03 มกราคม 2561

จะโทษใครดี... เมื่อชีวิตตกต่ำ สับสน ทุกข์ยาก?

เมื่อทบทวนถึงชีวิตที่ผ่านมา บางครั้งเกิดคำถามลึก ๆ ในใจว่า ทำไมพระเจ้าถึงปล่อยให้เราต้องเดินไปบนเส้นทางชีวิตที่ดูยุ่งยากยุ่งเหยิง? ทำไมพระองค์ให้เราต้องเผชิญกับชีวิตที่ซับซ้อนและสับสน? ทำไมพระเจ้าทำให้ชีวิตของเราต้องตกต่ำ ติดหล่มกับดักของอำนาจบาปชั่ว?

จริงอยู่ สิ่งทุกข์ยากในชีวิตอาจเกิดจากการตัดสินใจเลือกเส้นทางเดินที่ผิดพลาดของเรา แต่ทำไมพระเจ้าปล่อยให้เราเลือกเส้นทางชีวิตที่ผิดพลาด? พระองค์ก็รู้ว่า ถ้าเราเลือกไปบนเส้นทางที่ผิดพลาดเช่นนี้ ชีวิตเราจะต้องได้รับความทุกข์ยาก สับสน วุ่นวาย หลงทาง แต่ทำไมพระองค์ยังยอมให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับชีวิตคนของพระเจ้า คนที่เป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์?

ถามจนไม่รู้จะถามอะไรเลยต้องอยู่ในความเงียบ ตนเองก็ไม่รู้จะตอบตนเองอย่างไร มีเสียงแผ่วเบาและนิ่มนวลเอ่ยขึ้นว่า “เจ้าเป็นชนเผ่ากรรมสิทธิ์ของเรา แต่เจ้ามิใช่อภิสิทธิ์ชน”

เสียงประโยคข้างต้นทำให้ตนเองต้อง “สะอึก” ในที่สุดไม่รู้จะตอบอย่างไรได้ นอกจากจะยอมรับว่า “ใช่พระเจ้าข้า ที่ผ่านมาข้าพระองค์คิดอย่าง “อภิสิทธิ์ชน” คิดเข้าข้างตนเอง คิดแต่สิ่งที่ตนเองอยากได้ และคิดว่า คนอื่นต้องทำเพื่อตนเอง เป็นสิทธิ์ของตนเอง และข้าพระองค์ก็คิดและทำเช่นนี้ต่อพระองค์ด้วย...” ทำให้ตนเองต้องหวนกลับไปอ่านคำของผู้เผยพระวจนะ อิสยาห์ ที่ว่า...

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า
เหตุใดทำให้ข้าพระองค์ทั้งหลายหลงเตลิดจากวิถีทางของพระองค์
และทำให้จิตใจของข้าพระองค์แข็งกระด้างจนไม่ยำเกรงพระองค์?
ขอทรงโปรดกลับมาเพื่อเห็นแก่ผู้รับใช้ของพระองค์
ชนเผ่าซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์ (อิสยาห์ 63:17 อมธ.)

อิสราเอล ที่ตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศมหาอำนาจในสมัยนั้นก็ถามคำถามตรง ๆ กับพระเจ้า อย่างที่เราปัจจุบันถามพระองค์เช่นกัน แต่อิสยาห์ไปไกลกว่าคำถามที่ว่า “ทำไมพระเจ้าปล่อยให้ประชาชนของพระองค์เตลิดไปเช่นนั้น” แต่สิ่งที่อิสยาห์ทูลขอในเวลาเช่นนี้ เขาทูลขอโอกาสใหม่ โอกาสอีกครั้งหนึ่ง ที่จะทรงปกป้องคุ้มครอง “ชนเผ่ากรรมสิทธิ์ของพระองค์” เขาทูลขอโอกาสที่จะกลับมาหาพระองค์ใหม่ รับการเสริมสร้างให้เป็นชนเผ่าที่เป็นกรรมสิทธิ์ของพระเจ้า แต่มิใช่ชนเผ่าอภิสิทธิ์ชน(ตามใจตน) เป็นชนเผ่าที่ทำตามพระประสงค์ และ มีชีวิตที่เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระเจ้า

ในเวลาที่เราพบว่าชีวิตของเราเลือกทางพลาดเดินทางผิด สิ่งสำคัญที่ต้องการในเวลาสับสน วุ่นวายใจ และเจ็บปวดในชีวิตเช่นนี้ เราต้องการการช่วยเหลือจากพระเจ้า ในภาวะเช่นนี้คือภาวะที่เราไม่สามารถที่จะช่วยตนเองได้ ต่อให้มีอภิสิทธิ์อีกกี่ร้อยกี่พันเท่า ก็ไม่ช่วยให้เราช่วยตนเองให้รอดพ้นจากกับดักหล่มโคลนของชีวิตได้ ในภาวะเช่นนี้เราต้องการการช่วยเหลือจากพระเจ้า เราขอพระเมตตาที่จะให้โอกาสใหม่อีกสักครั้งหนึ่งในชีวิตนี้ ผู้ประพันธ์บทเพลงสดุดี 46:1 ได้บอกกับเราถึงประสบการณ์ในชีวิตของเขาว่า
พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยและเป็นกำลังของเรา
เป็นความช่วยเหลือที่พร้อมอยู่ในยามยากลำบาก...”

ขอให้สัจจะความจริงดังกล่าว ได้ฝังแน่นในก้นบึ้งแห่งชีวิตจิตใจ และ ในจิตใต้สำนึกของเราว่า “พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัย เป็นกำลังของเรา และ เป็นความช่วยเหลือที่พร้อมในยามที่เราเผชิญกับความทุกข์ยากลำบาก” แม้เราได้ตัดสินใจพลาดเลือกทางเดินชีวิตที่ผิด แต่พระเจ้าเป็นความช่วยเหลือที่พร้อมอยู่สำหรับเราทุกคน กลับมาหาพระเจ้า และบอกพระองค์จากจริงใจว่า เราต้องการความช่วยเหลือจากพระองค์ในภาวะวิกฤติเช่นนี้ในชีวิต

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง:

prasit.emmaus@gmail.com; 081 289 4499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น