อะไรคือความแตกต่างของผู้ที่มีความเชื่อศรัทธา
กับ คนที่ไม่มีความเชื่อศรัทธา?
คนที่เชื่อศรัทธาจะไม่ยอมแพ้
“ยกธงขาว” ตั้งแต่เมื่อพบเห็นความยากลำบากครั้งแรก ๆ พวกเขาบากบั่น มุ่งมั่น
ไปทีละก้าว ก้าวต่อก้าว ก้าวแล้วก้าวอีกไม่ย่อท้อ
คนที่เชื่อศรัทธาเป็นคนที่มีจิตใจหนักแน่นมุ่งมั่น
คนที่มีความเชื่อศรัทธาคือคนที่บากบั่นพากเพียร คนที่มีความเชื่อคือคนที่ยืนหยัดเด็ดเดี่ยว
คนที่มีความเชื่อศรัทธาคือคนที่ไม่รู้ว่าจะล้มเลิกท้อถอยอย่างไร เมล็ดไม้สักงอก
เติบโต เป็นต้นไม้ใหญ่ได้อย่างไร? ต้นสักที่สูงใหญ่มาจากเมล็ดสักเม็ดเล็ก ๆ
เมื่องอกแล้ว ค่อย ๆ เติบใหญ่ ในทุกหน้าแล้งมันเสี่ยงต่อการถูกไฟป่าเผา แต่เพราะมันไม่ย่อหย่อน
ท้อถอย และยอมแพ้ต่างหากที่ทำให้มันเป็นต้นสักที่เติบใหญ่ สูงตระหง่านอยู่ได้
ที่ผ่านมา
ผมเคยเป็นคนหนึ่งในหลาย ๆ คนที่ทำอะไรมัก “ยอมแพ้” ง่าย ๆ
แต่ประสบการณ์ชีวิตสอนผมว่า เราจะไม่ล้มเหลวในชีวิตเลยตราบใดที่เรายังไม่ท้อถอย
ยอมแพ้ พระเจ้าทรงใช้สถานการณ์ที่เลวร้าย ลำบาก ทุกข์ยากที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา
เพื่อที่จะทดสอบและเสริมสร้างให้เราเป็นคนที่ยืนหยัด มั่นคง เด็ดเดี่ยว
ที่พระองค์จะใช้ได้
ศาสนาจารย์
ริก วอร์เรน เล่าว่า คริสตจักรเซดเดลแบค
เขาเทศนาครั้งแรกในคริสตจักรแห่งนี้ให้คนฟัง 1 คน ริก หมายถึงภรรยาของเขา
เธอรู้สึกว่าคำเทศนาของ ริก ยืดยาวเกินไป หลังจากนั้นอีก 31
ปี เธอก็ยังบอกกับ ริก ว่า เทศนาของเขายังยาวเกินไป
ริกเล่าอีกว่า
เมื่อเขาเริ่มต้นคริสตจักร เขาคาดหวังว่าจะมีตัวอาคารโบสถ์ในเวลาอันรวดเร็ว
แต่ปรากฏว่า คริสตจักรแห่งนี้ไม่มีอาคารโบสถ์เป็นของตนเองเป็นเวลา 15 ปี
และใน 13 ปีแรกเราต้องเปลี่ยนที่เช่าหลายที่ ริกถามว่า
“ท่านรู้ไหม มีสักกี่ครั้งที่ผมรู้สึกท้อแท้จนอยากจะยอมแพ้? เกือบจะทุกเช้าวันจันทร์ครับ
แต่ผมไม่รู้ว่าจะล้มเลิกความตั้งใจอย่างไร”
พระเจ้าตรัสกับ
ริก ว่า “ถ้าเราไม่ให้อาคารโบสถ์แก่เจ้า เจ้ายังจะรับใช้เราหรือไม่? ริก
ตอบพระเจ้าว่า “แน่นอน ไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ข้าพระองค์ยังจะรับใช้พระองค์”
คริสตจักรแห่งนี้เติบโตขึ้นจนมีสมาชิกเกินกว่า
10,000 คน ก่อนที่เขาจะมีตัวอาคารโบสถ์เป็นของตนเอง
พวกเขาจะต้องจัดสถานที่นมัสการพระเจ้าสำหรับคน 10,000
คนทุกวันอาทิตย์ แล้วเก็บกวาด จัดเก็บ สถานที่นั้นหลังการนมัสการเลิกทุกวันอาทิตย์
ใครบ้างอยากทำงานลำบากเช่นนั้น? แน่นอน
คงไม่มีใครที่อยากทำอย่างนั้น อีกทั้งดูเป็นคริสตจักรที่ไม่น่าชื่นชมสนใจอะไรเลย
มีแต่จะต้องทำงานหนัก แต่พระเจ้าทรงใช้เวลาที่พวกเขาต้องทุกข์ยากลำบาก ทำงานหนัก
เพื่อทดสอบและเสริมสร้างความมุ่งมั่น ตั้งใจ ยืนหยัด อย่างเด็ดเดี่ยวของพวกเขา
อะไรที่ทำให้เราอดทน
บากบั่นจาริกไปได้บนเส้นทาง และ ในเวลาที่แสนทุกข์ยากลำบากเช่นนี้? อาจารย์เปาโล
กล่าวจากประสบการณ์ตรงของท่านว่า “...(ที่)เรา...ไม่ย่อท้อ ถึงแม้ว่าสภาพภายนอกของเรากำลังทรุดโทรมไป
แต่สภาพภายในนั้นก็ได้รับการเปลี่ยนใหม่ทุก ๆ วัน
เพราะว่าความยากลำบากชั่วคราวและเล็กน้อยของเรา
จะทำให้เรามีศักดิ์ศรีนิรันดร์มากมายอย่างไม่มีที่เปรียบ” (2
โครินธ์ 4:16 มตฐ.)
พระเจ้าสนพระทัยว่า
เราจะเป็นคนอย่างไร มากกว่ามีอะไรกำลังเกิดขึ้นกับเราในตอนนี้
พระองค์ใช้การประสบกับการทดลอง
ความทุกข์ยากลำบาก ความแร้นแค้น และเกิดปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตคนของพระองค์
ที่จะสอนและเสริมสร้างให้เขาเป็นคนที่บากบั่นพากเพียร เป็นคนที่มีความหนักแน่น
ตั้งใจ แน่วแน่ และเสริมสร้างอุปนิสัยและบุคลิกคนของพระเจ้า และ มีชีวิตตามที่พระองค์จะทรงใช้ได้
ปัญหา
ความทุกข์ยากลำบากที่เราประสบพบเจอในชีวิตปัจจุบันนี้ เป็นการทดสอบ และ
เสริมสร้างให้เราเป็นผู้ที่มีความเชื่อศรัทธาที่สัตย์ซื่อ
ท่านยังจะรับใช้พระองค์ต่อไปหรือไม่
เมื่อชีวิตต้องประสบกับความทุกข์ยากลำบากข้นแค้น?
เปาโลเขียนไว้ใน
กาลาเทีย บทสุดท้ายว่า “อย่าให้เราเมื่อยล้าในการทำดี เพราะว่าถ้าเราไม่ท้อใจแล้ว
เราก็จะเก็บเกี่ยวในเวลาอันสมควร” (6:9 มตฐ.)
ประเด็นใคร่ครวญ
และ แบ่งปันความคิดเห็น ประสบการณ์
•
ท่านเห็นด้วยหรือไม่ กับที่กล่าวข้างต้นที่ว่า
พระเจ้าสนพระทัยว่าท่านจะเป็นคนอย่างไร
มากกว่าที่มีอะไรกำลังเกิดขึ้นในชีวิตของท่านในปัจจุบันนี้? ทำไม?
•
การที่ท่านรู้ว่า
พระเจ้ากำลังทำพระราชกิจของพระองค์ท่ามกลางสถานการณ์ชีวิตที่ทุกข์ยากลำบากของท่าน
จะช่วยเปลี่ยนท่าที และ
แนวทางที่ท่านจะจัดการและรับมือกับสถานการณ์วิกฤติเหล่านั้นหรือไม่? อย่างไร? และทำไม?
•
ในสถานการณ์แบบไหนที่ท่านพร้อมจะยอมแพ้ “ยกธงขาว”? แต่ถ้าท่านเลือกที่จะไว้วางใจพระเจ้าในสถานการณ์นั้น ขณะที่ท่านบากบั่น
พากเพียร และ พยายามในสถานการณ์ดังกล่าว ท่านคิดว่าจะเกิดความแตกต่างหรือไม่?
อย่างไร? ทำไม?
•
ท่านมีตัวอย่าง หรือ ประสบการณ์ตรงในเรื่องข้างต้นนี้หรือไม่?
ถ้ามี เล่าแบ่งปันกันฟังและเรียนรู้ด้วยกัน
ประสิทธิ์
แซ่ตั้ง
Prasit.emmaus@gmail.com;
081 289 4499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น