22 มีนาคม 2561

การพลิกฟื้นคืนดี ขั้นที่สอง: เริ่มที่ตัวเรา


หลักการพระวจนะของพระเจ้า ในการพลิกฟื้นคืนดีความสัมพันธ์ที่ฉีกขาดลงคือ เราต้องเริ่มก่อน!

ไม่ว่าเราจะเป็นคนทำผิดหรือไม่   พระเจ้าประสงค์ให้เราเป็นคนที่เริ่มก้าวแรกของการพลิกฟื้นคืนดี   อย่ารอให้อีกฝ่ายหนึ่งเป็นคนเริ่มต้นคืนดี   ให้เราเป็นคนเข้าไปหาคนนั้นก่อน

การพลิกฟื้นคืนดีความสัมพันธ์ที่แตกหักมีความสำคัญมาก  สำหรับพระคริสต์แล้วสำคัญยิ่งกว่าการที่เราจะประกอบศาสนพิธีที่สำคัญ ๆ ในพระวิหารของพระเจ้า เช่น การถวายเครื่องบูชาแด่พระองค์เสียอีก   พระคริสต์บอกกับเราตรงไปตรงมาว่า  “เพราะฉะนั้น ถ้าท่านนำเครื่องบูชามาถึงแท่นบูชาแล้ว และระลึกขึ้นได้ว่า พี่น้องมีเหตุขัดเคืองข้อหนึ่งข้อใดกับท่าน  จงวางเครื่องบูชาไว้ที่หน้าแท่นบูชา และกลับไปคืนดีกับพี่น้องผู้นั้นเสียก่อน แล้วจึงค่อยมาถวายเครื่องบูชาของท่าน” (มัทธิว 5:23-24 มตฐ.)

เมื่อความสัมพันธ์ในชีวิตประจำวันของเราเกิดความขัดแย้งแตกร้าว   ในฐานะสาวกพระคริสต์เราจะหาทางออกเพื่อพลิกฟื้นความสัมพันธ์ให้คืนดีมีสันติสุขใหม่เร็วที่สุด   อย่าผัดวันประกันพรุ่ง  อย่าแก้ตัวหรือบอกกับตนเองว่า “แล้วเราจะค่อยหาเวลาที่เหมาะสมที่จะพูดกันในเรื่องนี้”   หาเวลาที่ไปพบกันหน้าต่อหน้าเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้   การรีรอหรือทิ้งไว้รังแต่จะสร้างความขุ่นเคืองไม่พอใจเพิ่มมากยิ่งขึ้น   อีกทั้งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง

ในความขัดแย้ง “เวลา” ไม่ได้ช่วยเยียวยาสถานการณ์ให้ดีขึ้นแต่อย่างไร  กลับเพิ่มแต่ความเจ็บปวด และ เจ็บช้ำน้ำใจหรือ ทรมานใจอย่างไม่จำเป็นและเกินจริงได้

การที่เรารีบลงมือพลิกฟื้นคืนดียังลดผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับจิตวิญญาณของเราด้วย  พระวจนะของพระเจ้ากล่าวว่า การไม่แก้ไขความขัดแย้งที่เกิดขึ้น   สิ่งนั้นจะกลายเป็นอุปสรรคขวางกั้นคำอธิษฐานของเราที่ไม่ได้คำตอบจากพระเจ้าด้วย  อีกทั้งทำให้ชีวิตของเราไม่เป็นสุข   โยบเตือนให้เราตระหนักว่า  “คนโง่ตายเพราะโทสะจริต  ความอิจฉาริษยาเข่นฆ่าคนเขลา” (โยบ 5:2 อมธ.)  และ “...ความเกรี้ยวกราดทำร้ายตนเอง” (18:4 สมช.)

ความสำเร็จของการพลิกฟื้นคืนดีสู่สันตินั้นขึ้นอยู่กับที่เราเลือกเวลาและสถานที่ที่เหมาะสมในการพบปะสร้างความสัมพันธ์คืนดีขึ้นใหม่  อย่าไปพบเมื่อท่านกำลังหมดแรงเหนื่อยล้า  ต้องไม่เร่งรีบ  หรือ เกิดการรบกวน  เวลาที่ดีที่สุดคือเวลาที่ทั้งสองฝ่ายมีความพร้อมในระดับหนึ่ง


ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น