ปัจจุบันไม่ว่าในสังคมไหน
เราจะพบการเรียกร้องให้คนเรากระทำในสิ่งที่ถูกต้อง กดดันให้มีการกระทำความเป็นธรรมมากมาย
แต่ทั้งหมดทั้งสิ้น
หรือ อย่างน้อยก็ส่วนใหญ่เป็นการเรียกร้อง “คนอื่น” ให้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง กดดันให้คนอื่นรับผิดชอบและกระทำในสิ่งที่เป็นความยุติธรรม
แล้วสังคมก็จะมองว่าคน
ๆ นั้นมีความกล้าหาญทางจริยธรรม
คนนั้นกล้าพูดความจริง
เขากล้าเสี่ยงมาเปิดโปงความผิดต่าง ๆ ของคนอื่น และ ที่เกิดขึ้นในสังคม
ยิ่งกว่านั้น หลายคนยังมองว่าคน ๆ นั้น “ยืนหยัด” บนความถูกต้องชอบธรรม เพราะดูซิ เขากล้ากระหน่ำซ้ำเติมอย่างไม่ยอมลดราวาศอก
ใครจะไปรู้ เขาอาจจะกลายเป็น “ฮีโร่”
ของเยาวชนคนมากมายก็ได้?
การกระทำแบบนี้กลายเป็น “ผู้กล้าในดวงใจ”
ของเยาวชนคนรุ่นใหม่อีกมากมายก็ได้ ...ใครจะไปรู้?
เมื่อใกล้เวลาสัปดาห์สุดท้ายในช่วงชีวิตของพระเยซูคริสต์ที่ปรากฏตัวในสังคมโลกนี้ ในสัปดาห์สุดท้าย พระองค์ก็เผชิญกับ
“การเรียกร้อง กดดัน ความถูกต้องเป็นธรรม” ด้วย? ให้เราระลึกถึงเหตุการณ์ และ
คำสอนของพระคริสต์ ให้เรามีเวลาที่จะสงบ
ใกล้ชิด ติดสนิทกับพระองค์
สะท้อนคิดถึงชีวิตการเป็นสาวกพระคริสต์ในชีวิตประจำวันของตน
วันนี้ให้เราย้อนระลึกถึงชีวิตการทำพันธกิจของพระคริสต์ในโลกนี้ พระองค์ทรงใช้ชีวิตที่เปิดเผย
และพระองค์ทรงสอนในสิ่งที่เป็นชีวิตประจำวันของเรา ลึกซึ้งแต่ไม่ลึกลับซับซ้อน คำสอนของพระองค์เป็นรูปธรรม และคำสอนของพระองค์ตอบโจทย์ชีวิตของประชาสามัญชนคนบาปทั่วไป
เมื่อพวกผู้นำศาสนา
พร้อมด้วยลิ่วล้อที่ยุแยงตะแคงรั่ว ที่จะทำให้พระเยซูตกลงในกับดักที่ตนวางไว้ เพื่อจะประนามทำลายความน่านับถือและการยอมรับนับถือของพระองค์ในหมู่ประชาชน พวกเขานำหญิงที่ถูกจับได้ขณะกำลังทำผิดประเวณี
แล้วเรียกร้องให้พระองค์ตัดสินหญิงคนนี้ตามบทบัญญัติ กดดันพระองค์ให้เป็นคนตัดสินคนอื่น
แต่ในความนิ่ง สงบ
และความเงียบของพระองค์
พระคริสต์บอกกับพวกเขาว่า “ถ้าใครไม่เคยทำความบาปผิดก็ให้คนนั้นเป็นคนแรกที่เอาหินขว้างหญิงคนนี้”
(ยอห์น 8:3-11)
ใช่ครับ...
ถ้าเราคิดจะทำให้คนอื่นเป็นคนที่ถูกต้องบริสุทธิ์ ไม่ใช่พร่ำสอน บังคับ กดดัน ให้คนอื่นเป็นคนที่ทำถูกต้อง
มีชีวิตที่บริสุทธิ์ ยุติธรรม
แต่พระคริสต์ให้เราเริ่มต้นที่จะ
“พิจารณาตนเอง” ก่อน
ในคำสอนของพระคริสต์ยังได้สอนเราว่า ถ้าเราคิดว่าจะช่วยเขี่ยผงออกจากตาของเพื่อนบ้าน ให้เรางัดเอาไม้ซุงทั้งท่อนที่ขวางการมองเห็นความจริงของเราออกไปเสียก่อน(มัทธิว
7:3-5)
นี่คือแนวทางปฏิบัติง่าย
ๆ สำหรับชีวิตสาวกพระคริสต์ในชีวิตประจำวันครับ
ถ้าเราคิดจะสร้างสาวกพระคริสต์ ให้เราเริ่มสร้างสาวกในชีวิตของตนเองก่อนครับ!
เพราะถ้าชีวิตประจำวันของเราเป็นชีวิตที่สำแดงการเป็นสาวกของพระคริสต์ที่แท้จริงแล้ว การสร้างสาวกก็สำเร็จไปเกินครึ่งแล้วครับ
ถ้าเราเป็นสาวกพระคริสต์ เราจะไม่เริ่มต้นด้วยการเรียกร้อง กดดัน
ให้คนอื่นทำในสิ่งที่ถูกต้อง หรือ กดดันให้คนอื่นต้องทำหน้าที่ กำจัด ชำระ
สังคมชุมชนให้ถูกต้อง แต่ให้เราเริ่มต้นที่จะ
ชำระ เปลี่ยนแปลงในตัวเราเองก่อนตามที่พระคริสต์สอนและที่เป็นตัวอย่างแก่เราจะดีไหม?
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น