เมื่อเริ่มต้นปีใหม่ทุกปี คริสตจักร ศิษยาภิบาล ผู้นำคริสตจักรมักจะพูดถึงการจัดทำ “ปณิธานสำหรับปีใหม่” แล้วก็กำหนดเป้าหมายที่จะทำกันในช่วงท้ายเดือนธันวาคม สิ่งนี้เป็นสิ่งดี แต่ที่เราพบเป็นประจำทุกปี มักเป็นปณิธาน และ เป้าหมายที่พูดถึงไม่เกินเดือนเมษายน แล้วก็เงียบ หรือ เลิกพูดถึง เพราะไม่ได้ทำตามปณิธาน และเป้าหมายที่วางไว้
กลายเป็น
“ปณิธาน ที่ อันตรธาน”
ในปี 2021 นี้ แทนที่จะมีเพียงปณิธานปี 2021 แล้วก็ไม่ได้ทำให้เป็นไปตามที่ตั้งไว้ ขอเสนอให้เราพิจารณาการทำพันธกิจ 5 ขั้นตอน จากนั้นค่อย ๆ ทำให้แต่ละขั้นตอนก้าวไปให้สำเร็จเป็นรูปธรรม และมีโอกาสที่จะทบทวนไตร่ตรองในแต่ละขั้นตอนว่า
เราได้เห็นพระเจ้าทรงกระทำพระราชกิจอะไรบ้างในการขับเคลื่อนพันธกิจในคริสตจักรของเรา
ตาม 5 ขั้นตอนข้างล่างนี้...
1. เลือกทำพันธกิจที่เราได้รับมอบหมายจากพระคริสต์
แทนพันธกิจที่เราอยากทำ
2. ยืนหยัดมุ่งเน้นให้ชีวิตของตนเป็นสาวกของพระคริสต์อย่างแท้จริง
3. มุ่งมั่นใส่ใจจิตวิญญาณของทีมผู้นำของคริสตจักร
แทนการมุ่งสนใจให้เกิดผลงาน
4. มุ่งมั่นทุ่มเทใส่ใจชีวิตจิตวิญญาณของสมาชิกแต่ละคน
5. มุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนจากสมาชิกที่คอย
“รับ” ไปเป็นสาวกพระคริสต์ที่ “ให้และมีส่วนร่วม”
1. เลือกทำพันธกิจที่เราได้รับมอบหมายจากพระคริสต์
แทนพันธกิจที่เราอยากทำ
เมื่อเราตั้งปณิธานในปีใหม่
เรามักมุ่งเน้นไปที่ “สิ่งที่เราจะทำ”
แต่ผมคิดว่าน่าจะเป็นการที่เรามุ่งเน้นไปที่ “พระคริสต์กำลังทำอะไรเพื่อเรา”
มากกว่า จากนั้นเราคอยสังเกตว่าพระเจ้าทรงมอบหมายพันธกิจอะไรให้เรารับผิดชอบ
ในฐานะผู้นำในการทำพันธกิจ
สำคัญอย่างมากที่เราจะต้องมุ่งเน้นไปที่ “การได้รับมอบหมายพันธกิจจากพระคริสต์”
ก่อนที่เราจะ “ทำพันธกิจในชีวิตของเรา”
บ่อยครั้งที่เรายอมให้การทำงาน
“เพื่อพระเจ้า” ของเราทำลายพันธกิจของพระองค์ในตัวเรา
และเป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์ที่เราคิดว่าการทำพันธกิจเพื่อพระเจ้ามีความสำคัญอย่างมากต่อการมีชีวิตในพระคริสต์
พระเจ้าไม่จำเป็นที่จะต้องมีเราในการทำพันธกิจเพื่อพระองค์
แต่พระองค์เปิดโอกาสให้เราได้เข้าไปมีส่วนร่วมในพระประสงค์แห่งการกอบกู้และไถ่ถอนของพระองค์เพราะพระองค์ทรงรักเรา
และความรักที่มากล้นนั้นคือการที่พระองค์กระทำพันธกิจของพระองค์ผ่านชีวิตของเรา
ดังนั้นเราจะต้องยึดมั่นที่จะมุ่งเน้นที่ความสัมพันธ์อันล้ำลึกระหว่างตัวเราเองกับพระคริสต์
และนี่คือ “น้ำพระทัย”
ของพระเจ้าที่มีต่อเรา พระองค์ทรงกระทำสิ่งต่าง ๆ เพราะพระองค์รักเรา
แต่บ่อยครั้งเราละเลยหลงลืมความรักแท้ของพระเจ้าที่มีต่อเรา คือต้องการให้เรากับพระองค์มีความสัมพันธ์ที่สนิทชิดเชื้อกัน
แทนที่เราจะ “ทำอะไรบางอย่างเพื่อพระองค์” เพื่อพระองค์จะรักเรา แต่ความรักแท้ของพระองค์ประสงค์ให้เราอยู่ใกล้ชิดกับพระองค์
เมื่อเราพยายามทำพันธกิจเพื่อพระเจ้า
การทำพันธกิจเช่นนั้นนำมาซึ่ง “การสิ้นแรงหมดพลังชีวิต” สิ่งที่เราทำกลายเป็นรูปเคารพ
เพราะเราให้ความสำคัญแก่การทำพันธกิจเหนือสัมพันธภาพใกล้ชิดกับพระเจ้า และมักทำให้เราโอหังลำพองตน
คิดว่าตนสำคัญเพราะตนได้ทำพันธกิจเพื่อพระเจ้า
การที่เราเลือกที่จะมีชีวิตอยู่ใกล้ชิดสนิทกับพระเจ้านำเราเข้าสู่การมีจิตใจที่จะนมัสการ
เทิดทูน ยกย่องสรรเสริญพระองค์ พระเจ้าต้องการให้เรายึดมั่นในพระองค์ เพราะพระองค์ทรงเป็นเจ้าของชีวิตของเราและค้ำชูชีวิตของเราไว้
ให้พันธกิจที่เราทำสำแดงชัดเจนถึงหมายสำคัญของการสถิตอยู่ หรือ
การประทับอยู่ด้วยของพระเจ้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น