29 เมษายน 2563

สงครามทางจิตวิญญาณในอาชีพการงาน

ท่านเคยประสบพบเจอกับ “สงครามในอาชีพการงานที่ทำ” ไหม? ผมพบอยู่บ่อยครับ!

ในฐานะคริสตชนคนทำงานเราเชื่อว่า “สงครามในอาชีพการงาน” มันไม่ใช่การสู้รบปรบมือระหว่างเจ้านายกับลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน หรือ คนในทีมงานเท่านั้น แต่เรามองลึกถึงผู้ที่ “ชักใย” อยู่เบื้องหลังในความขัดแย้งหรือสงครามนั้นคือใครกันแน่?

ซาตาน คือคนชักใยเบื้องหลังที่สำคัญ ที่ว่าสำคัญเพราะมันไม่ได้ลงมือจัดการหรือปรากฏตัวของมันชัดเจน แต่มันคือผู้สร้างความขัดแย้งตัวจริง สร้างความท้อแท้ หมดกำลังใจ จนถึงกับยอมแพ้ มารทำงานของมันผ่านผู้คนรอบข้างในชีวิตของเรา ทำให้เรามองเป็นว่า เรากำลังขัดแย้งกับบางคนที่ทำงานด้วยกัน เช่น กับเจ้านายกับลูกน้อง...   ซาตานมันทำงานผ่านคนต่าง ๆ โดยใช้ความอ่อนด้อย ความเห็นแก่ตัว การเอารัดเอาเปรียบ และ ฯลฯ ของผู้คนเหล่านั้น เพื่อทำให้เราสิ้นหวัง หมดกำลังใจในชีวิตการงานของเรา

ดังนั้น เราจำเป็นจะต้องรู้เท่าทัน และ ตระหนักชัดถึงความจริงของสงครามทางจิตวิญญาณในอาชีพการงานของเรา  ให้เราถอดบทเรียนรู้จากเรื่องราวของโยบในพระคัมภีร์ ซึ่งมีบทเรียนรู้สำคัญในเรื่องนี้ 7 ประการด้วยกันคือ ...

1. การครอบครองของพระเจ้ามีอำนาจเหนือกว่ามารซาตานในสงครามทางจิตวิญญาณ

ในเรื่องนี้ ผู้ที่นำเรื่องของโยบขึ้นมาคือพระเจ้ามิใช่ซาตาน พระเจ้าผู้ทรงไว้ซึ่งพระปัญญา พระองค์จะต้องมีเหตุผลที่นำเรื่องนี้สู่ความขัดแย้ง

2. แม้แต่คนชอบธรรมก็ยังต้องเผชิญหน้ากับการต่อสู้ (สงคราม) ที่น่ากลัว  

ปัจจุบันนี้หลายธรรมมาสน์เทศนาที่ปฏิเสธสัจจะประการนี้ พระคัมภีร์มิได้เปิดเผยความจริงเบื้องหลังที่พระเจ้ายอมให้ซาตานกระหน่ำโจมตีคนของพระองค์จนต้องได้รับความเจ็บปวดอย่างมากในชีวิต เพียงกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตของโยบเท่านั้น

3. ซาตานลงมือทำร้ายทำลายอย่างล้างผลาญ 

เราเห็นสิ่งนี้ในบทนำของเรื่อง ซาตานทำลายล้างฝูงสัตว์ทั้งสิ้นของโยบ ทำลายคนรับใช้ของโยบ และคนในครอบครัวของโยบ ซาตานทำการทำลายล้างทุกอย่าง

4. ซาตานสามารถทำได้แค่ในขอบเขตที่พระเจ้าอนุญาตเท่านั้น  

ซึ่งถ้าพระเจ้ายอมให้ซาตานเอาชีวิตของโยบ มันก็คงฆ่าทำลายชีวิตของโยบอย่างแน่นอน แต่ซาตานไม่สามารถทำนอกขอบเขตที่พระเจ้าได้จำกัดไว้  

5. ซาตานรู้ถึงความจำกัดของมันเอง  

ซาตานรู้ว่ามันไม่สามารถที่จะทำนอกเหนือที่พระเจ้ายอมให้มันทำ มันรู้เขตแดนกำหนดว่ามันทำได้แค่ไหน  “พระองค์ทรงล้อมรั้วป้องกันเขา(โยบ)และครอบครัวกับทรัพย์สินทุกอย่างของเขาไม่ใช่หรือ? (โยบ 1:10 อมธ.)   

6. ซาตานท้าทายในเรื่องการรู้ลึกซึ้งถึงจิตใจของมนุษย์ของพระเจ้า 

เมื่อพระเจ้าพูดถึงโยบว่า “ทั่วโลกนี้ไม่มีใครเหมือนเขา(โยบ) เขาเป็นคนดีเพียบพร้อม เที่ยงธรรม ยำเกรงพระเจ้า และหลีกห่างจากความชั่ว” (1:8 อมธ.) ซาตานพูดย้อนกลับพระเจ้าว่า “โยบยำเกรงพระเจ้าโดยไม่หวังผลประโยชน์อะไรเลยหรือ?” (ข้อ 9) “พระองค์ทรงล้อมรั้วป้องกันเขาและครอบครัวกับทรัพย์สินทุกอย่างของเขาไม่ใช่หรือ? พระองค์ทรงอวยพรกิจการทุกอย่างที่เขาทำ ดังนั้นฝูงสัตว์ทั้งหลายของเขาจึงขยายทั่วแผ่นดิน ลองพระองค์ยื่นพระหัตถ์ออกทำลายทรัพย์สินทุกอย่างของเขาสิ รับรองว่าเขาจะแช่งด่าพระองค์ต่อหน้าเลยทีเดียว” (ข้อ 10-11) ซาตานมันท้าทายพระเจ้าว่า พระเจ้าไม่รู้ถึงก้นบึ้งแห่งจิตใจที่แท้จริงของโยบ แต่มันรู้ได้อย่างลุ่มลึกกว่าพระเจ้า

7. ซาตานทำงานของมันผ่านคนอื่นที่พยายามทำให้คนที่สัตย์ซื่อของพระเจ้าท้อแท้ ผิดหวัง หมดกำลังใจ จนยอมพ่ายแพ้  

ในเรื่องราวของโยบ บุคคลแรกที่ซาตานทำงานของมันคือทำผ่านภรรยาของโยบ ภรรยาของโยบกล่าวกับโยบว่า “ท่านยังจะซื่อสัตย์ภักดีต่อพระเจ้าอยู่อีกหรือ? จงแช่งด่าพระเจ้าแล้วก็ตายเสียเถอะ!” (2:9 อมธ.) จากนั้น ซาตานก็ทำงานผ่านกลุ่มเพื่อนที่มีปัญหา(ที่ภายนอกมีภาพลักษณ์ว่ามีปัญญา)ของโยบ  

บางทีประเด็นนี้เป็นประเด็นที่สำคัญที่สุดสำหรับเราท่านทุกคน ชัยชนะในสงครามทางจิตวิญญาณไม่สามารถที่จะปฏิเสธ “ความเจ็บปวด” ในชีวิตจากการทำสงครามการงาน แต่ความเจ็บปวดในชีวิตดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในการยกย่อง สรรเสริญ และนมัสการพระเจ้า เป็นการที่เราไว้วางใจในพระเจ้าทุกหนทางอย่างไร้เงื่อนไขท่ามกลางความขัดแย้งที่เกิดขึ้น จงสรรเสริญพระเจ้าทั้งในยามทุกข์ทรมานที่ได้รับจากการต่อสู้ และ ปฏิเสธที่จะกล่าวร้ายต่อพระเจ้า  “ในเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ โยบไม่ได้ทำบาปโดยกล่าวโทษพระเจ้าเลย” (1:22)

ให้เรารู้เท่าทันว่า องค์สูงสุดที่ยอมให้ศัตรูจู่โจมทำร้ายเรา พระองค์คือองค์สูงสุดที่สู้ร่วมกับเรา จงไว้วางใจและเชื่อฟังพระองค์ จงก้าวทุกย่างก้าวในการต่อสู้ศัตรู ที่ต้องการทำให้เราสิ้นหวัง หมดกำลังใจในชีวิต จนต้องพ่ายแพ้ในชีวิต แล้วยุให้เราหันกลับไปต่อสู้กับพระผู้ทรงสร้างเราในที่สุด

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น