23 กรกฎาคม 2561

ขั้นตอนของการหลุดหนี้แบบสาวกพระคริสต์

หนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ในสังคมยุคทุนและบริโภคนิยมในปัจจุบัน   ในฐานะสาวกของพระคริสต์เราจะมองและเข้าใจเรื่อง “หนี้” อย่างไร?   แล้วเราจะรับมือกับหนี้สินที่เรามีในชีวิตปัจจุบันอย่างไร?

เรื่องหนี้สินไม่เข้าใครออกใคร   ถ้าคริสตชนขาดความเข้าใจในเรื่องนี้แล้ว   โอกาสที่จะตกลงในหลุมพรางของการเป็นหนี้เกิดเป็นจริงได้ทุกขณะ   ปัจจุบันนี้มิใช่สมาชิกคริสตจักรเท่านั้นที่เป็นหนี้   ศิษยาภิบาลหลายต่อหลายท่านก็ตกอยู่ในหลุมพรางของหนี้สินเช่นกัน

คำถามคือเราจะรับมือจัดการกับหนี้สินในชีวิตของเราอย่างไร  ในฐานะที่เราเป็นสาวกของพระคริสต์

1.   มุ่งมั่นตั้งใจที่จะหลุดรอดออกจากหนี้เดี๋ยวนี้

ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่ยากยิ่งที่สุด   แต่เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด   เราจะต้องมีความมุ่งมั่นตั้งใจจริงในการปลดหนี้   และนี่เป็นงานอภิบาลหนึ่งที่ศิษยาภิบาลจะต้องนำสมาชิกของตนให้หลุดรอดออกจากการเป็นหนี้ในชีวิตประจำวัน   ซึ่งเป็นการอภิบาลที่สำคัญมากด้วย

ไม่มีใครที่จะหลุดรอดออกจากหนี้โดยไม่รับผิดชอบ หรือ ชำระหนี้ที่มีอยู่  และการปล่อยให้หนี้อยู่อย่างนั้นก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา  รังแต่จะเพิ่มพูนหนี้มากขึ้นเพราะดอกเบี้ย   แต่การหลุดรอดออกจากหนี้ต้องเริ่มที่เราตั้งใจจะให้ตนหลุดรอดออกจากหนี้ที่มีอยู่  และไม่ก่อหนี้ใหม่   หลายคนจะบอกว่า “พูดง่ายแต่ทำยาก   แต่นี่คือวินัยชีวิตที่คริสตชนแต่ละคนจะต้องมี   และเป็นสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสมที่คริสตชนทุกคนควรกระทำ

2.   เริ่มต้นที่รับผิดชอบต่อพระเจ้า และ รับผิดชอบต่อตนเอง

ถ้าเราจะหลุดรอดออกจากหนี้ หรือ ไม่ก่อหนี้ให้เราเริ่มที่จะรับผิดชอบต่อพระเจ้าในด้านการเงิน   คือการถวายสิบลด   และรับผิดชอบด้านการเงินต่อตนเอง คือการออมเพื่อตนเอง 10% ของรายได้

แน่นอนว่าคนที่มีหนี้ติดตัวในขณะนี้จะไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอข้างต้น   เพราะเขาไม่เข้าใจว่า สิบลด และ การออมประจำจะช่วยให้เขาหลุดจากการเป็นหนี้ได้อย่างไร   แต่ถ้าเรารอจนกว่าเราชดใช้จ่ายหนี้ที่มีอยู่ให้เรียบร้อยก่อน   เราก็จะไม่มีการออมและไม่มีการถวายสิบลดเลย   เมื่อเราตกเป็นหนี้เราร้องขอพระเจ้าโปรดช่วยเรา   นั่นหมายความว่าเราต้องพึ่งพระเจ้า  เราจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติตามวิถีทางของพระเจ้า   ความจริงก็คือว่า ถ้าเราต้องการให้พระเจ้าทรงอวยพรในชีวิตด้านใดของเรา   เราต้องให้พระองค์เป็นหนึ่งเป็นเอกในชีวิตด้านนั้น ๆ ของเรา

3.   เขียนรายการสิ่งที่ท่านเป็นเจ้าของ รายการรายจ่ายและหนี้ และรายการรายได้

เราจำเป็นที่จะต้องมีข้อมูลที่เป็นจริงและเป็นปัจจุบัน  ที่จะบ่งบอกส่วนสำคัญ 4 ประการคือ   ขณะนี้เราเป็นเจ้าของอะไรบ้าง   ในแต่ละเดือนเรามีรายจ่ายทั้งสิ้นอะไรบ้าง   แล้วแต่ละเดือนเรามีรายรับอะไรบ้าง   และสำคัญตอนนี้เรามีหนี้สินเท่าใด?   การที่เราจะสร้างบ้านสร้างครอบครัว  พระธรรมสุภาษิตสอนเราว่า  บ้านและครอบครัวของเรานั้นสร้างด้วยปัญญา   และสามารถตั้งยั่งยืนอยู่ได้เพราะความเข้าใจ  (สุภาษิต 24:3 อมธ. และ สมช.)

ด้วยวิธีการนี้จะบอกเราอย่างชัดเจนว่า   เราใช้จ่ายเงินไปในทางใดบ้าง  และแต่ละทางด้วยจำนวนเท่าใด?   เพื่อเราจะตอบตนเองอย่างชัดเจนได้ว่า “เงินของฉันมันไปไหนหมด?”   เพราะเราจะรู้ว่าเดือนนี้เรามีรายได้เท่าใด   เราจ่ายค่าอะไรไปบ้าง   รายรับกับรายจ่ายของเราสมดุลกันไหม?   ถ้าจะปรับลดรายจ่ายให้สมดุลกับรายได้  จะต้องปรับลดรายจ่ายในเรื่องใด?   และนี่คือข้อเท็จจริงที่เราจะควบคุมรายจ่ายประจำวันของเรา   หรือที่เราเรียกว่าการทำงบประมาณครัวเรือน หรือ บัญชีครัวเรือน

4.   มีอะไรที่เราไม่ได้ใช้ที่เราสามารถเอาไปขายได้

เราจำเป็นที่จะขจัดสิ่งของบางอย่างที่ไม่จำเป็นออกจากบ้านและชีวิตของเรา   เราสามารถที่จะเปลี่ยนสิ่งของที่เราไม่จำเป็นต้องใช้ให้เป็น “เงินสด” ในมือของเรา   ลองสำรวจดูว่าเรามีสิ่งของใดบ้างที่ไม่จำเป็นสำหรับเราแล้ว   แล้วขายสิ่งเหล่านั้นให้เป็นรายได้   แทนที่เราจะต้องเอาใจใส่และเสียค่าบำรุงรักษาสิ่งนั้น   เป็นภาระที่เราต้องรับผิดชอบโดยไม่เป็นประโยชน์อันใด   ส่วนมากจะเป็นของใช้ หรือ เครื่องต่าง ๆ ที่มีมากเกินความจำเป็น  หรือมันไม่จำเป็นสำหรับท่านต่อไป   ไม่ว่าเก้าอี้ โต๊ะ รถจักรยานยนต์  รถยนต์ และ ฯลฯ  นอกจากจะมีรายได้แล้วยังเป็นการลดรายจ่ายการบำรุงรักษาอีกด้วย

5.   วางแผนการชำระหนี้สิน

สุภาษิต 21:5  กล่าวว่า  “แผนงานของคนขยันนำไปสู่กำไรแน่นอน...” (อมธ.)   เราอาจจะจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากผู้ที่มีความรู้และประสบการณ์ในเรื่องการวางแผนการชำระหนี้   คริสตจักรในสภาคริสตจักรของเราน่าจะมีพันธกิจให้คำปรึกษาวางแผนให้สมาชิกหลุดหนี้?

ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นคริสตจักรที่ใหญ่ที่จะมีที่ปรึกษาในการวางแผนขจัดหนี้   แต่ให้เราหาคนในคริสตจักรที่มีใจรักคนอื่นในคริสตจักรและมีความรู้และประสบการณ์ในการวางแผนลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ แล้วมีแผนการขจัดหนี้   หรืออาจจะมีคนที่มีความสามารถดังกล่าวในคริสตจักรใกล้เคียงก็สามารถเชิญให้มาช่วยเรื่องนี้ในคริสตจักรของเราได้

6.   เลิก (ห้าม) สร้างหนี้ใหม่

การจัดการขจัดหนี้เป็นเรื่องกล้วย ๆ  เมื่อเทียบกับการไม่ไปสร้างหนี้ใหม่   บอกเลิกการใช้บัตรเครดิต   และไม่กู้หนี้ยืมสินรายการใหม่   การที่คนเราตกเป็นหนี้เพราะเขาใช้จ่ายในชีวิตที่มากกว่ารายรับที่เขาได้   ตัดสินใจวันนี้  เลิกใช้ “เงินล่วงหน้า”  เลิกใช้บัตรเครดิต  ไม่กู้ ไม่ผ่อน   นั่นหมายความว่าเราต้องพอใจในสิ่งที่เรามี   และนี่คือตัวปกป้องเราไม่ให้ตกในหลุมพรางของการเป็นหนี้

7.   ประนอมหนี้ (ด้วยตนเอง)

ให้เราบอกเจ้าหนี้ของเราแต่ละคนได้ทราบว่า   เรามีแผนในการชำระหนี้ที่สามารถเป็นจริงได้อย่างไร   แสดงให้เขาเห็นแผนการขจัดหนี้ของเราให้เจ้าหนี้เห็น   บอกกับเขาว่าเราไม่ต้องการ “ชักดาบ”  เราไม่ต้องการหนีอย่างไม่รับผิดชอบ  เราไม่ต้องการเป็นผู้ล้มละลาย   เพราะนั่นไม่ดีสำหรับท่านในฐานะเจ้าหนี้  และไม่ดีสำหรับผมในฐานะลูกหนี้ด้วย   สำหรับหนี้ที่ผมจะต้องผ่อนเดือนละหนึ่งหมื่นบาท   ตอนนี้ผมมีความสามารถผ่อนได้เดือนละสองพันห้าร้อยบาท   ผมต้องการที่จะชำระหนี้ที่มีจบครบ   ท่านจะกรุณาช่วยผมตามแผนการขจัดหนี้นี้ได้ไหม?

พระเจ้าจะทรงทำให้ท่านเป็นผู้ที่เจ้าหนี้โปรดปราน  เมื่อเราตั้งใจกระทำในสิ่งที่ถูกต้อง   เจ้าหนี้ส่วนใหญ่เมื่อรู้ความจริงนี้เขาจะยอมที่จะให้เราชำระหนี้ตามแผนการขจัดหนี้ที่เราเสนอ   เพราะเขาจะได้รับการชดใช้หนี้ที่มีอยู่จนครบ

8.   ทำตามแผนขจัดหนี้อย่างเคร่งครัด   

การหลุดรอดออกจากหนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย   เราต้องมีวินัยชีวิต   มีความอดทนพยายาม   แต่เราท่านสามารถทำได้   เพียงท่านจะปฏิบัติตามแผนงานขจัดหนี้อย่างจริงจังเคร่งครัด   หลักการนี้จะเกิดผล  แต่ท่านต้องลงมือทำตามแผนนั้น  ขอเน้นว่า...ท่านต้องทำอย่างเคร่งครัด...(ไม่ใช่อยู่เฉย ๆ  หรือ  คอยแต่ให้คนยกหนี้???)

พระธรรมกาลาเทีย 6:9 เขียนไว้ว่า   “อย่าให้เราอ่อนล้าในการทำดี เพราะถ้าเราไม่ย่อท้อ เราก็จะเก็บเกี่ยวในเวลาอันเหมาะสม”  (มตฐ.)  

ท่านอาจจะพบกับการทดลองให้หยุดทำตามแผนขจัดหนี้   การที่เรามีเพื่อนสนิทที่เราไว้ใจ และมีใจต้องการช่วยเรา   ให้เขาอยู่ใกล้เราเพื่อกระตุ้นเตือนให้เรายึดมั่นทำตามแผนขจัดหนี้อย่างมั่นคง  และให้กำลังใจแก่เราที่จะสัตย์ซื่อทำตามแผนขจัดหนี้  

อย่าลืมว่า  พระเจ้าทรงสนพระทัยในทุกรายละเอียดในชีวิตของท่าน   รวมถึงชีวิตในด้านการเงิน  รายรับ รายจ่าย และหนี้สิน   พระองค์ประสงค์ให้ท่านชำระหนี้ที่มีอยู่ของท่าน   และที่สำคัญคือพระองค์จะเคียงข้างและช่วยท่านในแผนการขจัดหนี้ของท่าน   เพียงท่านต้องทูลขอต่อพระองค์ในทุกกรณีที่เกิดขึ้นในแผนการขจัดหนี้นี้

พระองค์จะไม่ละทิ้งท่านให้ต้องเผชิญกับหนี้ที่มีอยู่เพียงตัวคนเดียว   พระองค์พร้อมที่จะเคียงข้างช่วยเหลือท่านในเรื่องนี้

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น