28 มีนาคม 2561

การพลิกฟื้นคืนดี ขั้นที่ห้า: แก้ปัญหา...ไม่ใช่กล่าวหาคนอื่น


หลักการพระคัมภีร์ในการพลิกฟื้นคืนดีความสัมพันธ์ใหม่คือ การแก้ที่ปัญหา  แต่มิใช่การโยนปัญหา หรือ ความผิดให้กับผู้อื่น  หรือการค้นหาว่าใครทำผิด   เราจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้เลยถ้าเรามัวแต่มาหาว่าใครทำผิด ใครเป็นฝ่ายผิด   ดังนั้น การพลิกฟื้นคืนดี จึงมิใช่การโต้เถียงเอาเป็นเอาตายเพื่อพิสูจน์ หรือ หาว่าใครทำผิดกันแน่  พระคัมภีร์ให้หลักการแก่เราว่า เราจะรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร  สุภาษิตแนะนำเราว่า  “คำตอบนุ่มนวลช่วยละลายความโกรธเกรี้ยวให้หายไป   แต่คำกักขฬะ เผ็ดร้อน ยั่วโทสะ” (สุภาษิต 15:1 สมช.)

เราจะไม่สามารถพูดกันรู้เรื่องจนสามารถพลิกฟื้นคืนดีความสัมพันธ์ของเราขึ้นใหม่ได้เลย   ถ้าเราไม่ใช้คำพูดที่มีปัญญา  คำพูดที่นุ่มนวลย่อมดีกว่าคำพูดที่ถากถาง เยาะเย้ย หรือ กล่าวโทษ

ท่าทีในการพูดและการใช้คำพูดมีความสำคัญมากต่อการแก้ปัญหา   ถ้าเราพูดด้วยท่าทีความไม่พอใจ  อีกฝ่ายหนึ่งก็ต้องปกป้องตนเอง   พระวจนะของพระเจ้าบอกแก่เราว่า  “คน​มี​ปัญ​ญา​เรียก​ได้​ว่า​เป็น​คน​มี​ความ​เข้า​ใจ  และ​วา​จา​อ่อน​หวาน​เพิ่ม​อำ​นาจ​การ​สั่ง​สอน” (สุภาษิต 16:21 อมธ.)

การพูดถากถาง  ดุด่า ไม่ช่วยในการแก้ปัญหา   เราจะไม่สามารถโน้มน้าวจิตใจของคนอื่นได้เลย   ถ้าคำพูดของเราทำให้คนอื่นต้องอับอาย เจ็บ หรือเสียหาย

ในช่วงสมัยสงครามเย็น   คู่สงครามทั้งสองฝ่ายต่างเห็นพ้องด้วยกันว่า  มีอาวุธสงครามบางอย่างนั้นทำลายล้างอย่างสูงและเห็นว่าไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้อาวุธนั้น   เพื่อประโยชน์ร่วมกัน จึงเห็นว่าให้ทำลายคลังแสงอาวุธนิวเคลียร์  และ มีการประมาณการใช้อาวุธเหล่านั้น

เปาโลกล่าวสรุปไว้ว่า  “อย่า​ให้​คำ​เลว​ร้าย​ออก​จาก​ปาก​ของ​ท่าน​ทั้ง​หลาย แต่​จง​กล่าว​คำ​ดี ๆ ที่​เสริม​สร้าง​และ​ที่​เหมาะ​กับ​ความ​ต้อง​การ เพื่อ​จะ​ได้​เป็น​คุณ​แก่​คน​ที่​ได้​ยิน (เอเฟซัส 4:29 มตฐ.)

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น