ทั้งนี้เขาได้ยืนยันว่า   เพราะพระเจ้าอยู่กับเราในสถานการณ์ที่เลวร้ายนั้น   และ “พร้อมอยู่ในความยากลำบากนั้น”   ที่จะปกป้องคุ้มครองเรา  พร้อมเป็น “ที่กำบังอันแข็งแกร่งของเรา”   พระองค์เป็น “ที่ลี้ภัย” เป็น “กำลังของเรา”  และเป็น “ความช่วยเหลือที่พร้อม” เสมอสำหรับเรา

ยิ่งกว่านั้น   พระองค์จะทรงกระทำความสงบ และ สันติภาพในชีวิตและในโลกนี้แก่เรา   แล้วผู้ประพันธ์ได้อ้างถึงพระสุรเสียงของพระเจ้า   “จงนิ่งเสีย  และรู้เถิดว่า เราคือพระเจ้า”   ในภาวะที่เรายากที่จะรับมือกับความยากลำบากสุด ๆ ในชีวิต   และเรายอมเปิดชีวิตของเราให้พระเจ้าเข้ามา “เปลี่ยนแปลง” ในชีวิตของเรา   สิ่งสำคัญในวิกฤติชีวิตดังกล่าวของเราคือ   เราต้อง “นิ่ง” และ “รู้” ว่า  พระเจ้าคือพระเจ้าและเจ้าของชีวิตของเรา

วันนี้  ขอให้เรามีเวลาที่จะสงบ   ตรวจสอบสภาพชีวิตของเราว่า อะไรคือสิ่งหรือสถานการณ์ที่เรากำลังประสบความยากลำบากที่สุดที่เราต้องรับมือ   และที่จะไว้วางใจว่าพระเจ้าทรงอยู่กับเราจะเอาใจใส่ในเรื่องนั้นเพื่อเรา?   ท่านพร้อมที่จะยอมเปิดชีวิตของท่านออกให้พระเจ้าเข้ามาในชีวิตเพื่อเป็นที่ปกป้อง  คุ้มครอง  เป็นกำลัง  และความช่วยเหลือในเรื่องนั้นของท่านหรือไม่?   และรับการเปลี่ยนแปลงชีวิตจากพระองค์หรือไม่?

ท่านมีมุมมอง “ความสำเร็จในชีวิต”  แบบไหน?   ส่วนใหญ่แล้วคริสตชนยังมีมุมมองความสำเร็จในชีวิตตามมุมมองกระแสโลกสังคมปัจจุบัน   เห็นว่าความสำเร็จคือการที่เรามีชื่อเสียง  มีผลงาน  มีกิจการธุรกิจที่ใหญ่โตขึ้น  เรามักตัดสินว่าสำเร็จหรือล้มเหลวจากสภาพชีวิตภายนอกที่เรามองเห็นหรือแตะต้องได้   แต่สำหรับคริสตชนเรามีมุมมองความสำเร็จที่คุณลักษณะชีวิตที่มีคุณธรรม เช่น เป็นคนที่มีเมตตา   จิตใจเอื้ออาทร  สร้างสรรค์  มีปัญญา  สัตย์ซื่อ  รู้สึกมั่นคงในชีวิต   และคนที่มีคุณธรรมชีวิตเช่นนี้   เขาจะต้องมีชีวิตที่ “สงบ”   และที่เขาจะมีชีวิตที่สงบได้เพราะเขา “รู้” และเชื่อมั่นในการทรงสถิตอยู่ด้วย และ การทรงพร้อมที่จะทรงช่วยในเวลายากลำบาก

ในสดุดี บทที่ 131  ผู้ประพันธ์ได้กล่าวถึง “จิตใจที่สงบ” ไว้ว่า  
ข้า​แต่​พระ​ยาห์​เวห์
ใจ​ของ​ข้า​พระ​องค์​มิ​ได้​เห่อ​เหิม
และ​ตา​ของ​ข้า​พระ​องค์​มิ​ได้​ยโส
ข้า​พระ​องค์​มิ​ได้​ไป​ยุ่ง​กับ​เรื่อง​ใหญ่​โต
หรือ​เรื่อง​อัศ​จรรย์​เกิน​ตัว​ของ​ข้า​พระ​องค์
แต่​ข้า​พระ​องค์​ได้​สงบ​และ​ระ​งับ​จิต​ใจ​ของ​ข้า​พระ​องค์
อย่าง​เด็ก​ที่​หย่า​นม​แล้ว​สงบ​อยู่​ที่​อก​มาร​ดา​ของ​ตน
จิต​ใจ​ของ​ข้า​พระ​องค์​สงบ​อยู่​ภาย​ใน​ข้า​พระ​องค์ อย่าง​เด็ก​ที่​หย่า​นม​แล้ว (ข้อ 1-2)

ถ้าเช่นนั้น   ในฐานะคริสตชน เรามีภารกิจในการกระทำทุกอย่างในชีวิต  ไม่ว่าอาชีพการงาน  ครอบครัว  เพื่อนฝูง  และชุมชนประเทศชาติ   เรากระทำภารกิจชีวิตเหล่านี้เราทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า   ส่วนพระองค์จะทรงรับผิดชอบเราด้วยการทรงเอาใจใส่ในชีวิตของเรา   ดังนั้นเราจึงไม่ควรที่จะกลัว  กังวล  วุ่นวาย  และสับสนในชีวิต หรือ ในสิ่งใดเลย

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น