บ่อยครั้ง เมื่อเรามี
“ความฝัน” ที่ยิ่งใหญ่ และ มีแรงบันดาลใจที่ทรงพลัง แต่หลายครั้งมิใช่หรือ
ที่ความฝันก็ยังคงเป็นแค่เพียง “ความใฝ่ฝัน”
ความฝันเป็นเหมือนฝุ่นที่คลุ้งเกาะคลุมไปทั่วห้องทำงานของเรา?
ในประสบการณ์ที่ผ่านมาของผม
การวางเป้าหมายให้กว้าง ให้ใหญ่ และ ให้ไกลนั้น พบว่า “หินก้อนใหญ่”
ที่วางขวางบนเส้นทางสู่ “ความฝันอันยิ่งใหญ่” คือคำว่า “เป็นไปไม่ได้”
หลายคนติดแหงกอยู่กับการบอกตนเองว่า “ฉันทำสิ่งนี้ไม่ได้” “สิ่งนี้มันใหญ่เกินแบก ยากเกินแก้
แย่เกินกว่าจะเยียวยา” “จ้างก็ไม่มีใครจะทำสิ่งใหญ่
ๆ นี้ได้!”
“เป็นไปไม่ได้เป็น
“โกหกคำโต” ที่เราท่านพึงระวัง
ถ้าทุกคนในโลกนี้คิดว่า
“เป็นไปไม่ได้” ขณะนี้เราก็จะไม่มีสิ่งประดิษฐ์ใหม่
ๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง การค้นพบสิ่งใหม่ ไม่มีวิธีการใหม่ ๆ ไม่มีนวัตกรรม
ไม่มีการฝ่าฝันอุปสรรคจนเจริญก้าวหน้าในหลายด้านเฉกเช่นในปัจจุบันนี้
ตราบใดที่เรายังยึดรั้งตนเองให้จมจ่อมอยู่ในโคลนตมแห่งความสงสัย กับดักของการขีดเส้นจำกัดศักยภาพของตนเอง
เราก็จะไม่สามารถที่ดึงและดันตนเองให้เคลื่อนทะลุไปสู่ “ความใฝ่ฝันที่ยิ่งใหญ่ได้”
การที่จะให้ “ความฝัน”
ก้าวไกล กลายเป็นจริงได้นั้น
มิได้อยู่ที่การคิดฝันเท่านั้น
แต่ต้องเป็นเรื่องของการลงมือดำเนินการด้วย เช่น
เมื่อเกิดความคิด เมื่อมีจินตนาการ
ให้เอากระดาษสักแผ่นหนึ่งมาแล้วเขียนความคิด จินตนาการที่เกิดขึ้นลงบนกระดาษ แล้วคิดและเขียนรายละเอียดลงในแต่ละเรื่อง
แต่ละประเด็น หรือ แต่ละจินตนาการลงไปบนกระดาษแผ่นเดียวกันนั้น แต่ก่อนจะไปไกลกว่านั้น เอาอย่างงี้ได้ไหมครับ ช่วยแยกแยะ ความคิด หรือ
ประเด็นที่ใฝ่ฝันออกเป็นรายละเอียด 3 รายการใหญ่ ๆ ดังนี้ก่อน
1) มีรายละเอียดอะไรบ้างในสิ่งที่ฝันที่จินตนาการที่ท่าน
สามารถทำได้
2) มีรายละเอียดอะไรบ้างในสิ่งที่ฝันที่จินตนาการที่ท่าน
อาจจะ สามารถทำได้
3) มีรายละเอียดอะไรบ้างในสิ่งที่ฝันที่จินตนาการที่ท่าน
ทำไม่ได้ และ เป็นไปไม่ได้ สำหรับท่าน
จากนั้น ให้ท่านพิจารณาในรายละเอียดข้อที่ 1)
ที่ท่านจะมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำจนบรรลุให้สำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
ในสิ่งที่ท่านรู้และมั่นใจแล้วว่าท่านสามารถจัดการประเด็นต่าง ๆ ในข้อนี้ได้
แล้วให้ทำเครื่องหมายในแต่ละประเด็นเมื่อท่านทำจนบรรลุความสำเร็จ เมื่อท่านค่อย ๆ ทำไปในรายละเอียดให้สำเร็จทีละประเด็นย่อยท่านก็จะสามารถทำเครื่องหมายที่ท่านทำสำเร็จในทุกประเด็นที่อยู่ในข้อที่
1) นี้
จากนั้นให้ท่านก้าวขึ้นไปสู่ข้อที่ 2)
ที่เป็นรายละเอียดหรือประเด็นต่าง ๆ ในส่วนที่ท่านบอกว่า อาจจะสามารถ
ทำให้บรรลุสำเร็จได้
เมื่อท่านก้าวเข้ารายละเอียดในข้อที่
2)
ที่ท่านยังไม่มั่นใจนักว่าตนเองจะสามารถทำสำเร็จได้นั้น ก็ให้ทำเช่นเดียวกับที่ทำในข้อที่ 1) คือเรียงรายละเอียดเป็นประเด็นย่อย
แล้วค่อย ๆ ดำเนินการไปทีละหัวข้อย่อย
ลงมือทดลองทำในส่วนที่จะลงมือทำได้
แล้วดูว่าเกิดผลเช่นไร
แล้ววิเคราะห์ว่า ทำไมถึงเกิดผลเช่นนั้น(เพราะอะไร เพราะทำอย่างไร) แล้วมีอะไรที่น่าจะทำให้ดีกว่านี้เพื่อให้บางรายละเอียดเกิดผลตามที่ตั้งใจไว้ จะต้องเพิ่มรายละเอียดในการทำอะไรบ้าง แล้วลงมือทำใหม่ แล้วดูผลที่ตามมา
กระบวนการที่ทำแล้วคิด
คิดแล้วทำ ทำให้เราได้พบทางพัฒนาในการขับเคลื่อนในแต่ละประเด็นย่อย จนสามารถขับเคลื่อนสำเร็จได้ มิใช่ขับเคลื่อนได้เท่านั้นแต่ยังเรียนรู้ว่า
จะทำอย่างไรถึงจะสำเร็จได้
และนี่คือองค์ความรู้ที่เราสามารถนำไปใช้ในการทำงานอื่น ๆ ในชีวิตประจำวันของเรา และในที่สุด ท่านจะเห็นความจริงว่า
สิ่งที่ท่านเห็นว่าอาจไม่สามารถทำได้
กลายเป็นสิ่งที่ท่านสามารถทำได้อย่างไม่เคยคาดคิดมาก่อน
เมื่อท่านก้าวถึงความสำเร็จในขั้นตอนข้อที่
2)
แน่นอนครับท่านก็ไม่กลัวแล้วที่จะก้าวขึ้นไปในขั้นตอนข้อที่ 3) รายละเอียดในประเด็นที่ท่านมองว่า ท่านไม่สามารถทำได้ หรือ เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
กระบวนการในการดำเนินการในข้อนี้ก็ไม่ยากเย็นซับซ้อนไปกว่า ข้อที่ 1) และ 2)
คือ เขียนประเด็นย่อยในข้อนี้ว่ามีอะไรบ้าง แล้วค่อยพิจารณาไปทีละข้อ ทำไมเราถึงคิดว่าทำไม่ได้? เพราะอะไรเราถึงคิดเช่นนั้น? ถ้าเราจะลองทำในหัวข้อย่อยนี้ดู เราจะทดลองทำอย่างไร? แล้วลงมือทำ
และดูว่าเกิดผลอย่างไร?
ถามต่อไปว่าทำไมถึงเกิดผลเช่นนั้น?
และถ้าจะทำให้เกิดผลที่ดีในด้านนี้ เราจะต้องทำอย่างไร? แล้วลงมือทดลองทำใหม่ นี่เป็นกระบวนการทำแล้วคิด คิดแล้วทำใหม่
เป็นกระบวนการแสวงหาการเรียนรู้ผ่านการกระทำด้วยมือของเราเอง
และเราได้รับประสบการณ์เรื่องนั้นแบบเป็นประสบการณ์ตรง หรือ
ประสบการณ์มือหนึ่งเลยทีเดียว
ในที่นี้อยากบอกและให้กำลังใจว่า
กระบวนการนี้ช้าหน่อยแต่สำเร็จแน่!
และนี่คือกระบวนการ
“แทะทีละนิดเพื่อพิชิตบ้านใหญ่ทั้งหลัง”
ใช่ครับปรัชญาชีวิตของปลวกครับ! ใครจะไปคิดได้ว่า ปลวก ตัวกระจิริดจะไปกินบ้านใหญ่โตทั้งหลังได้อย่างไรกัน?
และนี่คือกระบวนการการคิดและการทำงานชีวิตให้บรรลุเป้าหมายใหญ่และกว้างไกลตามที่ต้องการ ก้าวทีละก้าว
กินข้าวทีละคำ
คุณค่าที่แท้จริงในที่นี้คือ คุณค่าที่เราสามารถก้าวออกไปทีละก้าวครับ แต่ไม่ได้อยู่ที่เราไปได้หมื่นลี้ แสนกิโล
ด้วย
“ปรัชญาชีวิตการทำงานของปลวก” นี้เองที่โลกเราได้ก้าวหน้า คิดค้นเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ
ประดิษฐ์สิ่งดีมีประโยชน์มากมายต่อชีวิตผู้คนบนโลกนี้ เกิดนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง และยังจะก้าวต่อไปไม่หยุดยั้ง และจุดเริ่มต้นของสิ่งนี้คือ คนมีความคิด
คนมีจินตนาการ คนมีความใฝ่ฝัน ฝันใหญ่ ฝันไกล และสำคัญพอ ๆ กันคือ
ฝันแล้วต้องกล้าที่จะลงมือทำ
กล้าที่จะทำแม้มันไม่เกิดผลอย่างที่คิด
และสิ่งที่สี่ที่สำคัญพอกันคือ
ถอดบทเรียนรู้จากประสบการณ์ที่ได้รับจากการทำ ย่อย และ ซึมซับประสบการณ์ที่ได้รับเข้าไปให้ก่อตัวในชีวิตจิตวิญญาณของเราเป็น
“ปัญญา” ที่จะใช้ในชีวิตก้าวต่อไป
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น