07 มีนาคม 2561

ใช้เทคโนโลยีทันสมัยเพื่อแผ่นดินของพระเจ้าอย่างไร?


คงไม่มีใครจะคัดค้านว่า   เทคโนโลยีการสื่อสารสังคมได้ขยายแผ่อิทธิพลครอบคลุมพื้นที่ชีวิต สังคม อย่างกว้างไกลและมีพลังครอบงำอย่างอยู่หมัด   ไม่ว่าจะเป็นผู้คนในระดับฐานะเศรษฐกิจ อาชีพ หรือชนชั้น  หรือวัยไหนก็ตาม   หรือแม้แต่จะมีความเชื่อในศาสนาใดก็ตาม   เรียกได้ว่าไม่มีขอบเขตใดที่จะมาขวางกั้นอิทธิพลของเทคโนโลยีสื่อสังคมเหล่านี้ได้จริงจัง

คำถามสำหรับคริสตชน  เราคงไม่มาเสียเวลาถามว่า คริสตจักรควรจะใช้เทคโนโลยีสื่อสังคมสมัยใหม่นี้หรือไม่   แต่เราจำเป็นจะต้องแสวงหาหลักเกณฑ์และหลักการของเราว่า   เราจะใช้เครื่องมือสื่อสังคมสมัยใหม่นี้เพื่อก่อเกิดประโยชน์สร้างสรรค์แก่ชีวิตและสังคมโลกอย่างไรมากกว่า   และทำอย่างไรที่เราจะไม่ตกเป็นเหยื่อของคนที่ใช้เทคโนโลยีสื่อสารสมัยใหม่ที่จะมาครอบงำความคิด มุมมอง และ การตัดสินใจในการดำเนินชีวิตคริสตชนของเรา   ตรงกันข้าม เราจะใช้เครื่องมือสื่อสารทันสมัยนี้เพื่อพันธกิจแห่งแผ่นดินของพระเจ้า   โดยไม่เผลอตกลงในกับดักอุบายของคนใช้เครื่องมือสื่อสารสมัยนี้เพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ  การเมือง  สังคม พรรคพวก  และวัฒนธรรมทันสมัยอย่างไร?

1.   อย่าให้การเข้าถึงเครื่องมือสื่อสารสมัยใหม่ทำให้เราต้องออกห่างความสัมพันธ์คนรอบข้าง

จากหลักฐานเชิงประจักษ์ที่เราพบทุกเมื่อเชื่อวันในปัจจุบันนี้   ไม่ว่าในบ้าน  ในคริสตจักร  ในรถโดยสาร ในเครื่องบิน  ในสนามบิน  เราพบว่าต่างคนต่างสนใจ “หน้าจอ” ของตนเอง   แม้แต่คนที่รู้จักกัน เดินทางด้วยกันก็ไม่มีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน   แต่กลับใส่ใจ สนใจหน้าจอของตน   และนี่รวมถึงโต๊ะอาหารที่คนในครอบครัวรับประทานด้วยกัน?

ในฐานะคริสตชน  ข้อมูลข่าวสารที่จำเป็นเป็นเรื่องที่สำคัญ   แต่สำคัญกว่านั้นคือความสัมพันธ์ ความสนใจ และ การใส่ใจหน้าต่อหน้าที่มีต่อกันสำคัญกว่า   แต่ทุกวันนี้ “หน้าจอ” มาแย่งเวลาชีวิตของเราจากความสัมพันธ์ที่เราควรจะมีต่อกันแบบหน้าต่อหน้า

2.   ใช้เทคโนโลยีสื่อสารสมัยใหม่เพื่อสิ่งที่มีคุณค่า และ ความหมายที่แท้จริง บนรากฐานความเชื่อของคริสตชน

เมื่อก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 4  ผู้ปกครองจักรวรรดิโรมันได้ตัดถนนให้เชื่อมต่อกันให้กว้างไกลที่สุดทั่วจักรวรรดิอันไพศาลของตน   ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ในการแผ่กว้างอำนาจทางการทหาร  การปกครอง  และเศรษฐกิจของจักรวรรดิ   ซึ่งการกระทำเช่นนี้ต้องถือว่าเป็นนวัตกรรมที่เยี่ยมยอดและยิ่งใหญ่ในสมัยนั้นเลยทีเดียว   แต่ขอตั้งข้อสังเกตว่า   เบื้องหลังของความทันสมัยในเวลานั้นมีกลุ่มอำนาจที่ทำเพื่อจุดประสงค์ของตนเอง   อย่างที่กล่าวแล้วว่า  เพื่อการขยายและเคลื่อนกำลังกองทัพอันเกรียงไกรของโรมมันไปให้ทั่วจักรวรรดิ   พยายามที่จะควบคุมปกครองให้ทุกประเทศอยู่ในอำนาจของตน   เพื่อส่งเสริมทางการค้า   และในเวลาเดียวกันเพื่อจะสามารถเรียกเก็บภาษีจากประเทศต่าง ๆ ในจักรวรรดิของตนด้วย

ซึ่งจุดประสงค์ทั้งหมดทั้งสิ้นดังกล่าว  ในทางหนึ่งเป็นการสร้างอำนาจแก่คนเองและกดขี่คนอื่น   เป็นโอกาสของการสร้างระบบการเอารัดเอาเปรียบคนธรรมดาและคนยากไร้  ดูเหมือนเป็นความทันสมัยในเวลานั้น   แต่ในอีกด้านหนึ่งกลับเป็นการทำร้ายทำลายคุณค่าและความหมายชีวิตของคนอื่น

ขอตั้งข้อสังเกตว่า   เมื่อเกิดคริสตจักรสมัยเริ่มแรก   อัครทูต  คริสตชนผู้เชื่อ  ต่างได้ใช้ถนนหนทางของจักรวรรดิในการเดินทางเพื่อประกาศเผยแพร่พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์   และเสริมสร้างคริสตจักรที่เกิดขึ้นในดินแดนต่าง ๆ ในเวลานั้นให้มีความเชื่อที่มั่นคง   และมีความกล้าหาญในการทำพันธกิจของพระเยซูคริสต์แก่ผู้คนในสังคมยุคนั้น   และเพราะมีถนนหนทางที่เชื่อมต่อโยงใยถึงกันเช่นนี้เองที่ทำให้แผ่นดินของพระเจ้าแผ่ขยายอย่างรวดเร็ว กว้างไกล และเข้มแข็ง

คริสตชนปัจจุบันต้องกลับมาถามตนเองว่า   ตนจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเทคโนโลยีสื่อสารทันสมัยในปัจจุบันอย่างไร   เพื่อจะใช้ประโยชน์เพื่อสานต่อพระราชกิจแห่งแผ่นดินของพระเยซูคริสต์ได้ตามพระประสงค์   โดยไม่ตกหลุมพรางกับดัก หรือ เป็นเหยื่อในแผนการของคนที่สร้างและขายเทคโนโลยีสื่อทันสมัยนี้

3.   หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องมือสื่อสารทันสมัยเพื่อประโยชน์ของตนเอง/พรรคพวก/คริสตจักร

แนวโน้มสูงมากที่มีการใช้เครื่องมือเทคโนโลยีสื่อความทันสมัยยุคนี้   ที่นำไปสู่การสร้างการแข่งขัน  ขัดแย้ง แปลกแยก และ แตกแยกกันในสังคม และ ในคริสตจักรด้วย  ปัจจุบันเราสามารถพบได้ว่า หลายคนใช้เครื่องมือสื่อสารทันสมัยให้ออกความคิดเห็น เพื่อนำไปสู่การโจมตี กล่าวร้าย ยุแหย่ให้เกิดการเลือกข้าง   ที่เกิดขึ้นเช่นนี้เพราะคนกลุ่มนี้ใช้สื่อทันสมัยเพื่อประโยชน์แห่งตน หรือ เพื่อพรรคพวก  ซึ่งจะเห็นชัดในอีกไม่นานข้างหน้าที่จะออกมาในนาม “การหาเสียงเพื่อการเลือกตั้ง”?   คริสตชนจะต้องหลีกเลี่ยงไม่ตกหลุมพรางของคนกลุ่มนี้

อีกประการหนึ่ง   การใช้เทคโนโลยีการสื่อสารทันสมัยเพื่อประโยชน์ของ “องค์กรคริสตจักร” และ (ผู้นำของคริสตจักรนั้น ๆ)   ที่ประกาศศักดาความเก่งกล้าสามารถของผู้นำคริสตจักร   สร้างความนิยมชมชื่นคนติดตามตนมากขึ้นแทนการติดตามและเป็นสาวกที่แท้จริงของพระคริสต์   หรือ  การสร้างชื่อเสียงแก่คริสตจักรด้วยกิจกรรม และ ความสำเร็จที่ตนทำ   แล้ววัดกันว่าจะมีผู้คน และ คริสตจักรที่มานิยมชมชื่นคริสตจักรของตนเองสักแค่ไหน   เปลี่ยนมาใช้วิธีการ และ กลยุทธแบบที่ตนเองนำเสนอมากน้อยแค่ใหน

แต่ในฐานะคริสตชน   เราต้องกลับมาอธิษฐานขอการชี้นำจากพระคริสต์ว่า   เราจะใช้เครื่องมือสื่อสารทันสมัยที่มีอยู่อย่างไรที่เป็นการสานต่อพระราชกิจแห่งแผ่นดินของพระเจ้า  ตามพระประสงค์ของพระองค์   เราจะใช้เทคโนโลยีสื่อทันสมัยที่จะเป็นสะพานนำคริสตชนและพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์เข้าถึงชุมชน คนยากไร้ คนถูกทอดทิ้ง หรือ คนถูกเอารัดเอาเปรียบอย่างไร?  เราจะใช้เครื่องมือที่พระเจ้าประทานแก่เราในการสร้างสันติแห่งแผ่นดินของพระเจ้าได้อย่างไร?

เมื่อสังคมโลกมีเทคโนโลยีการสื่อสารที่ทันสมัย   คริสตชนจะรับผิดชอบที่จะใช้ของประทานเหล่านี้ตามพระประสงค์ของพระเจ้าอย่างไร?

ท่านคิดเห็นอย่างไร?   และมีข้อแนะนำ  แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันอย่างไรบ้างครับ?

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น