คริสตชนมีทัศนะมุมมองทรัพย์สิน
และความมั่งคั่งในชีวิตว่า สิ่งนี้เป็นของประทานจากพระเจ้าสำหรับชีวิตในโลกนี้ เพื่อเราจะได้ชื่นชม ใช้ประโยชน์ และมีความสุขกับการใช้ของประทานแห่งโลกนี้ในชีวิต ทั้งในชีวิตส่วนตน และชีวิตของคนรอบข้าง
พระเจ้าที่เราเชื่อและไว้วางใจ เป็นพระเจ้าที่ทรงประทานสิ่งของในโลกนี้แก่เราเพื่อเราจะได้ชื่นชมในสิ่งประทานเหล่านั้น แต่ในสภาพความจริงคือเรากลับมิได้ชื่นชมในของประทานทางโลกเหล่านั้น เพราะแทนที่เราจะขอบพระคุณและชื่นชมในของประทานเหล่านั้น เรากลับสาละวนอยู่กับการแสวงหาของเหล่านั้นเพิ่มมากยิ่ง ๆ ขึ้นจนเกิดความทุกข์ เกิดความไม่รู้จักพอสักที บางครั้งทุ่มเทแสวงหาจนทำให้ร่างกายเสื่อมโทรม หรือเกิดความวิตกกังวลมากขึ้น แต่แย่ยิ่งกว่านั้น การที่เราแสวงหามากขึ้นแบบละโมบไม่รู้จักพอกลับทำให้ความสัมพันธ์กับผู้ที่เกี่ยวข้องเลวร้ายลง และในที่สุดมันมากระทบกระเทือนต่อสัมพันธภาพที่เรามีกับพระเจ้าต้องห่างเหินเสื่อมทรามลง
1ทิโมธี 6:17 ได้ย้ำเตือนสติผู้เชื่อ
เกี่ยวกับทัศนะมุมมองของเราต่อทรัพย์สมบัติว่า
ความสำคัญสูงสุดมิใช่อยู่ที่ทรัพย์สินเงินทองที่เราได้มา
แต่พระเจ้าผู้ประทานทรัพย์สินเงินทองและความมั่งคั่งต่างหากที่มีความสำคัญสูงสุดในชีวิตของเรามิใช่หรือ?
แต่ถ้าเรามีทัศนะมุมมองว่า
ทรัพย์สินเงินทองที่เราได้มานั้นสำคัญสุด
เราก็จะกลายเป็นคนที่หยิ่งผยองเพราะคิดว่าตนคือผู้ที่สามารถทำงานจนมีความมั่งคั่งเช่นนี้
พระธรรมตอนนี้ย้ำเตือนผู้เชื่อให้มุ่งหวังที่จะมีชีวิตที่ใกล้ชิดสนิทแนบกับพระเจ้าผู้เป็นแหล่งและเป็นผู้ประทานความมั่งคั่งแก่เขา เพื่อเขาจะมีชีวิตที่มีความสุข ชื่นชมจากความมั่งคั่ง มิใช่เทิดทูนทรัพย์สิ่งของเหล่านั้น
เพราะนั่นจะทำให้เรายกย่องเทิดทูนทรัพย์สินมั่งคั่งเป็นพระเจ้าของเรา และนั่นจะกลายเป็นรูปเคารพในชีวิตของเรา!
เพื่อนรุ่นพี่ของผมคนหนึ่ง เขาทำสิ่งหนึ่งเป็นประจำทุกวันคือ นั่งในม้านั่งที่มีที่วางแขนและเอนได้นิดหนึ่ง
เขาบอกผมว่าได้ซื้อเก้าอี้ตัวนี้จากร้านขายสินค้าราคาประหยัด เป็นพลาสติก
อายุมากกว่า 25 ปีเข้าไปแล้ว วางอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ในสวนของเขา เขาจะมานั่งดูดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าในแต่ละวัน เป็นความสุขชื่นชอบที่เขาได้รับในแต่ละวัน ไม่จำเป็นที่ต้องเป็นเก้าอี้ราคาแพง
แบรนด์แนม หรือม้านั่งฝังเพชร
เพื่อนรุ่นพี่คนนี้ก็ได้ชื่นชมกับความสุขใจจากฝีพระหัตถ์ของพระเจ้าได้ และนี่คือความสุขชื่นชมที่ไม่มีใครจะแย่งชิงจากเขาได้
ในแต่ละวันเราคงต้องกลับมาสอบถาม
ตรวจสอบตนเองว่า
อะไรที่ทำให้ฉันไม่มีความสุขชื่นชมในชีวิต? เช่น
เมื่อเรายังหนุ่ม-สาววัยรุ่น
เราคิดว่าถ้าเรามีแฟนเราจะมีความสุขมาก เมื่อมีแฟนแล้วเราก็บอกกับตนเองว่า ถ้าเราได้แต่งงานและใช้ชีวิตด้วยกันจะเป็นความสุขมากกว่านี้
แต่เมื่อแต่งงานอยู่ด้วยกันแล้วก็บอกกับตนเองว่า ถ้ามีลูกเราจะมีความสุขสมบูรณ์แน่ เมื่อมีลูกแล้วเราก็คิดว่า เมื่อไหร่ลูกจะโต
เรียนจบ เป็นผู้ใหญ่
หลังจากนั้นเราจะมีความสุขที่แท้จริง
เมื่อลูกโตออกจากบ้านไปมีครอบครัวแล้ว
ปรากฏว่าเขาก็ยังไม่พบความสุขในชีวิต
ส่วนใหญ่เราตกอยู่ใน”วังวนที่ไม่มีความความสุข” เพราะเราไปคาดหวังว่าถ้าเรามีสิ่งนั้น
สิ่งนี้
ถ้าสถานการณ์เป็นอย่างนั้นอย่างนี้แล้วเราจะมีความสุข และในที่สุดเราก็ไม่สามารถพบความสุขชื่นชมในชีวิตสักที
การที่ใครก็ตามจะมีความสุขและความชื่นบานในชีวิตอยู่ที่ว่าเขาเลือกที่จะอยู่อย่างมีสุข เขาเลือกที่จะมีชีวิตที่จะชื่นชมยินดีในสิ่งเล็กสิ่งน้อยที่เกิดขึ้นในชีวิต อยู่ที่เขาแต่ละคนจะเลือกระหว่าง จะมีสุข หรือ
เลือกที่จะ “มีมากกว่านี้”? ความจริงคือ
ความสุขมิได้ขึ้นอยู่ที่เรามีโน่นมีนี่
หรือ สถานการณ์แวดล้อมเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้
ถ้าเราไม่มีความสุขในเวลานี้ เราก็จะไม่มีความสุขเมื่อเวลาผ่านไป
ในสลัมแห่งหนึ่งมีสองคนที่มีห้องซุกหัวนอนติดกัน
คนหนึ่งมีจิตใจที่ห่อเหี่ยว ท้อแท้ สิ้นหวัง แต่อีกคนที่อยู่ข้างห้องกลับมีชีวิตอยู่อย่างสงบสุข
ชื่นชมกับสิ่งเล็กสิ่งน้อยที่มีในชีวิต ความสุขชื่นชมในชีวิตมิได้ขึ้นอยู่สถานการณ์แวดล้อม ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคนที่อยู่ด้วยว่าเป็นคนอย่างที่เราต้องการให้เป็นหรือไม่
แต่ความสุขชื่นชมในชีวิตขึ้นอยู่กับทัศนะมุมมองในชีวิตของคน
ๆ นั้น ถึงแม้คุณจะอยู่ในสถานการณ์แวดล้อมที่คนมองว่าสะดวกสบาย อุดมสมบูรณ์
ผมยืนยันได้ว่า คุณอาจจะไม่มีความสุขชื่นชมท่ามกลางความอุดมสมบูรณ์และทันสมัย เพราะคุณจะยังต้องการมากเพิ่มขึ้นอย่างไม่รู้จักพอ
ทำให้คุณมีความต้องการไม่รู้จักจบสิ้น และนี่เองที่คุณจะไม่ได้พบความสุขชื่นชมเลยในชีวิต
ความสุขเป็นสิ่งที่ท่านจะต้องเลือกว่า
ท่านจะมีชีวิตที่มีความสุขชื่นชม
เลือกที่จะชื่นชมกับสิ่งต่าง
ๆ ที่พระเจ้าประทานแก่ท่านในชีวิตประจำวันตามที่พระองค์ต้องการให้ท่านมีความสุขชื่นชม แต่สิ่งนี้เป็นไปได้ก็ต่อเมื่อเรามีความใกล้ชิดสนิทแนบกับพระเจ้าก่อน และเห็นถึงพระคุณของพระองค์ในชีวิตของเรา
ความสุขเป็นความชื่นชมที่เรามีความสัมพันธ์กับพระเจ้า
ความสุขเกิดจากความสำนึกขอบพระคุณในความรักเมตตาของพระองค์ มิใช่สิ่งของ สถานการณ์ที่พระองค์ประทานให้
แล้ววันนี้เราจะเลือกมีสิ่งของต้องการ
มีสถานการณ์ชีวิตที่พอใจ หรือ
เราจะเลือกติดสนิทสัมพันธ์กับพระเจ้า และ
รู้จักที่จะนับพระคุณของพระองค์ในแต่ละวัน
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น