06 กรกฎาคม 2561

เป้าหมายชีวิต...ของคริสตชน

สำหรับคริสตชนแล้ว  เป้าหมายปลายทางสุดท้ายที่คริสตชนมุ่งไปให้ถึงคือ   พระประสงค์ที่พระเจ้าต้องการให้สำเร็จเกิดผลในชีวิตที่พระองค์ประทานแก่เรา  

แต่ในความเป็นจริง กว่าที่เราแต่ละคนจะไปถึงเป้าหมายปลายทางแห่งชีวิตนั้น   เราจะต้องจาริกไปบนเส้นทางชีวิตแต่ละวัน  แต่ละเดือน และ ในแต่ละปี  ซึ่งในแต่ละช่วงเวลาเราก็มีเป้าหมายชีวิตสำหรับช่วงเวลานั้น ๆ นั่นหมายความว่า ถ้าเราจะจาริกให้ไปถึงเป้าหมายปลายทาง ในแต่ละช่วงเวลาเราชีวิตต้องรู้ว่าอะไรคือเป้าหมายชีวิตในช่วงเวลานั้น  และเมื่อไปถึงเป้าหมายของช่วงเวลานั้น   เราก็จะพบก้าวเดินใหม่ที่เราจะต้องก้าวต่อไปอีก  ซึ่งเป็นการเข้าสู่อีกช่วงเวลาหนึ่ง  เราก็จะต้องชัดเจนถึงเป้าหมายของช่วงเวลาใหม่นั้น  แล้วก้าวต่อไปอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น เรากล่าวได้ว่า การที่แต่ละคนจะจาริกไปให้ถึงเป้าหมายปลายทางแห่งชีวิตนั้น จะต้องก้าวผ่านเป้าหมายเล็กเป้าหมายย่อยแต่ละช่วงเวลาที่เชื่อมต่อเนื่องกัน เป็นเหมือนการที่เราจะก้าวข้ามธารน้ำ ที่มีหินวางให้เราเหยียบจากก้อนหนึ่งไปสู่หินรองเท้าให้เราเหยียบอีกก้อนหนึ่งที่วางในลำธารนั้น   แล้วค่อย ๆ ก้าวข้ามไปในลำธารนั้นไปทีละก้าวบนหินที่รองให้เราเหยียบทีละก้อน ไปเป็นทางยาวจนกว่าเราจะถึงอีกฝั่งหนึ่งซึ่งเป็นเป้าหมายปลายทางของเรา 

หินแต่ละก้อนที่วางต่อกันอย่างต่อเนื่องนั้นเป็นเหมือนเป้าหมายย่อยของแต่ละช่วงเวลา หรือ แต่ละช่วงทางชีวิตที่เราจะต้องบรรลุหรือก้าวให้ถึงทีละก้าว บนหินทีละก้อน จนกว่าหินรองเท้าเดินข้ามลำธารนั้นพาเราไปถึงอีกฝั่งหนึ่งซึ่งเป็นเป้าหมายปลายทางที่เราต้องการไปให้ถึง

การที่เราจะบรรลุเป้าหมายปลายทาง หรือ เป้าหมายสูงสุดในชีวิต  เราจะต้องก้าวไปทีละก้าวผ่านเป้าหมายย่อยที่รายเรียงกันเป็นทางที่เราจะต้องก้าวเหยียบลงบนหินรองเท้าเดินแต่ละก้อนอย่างต่อเนื่อง 

ความจริงที่เราต้องพบและต้องตระหนักเสมออีกประการหนึ่งว่า   หินรองเท้าที่เราต้องก้าวไปทีละก้าวนั้นมิได้เป็นเส้นตรงเสมอไป  อาจะจะต้องคดเคี้ยวเลี้ยวย้อนในบางช่วง   ซึ่งบางครั้งก็ดูเหมือนว่า ไม่ได้ก้าวหน้า หรือ ยิ่งกว่านั้นดูเหมือนกำลังย้อนมาข้างหลัง  

แต่เราต้องค่อย ๆ สังเกต ค่อย ๆ เรียนรู้ และ ค่อย ๆ เข้าใจว่า   หินรองเท้าเดินไปแต่ละก้อนต้องผ่านสภาพธารน้ำที่ลึกตื้นไม่เท่ากัน   ต้องผ่านกระแสน้ำที่เชี่ยวหรือเฉื่อยไม่เหมือนกัน   นอกจากที่มีขนาดก้อนไม่เท่ากันแล้ว   ยังคดเคี้ยวไปตามเส้นทางที่เหมาะสมปลอดภัยอีกด้วย

การทรงนำของพระเจ้าเป็นเหมือนเส้นทางที่ก้อนหินรองเท้าเดินข้ามลำธารที่วางไปทีละก้อนถ้าเราตัดสินใจก้าวไปบนหินก้อนที่หนึ่งไปยังก้อนที่สอง  เราก็จะเห็นก้อนที่สามที่ชัดขึ้น และ สามารถประเมินได้ว่าเราจะก้าวต่อไปยังก้าวที่สามอย่างไร  พอก้าวไปยืนบนหินรองเท้าเดินก้อนที่สามเราก็จะเริ่มเห็นก้อนต่อไป   เป็นกระบวนการที่ก้าวไปด้วยความไว้วางใจที่ตัดสินใจเสี่ยงก้าวไปอย่างต่อเนื่อง   ทั้ง ๆ ที่เรายังไม่สามารถมองเห็นอีกฝั่งหนึ่งว่าเป็นอย่างไร   แต่เราไว้วางใจในการทรงนำของพระเจ้าเพราะแต่ละก้าวเดินเราพบหินรองเท้าเดินอีกก้อนหนึ่งที่เราสามารถก้าวต่อไป   แล้วทำให้เราสามารถก้าวอย่างต่อเนื่องได้  

พระเจ้าทรงวางย่างก้าวแต่ละก้าวไว้  เราต้องตัดสินใจที่จะวางใจในพระองค์แล้วกล้าที่จะก้าวไปสู่หินรองเท้าเดินก้อนที่อยู่ข้างหน้า ทีละก้อน  โดยไม่จำเป็นว่าเราต้องเห็นหินรองเท้าเดินตลอดเส้นทางก่อน หรือ เห็นเป้าหมายปลายทางอีกฝั่งหนึ่งอย่างชัดเจนก่อนถึงจะตัดสินใจเดินไป   

เพราะบนเส้นทางนี้เราต้องเดินไปด้วยความเชื่อศรัทธาที่ไว้ใจในการทรงนำของพระเจ้า

“พระเจ้า...วาง​เท้า​ของ​ข้าพ​เจ้า​ลง​บน​ศิลา   ทำ​ให้​ย่าง​เท้า​ของ​ข้าพ​เจ้า​มั่น​คง” (สดุดี 40:2 มตฐ.)

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น