11 มีนาคม 2561

เมื่อเรามีเป้าหมาย พระเจ้าทรงเสริมสร้างภายในตัวเรา


จากข้อเขียนที่ผ่านมา   ได้กล่าวถึงเหตุผล 3 ประการที่คริสตชนจำเป็นต้องกำหนดเป้าหมายเพราะ  เป้าหมายเป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตจิตวิญญาณของเรา   เป้าหมายเป็นคำแถลงการณ์แห่งความเชื่อ  และ เป้าหมายจะช่วยกำกับการใช้พลังชีวิตของเรา   ในข้อเขียนฉบับนี้ได้อ้างถึงเหตุผลของ ริก วอร์เรน อีก 3 ประการที่ท่านเห็นว่า คริสตชนควรกำหนดเป้าหมายในชีวิต

เราจำเป็นจะต้องมีเป้าหมาย เพราะเป้าหมายให้ความหวังทำให้เราเคลื่อนต่อไปด้วยความอดทน

โยบกล่าวว่า “ข้าเอากำลังจากไหนหนอจึงยังมีความหวังอยู่?   ข้ามีความคาดหมายอะไรหนอถึงทนอยู่ได้?” (โยบ 6:11 อมธ.)   คริสตชนจำเป็นจะต้องมีเป้าหมาย   เพื่อที่จะทำให้เรายังก้าวต่อไปไม่หยุด

เป้าหมายที่ว่านี้ไม่จำเป็นจะต้องเป็นเป้าหมายที่ใหญ่โตอะไร เช่น เมื่อเราเข้ารับการผ่าตัดจากแพทย์  เป้าหมายสูงสุด เราต้องการกลับมามีสุขภาพแข็งแรงอีกครั้งหนึ่ง  เป้าหมายย่อยแรกคือ เราคาดว่าเราสามารถจะสามารถลุกขึ้นนั่งบนเตียงได้   จากนั้น เราสามารถจะยืนบนพื้นข้างเตียงได้  หลังจากนั้นเรามีเป้าหมายย่อยต่อไปว่าเราสามารถเดินรอบ ๆ เตียง   แล้วค่อย ๆ เดินไปยังทางเดินในหอพักผู้ป่วยได้

เป้าหมายที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นเป้าหมายเล็ก ๆ  ที่มีความต่อเนื่องกัน  เป็นกระบวนการพัฒนาในชีวิตของเรา   ชีวิตเคลื่อนจากเป้าหมายเล็กหนึ่งไปสู่อีกเป้าหมายหนึ่งอย่างเชื่อมโยง   แต่ขอเน้นว่า  ทุกเป้าหมายเล็ก ๆเหล่านี้มีความสำคัญทุกเป้าหมาย

การที่เราจะก้าวจากจุดที่เราเป็นอยู่ไปสู่เป้าหมายที่กำหนดไม่สามารถทำแบบก้าวกระโดดเพียงก้าวใหญ่ ๆ ก้าวเดียว   แต่ต้องค่อย ๆ ก้าวไปทีละก้าว   อย่างที่สุภาษิตจีนกล่าวว่า “ร้อยลี้เริ่มต้นที่ก้าวแรก”  และขออนุญาตต่อเติมว่า “แล้วก้าวต่อไปทีละก้าวอย่างตั้งใจและมั่นคง”   เป้าหมายที่สำคัญไม่ได้วัดกันที่ว่า เป้าหมายใหญ่โตแค่ไหน หรือ สวยงามเพียงใด   แต่เป้าหมายที่ดีเป็นเป้าหมายที่สามารถเห็นย่างก้าวเล็ก ๆ หลาย ๆ ก้าว ที่เคลื่อนไปอย่างต่อเนื่อง   เป้าหมายเช่นนี้จะให้กำลังใจแก่เราขับเคลื่อนไปแม้จะก้าวทีละก้าว  แต่มีพลังก้าวต่อไปอย่างต่อเนื่อง

เราจำเป็นในการกำหนดเป้าหมายเพราะเป้าหมายจะช่วยเสริมสร้างอุปนิสัยและบุคลิกภาพของเรา

ผลที่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้นในชีวิตของเราไม่ใช่ผลสำเร็จที่เราสามารถสัมผัสจับต้องได้ภายนอก   แต่ส่วนสำคัญที่สุดในชีวิตของเราคือสิ่งที่เกิดขึ้นภายในชีวิตของเราในขณะที่เราก้าวเดินสู่เป้าหมายไปทีละก้าวทีละเป้าหมาย

พระเจ้าสนพระทัยในการเสริมสร้างอุปนิสัย และ บุคลิกภาพ ตัวตนที่แท้จริงของเราภายในมากกว่าผลสำเร็จที่เห็นภายนอกจากการทำงาน  และพระเจ้าใส่ใจเสริมสร้างชีวิตภายในของเราเพราะ  สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ยั่งยืน นิรันดร์

ดังที่เปาโลกล่าวในฟิลิปปี 3:12 ที่ว่า  “...ดังนั้นข้าพเจ้าจึงยังคงมุ่งมั่นไปสู่หลักชัย...”  เปาโลใช้พลังชีวิต ความมานะพยายาม และมีจุดประสงค์ที่จะไปให้ถึงเป้าหมายที่กำหนดไว้   และเมื่อเรากำลังมุ่งก้าวไปสู่เป้าหมาย  พระเจ้าก็เสริมสร้างเราภายในให้มีอุปนิสัยและบุคลิกภาพของเราให้เป็นเหมือนพระคริสต์มากยิ่งขึ้น  และสิ่งนี้เองที่เป็นตัวผลักดันให้พฤติกรรมท่าทีในชีวิตประจำวันของเราสะท้อนชีวิตเยี่ยงพระคริสต์มาสู่ภาพลักษณ์ภายนอกที่ผู้คนสามารถเห็นและสัมผัสได้

เราจำเป็นต้องกำหนดเป้าหมาย เพราะเป้าหมายที่ดีจะทำให้เกิดผลตอบแทน

สุภาษิต 11:27 กล่าวไว้ว่า  “คนที่​แสวง​หา​ความ​ดี ก็​เสาะ​หา​ความ​โปรดปราน...” (มตฐ.) เมื่อเราใช้ชีวิตของเรามุ่งไปสู่เป้าหมายที่ดี   ก็จะนำเกียรติ การนับถือ และเสริมสร้างมรดกที่สร้างสรรค์แก่สังคมโลก

แต่ผลตอบแทนที่แท้จริงจากการที่กำหนดเป้าหมายที่ดีนั้นนำไปสู่ความยั่งยืนนิรันดร์   พระคัมภีร์กล่าวไว้ใน 1โครินธ์ 9:25-26 ว่า “ผู้เข้าแข่งขันทุกคนผ่านการฝึกซ้อมอย่างเข้มงวด เขาทำอย่างนั้นเพื่อมงกุฎอันไม่ยืนยง ส่วนเราทำเพื่อมงกุฎอันยืนยงเป็นนิตย์  เหตุฉะนั้นข้าพเจ้าจึงไม่ได้วิ่งอย่างไม่มีจุดหมาย ข้าพเจ้าไม่ได้ต่อสู้เหมือนคนชกลม” (อมธ.)    

เรายอมรับเลยว่า เปาโลเป็นผู้ที่มีเป้าหมายในการขับเคลื่อนในชีวิตประจำวัน   และคริสตชนทุกคนก็ควรเป็นเช่นเปาโล   เพื่อเราจะมุ่งไปสู่ชัยชนะ  เพื่อรับรางวัลที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมเพื่อเราในแผ่นดินของพระองค์

“ข้าพเจ้ายังไปไม่ถึงหลักชัย  และข้าพเจ้าไม่ได้เป็นคนที่ดีพร้อม  
แต่พระคริสต์ทรงฉวยข้าพเจ้าไว้  
ดังนั้นข้าพเจ้าจึงยังคงมุ่งมั่นไปสู่หลักชัยเพื่อรับรางวัลที่ได้รับการทรงเรียกจากเบื้องบน  
ซึ่งเป็นรางวัลที่พระเจ้าโปรดประทานผ่านทางพระเยซูคริสต์  
พวกเราทุกคนที่เป็นผู้ใหญ่แล้วควรมีทัศนะเช่นนี้” (ฟิลิปปี 3:12, 14-15 สมช.)

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
Prasit.emmaus@gmail.com;  081 289 4499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น