20 กรกฎาคม 2561

ทัศนะมุมมองต่อ...ทรัพย์สิน & ความมั่งคั่งในชีวิต

คริสตชนมีทัศนะมุมมองทรัพย์สิน และความมั่งคั่งในชีวิตว่า สิ่งนี้เป็นของประทานจากพระเจ้าสำหรับชีวิตในโลกนี้ เพื่อเราจะได้ชื่นชม ใช้ประโยชน์ และมีความสุขกับการใช้ของประทานแห่งโลกนี้ในชีวิต ทั้งในชีวิตส่วนตน และชีวิตของคนรอบข้าง

พระเจ้าที่เราเชื่อและไว้วางใจ เป็นพระเจ้าที่ทรงประทานสิ่งของในโลกนี้แก่เราเพื่อเราจะได้ชื่นชมในสิ่งประทานเหล่านั้น แต่ในสภาพความจริงคือเรากลับมิได้ชื่นชมในของประทานทางโลกเหล่านั้น เพราะแทนที่เราจะขอบพระคุณและชื่นชมในของประทานเหล่านั้น เรากลับสาละวนอยู่กับการแสวงหาของเหล่านั้นเพิ่มมากยิ่ง ๆ ขึ้นจนเกิดความทุกข์ เกิดความไม่รู้จักพอสักที บางครั้งทุ่มเทแสวงหาจนทำให้ร่างกายเสื่อมโทรม หรือเกิดความวิตกกังวลมากขึ้น แต่แย่ยิ่งกว่านั้น การที่เราแสวงหามากขึ้นแบบละโมบไม่รู้จักพอกลับทำให้ความสัมพันธ์กับผู้ที่เกี่ยวข้องเลวร้ายลง และในที่สุดมันมากระทบกระเทือนต่อสัมพันธภาพที่เรามีกับพระเจ้าต้องห่างเหินเสื่อมทรามลง

1ทิโมธี 6:17 ได้ย้ำเตือนสติผู้เชื่อ เกี่ยวกับทัศนะมุมมองของเราต่อทรัพย์สมบัติว่า   ความสำคัญสูงสุดมิใช่อยู่ที่ทรัพย์สินเงินทองที่เราได้มา   แต่พระเจ้าผู้ประทานทรัพย์สินเงินทองและความมั่งคั่งต่างหากที่มีความสำคัญสูงสุดในชีวิตของเรามิใช่หรือ?  

แต่ถ้าเรามีทัศนะมุมมองว่า ทรัพย์สินเงินทองที่เราได้มานั้นสำคัญสุด   เราก็จะกลายเป็นคนที่หยิ่งผยองเพราะคิดว่าตนคือผู้ที่สามารถทำงานจนมีความมั่งคั่งเช่นนี้   พระธรรมตอนนี้ย้ำเตือนผู้เชื่อให้มุ่งหวังที่จะมีชีวิตที่ใกล้ชิดสนิทแนบกับพระเจ้าผู้เป็นแหล่งและเป็นผู้ประทานความมั่งคั่งแก่เขา   เพื่อเขาจะมีชีวิตที่มีความสุข ชื่นชมจากความมั่งคั่ง   มิใช่เทิดทูนทรัพย์สิ่งของเหล่านั้น  

เพราะนั่นจะทำให้เรายกย่องเทิดทูนทรัพย์สินมั่งคั่งเป็นพระเจ้าของเรา   และนั่นจะกลายเป็นรูปเคารพในชีวิตของเรา!

เพื่อนรุ่นพี่ของผมคนหนึ่ง  เขาทำสิ่งหนึ่งเป็นประจำทุกวันคือ   นั่งในม้านั่งที่มีที่วางแขนและเอนได้นิดหนึ่ง   เขาบอกผมว่าได้ซื้อเก้าอี้ตัวนี้จากร้านขายสินค้าราคาประหยัด   เป็นพลาสติก  อายุมากกว่า 25 ปีเข้าไปแล้ว   วางอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ในสวนของเขา   เขาจะมานั่งดูดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าในแต่ละวัน   เป็นความสุขชื่นชอบที่เขาได้รับในแต่ละวัน   ไม่จำเป็นที่ต้องเป็นเก้าอี้ราคาแพง แบรนด์แนม  หรือม้านั่งฝังเพชร  เพื่อนรุ่นพี่คนนี้ก็ได้ชื่นชมกับความสุขใจจากฝีพระหัตถ์ของพระเจ้าได้   และนี่คือความสุขชื่นชมที่ไม่มีใครจะแย่งชิงจากเขาได้

ในแต่ละวันเราคงต้องกลับมาสอบถาม ตรวจสอบตนเองว่า   อะไรที่ทำให้ฉันไม่มีความสุขชื่นชมในชีวิต?  เช่น  เมื่อเรายังหนุ่ม-สาววัยรุ่น  เราคิดว่าถ้าเรามีแฟนเราจะมีความสุขมาก เมื่อมีแฟนแล้วเราก็บอกกับตนเองว่า  ถ้าเราได้แต่งงานและใช้ชีวิตด้วยกันจะเป็นความสุขมากกว่านี้   แต่เมื่อแต่งงานอยู่ด้วยกันแล้วก็บอกกับตนเองว่า   ถ้ามีลูกเราจะมีความสุขสมบูรณ์แน่   เมื่อมีลูกแล้วเราก็คิดว่า เมื่อไหร่ลูกจะโต เรียนจบ  เป็นผู้ใหญ่ หลังจากนั้นเราจะมีความสุขที่แท้จริง   เมื่อลูกโตออกจากบ้านไปมีครอบครัวแล้ว   ปรากฏว่าเขาก็ยังไม่พบความสุขในชีวิต   ส่วนใหญ่เราตกอยู่ใน”วังวนที่ไม่มีความความสุข”   เพราะเราไปคาดหวังว่าถ้าเรามีสิ่งนั้น สิ่งนี้   ถ้าสถานการณ์เป็นอย่างนั้นอย่างนี้แล้วเราจะมีความสุข   และในที่สุดเราก็ไม่สามารถพบความสุขชื่นชมในชีวิตสักที

การที่ใครก็ตามจะมีความสุขและความชื่นบานในชีวิตอยู่ที่ว่าเขาเลือกที่จะอยู่อย่างมีสุข  เขาเลือกที่จะมีชีวิตที่จะชื่นชมยินดีในสิ่งเล็กสิ่งน้อยที่เกิดขึ้นในชีวิต   อยู่ที่เขาแต่ละคนจะเลือกระหว่าง จะมีสุข หรือ เลือกที่จะ “มีมากกว่านี้”?   ความจริงคือ ความสุขมิได้ขึ้นอยู่ที่เรามีโน่นมีนี่  หรือ สถานการณ์แวดล้อมเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้

ถ้าเราไม่มีความสุขในเวลานี้   เราก็จะไม่มีความสุขเมื่อเวลาผ่านไป

ในสลัมแห่งหนึ่งมีสองคนที่มีห้องซุกหัวนอนติดกัน คนหนึ่งมีจิตใจที่ห่อเหี่ยว ท้อแท้ สิ้นหวัง แต่อีกคนที่อยู่ข้างห้องกลับมีชีวิตอยู่อย่างสงบสุข ชื่นชมกับสิ่งเล็กสิ่งน้อยที่มีในชีวิต ความสุขชื่นชมในชีวิตมิได้ขึ้นอยู่สถานการณ์แวดล้อม   ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคนที่อยู่ด้วยว่าเป็นคนอย่างที่เราต้องการให้เป็นหรือไม่

แต่ความสุขชื่นชมในชีวิตขึ้นอยู่กับทัศนะมุมมองในชีวิตของคน ๆ นั้น   ถึงแม้คุณจะอยู่ในสถานการณ์แวดล้อมที่คนมองว่าสะดวกสบาย  อุดมสมบูรณ์  ผมยืนยันได้ว่า คุณอาจจะไม่มีความสุขชื่นชมท่ามกลางความอุดมสมบูรณ์และทันสมัย   เพราะคุณจะยังต้องการมากเพิ่มขึ้นอย่างไม่รู้จักพอ ทำให้คุณมีความต้องการไม่รู้จักจบสิ้น และนี่เองที่คุณจะไม่ได้พบความสุขชื่นชมเลยในชีวิต

ความสุขเป็นสิ่งที่ท่านจะต้องเลือกว่า ท่านจะมีชีวิตที่มีความสุขชื่นชม

เลือกที่จะชื่นชมกับสิ่งต่าง ๆ ที่พระเจ้าประทานแก่ท่านในชีวิตประจำวันตามที่พระองค์ต้องการให้ท่านมีความสุขชื่นชม   แต่สิ่งนี้เป็นไปได้ก็ต่อเมื่อเรามีความใกล้ชิดสนิทแนบกับพระเจ้าก่อน   และเห็นถึงพระคุณของพระองค์ในชีวิตของเรา  

ความสุขเป็นความชื่นชมที่เรามีความสัมพันธ์กับพระเจ้า  

ความสุขเกิดจากความสำนึกขอบพระคุณในความรักเมตตาของพระองค์   มิใช่สิ่งของ สถานการณ์ที่พระองค์ประทานให้

แล้ววันนี้เราจะเลือกมีสิ่งของต้องการ มีสถานการณ์ชีวิตที่พอใจ   หรือ เราจะเลือกติดสนิทสัมพันธ์กับพระเจ้า   และ รู้จักที่จะนับพระคุณของพระองค์ในแต่ละวัน

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น