05 เมษายน 2564

จะพลิกฟื้นจากความท้อแท้และผิดหวังในชีวิตอย่างไร?

ท่านเคยสิ้นหวัง หรือ หมดหวังในพระเจ้าไหม? ท่านเคยรู้สึกว่าพระเจ้าทำให้ท่านท้อแท้ สิ้นแรง ผิดหวัง  หรือ พระเจ้าทำให้ท่านล้มเหลวหรือไม่?

สาวกสองคนของพระเยซูคริสต์ในศตวรรษแรกที่ถอดใจเดินทางออกจากเยรูซาเล็มกลับไปบ้านเอมมาอูส ท้อแท้สิ้นหวังเพราะผิดหวังที่พระเยซูไม่ได้เป็นพระเมสิยาห์อย่างที่เขาคาดคิด เพราะถูกจับตรึงประหารชีวิตที่กางเขน และนี่คือจุดจบแห่งความหวังของเขา ถึงแม้เขาจะได้ยินข่าวแว่วมาจากบางคนว่า มีคนเห็นพระเยซูคริสต์ได้เป็นขึ้นจากความตายและปรากฏตัวแก่เขาก็ตาม แต่ตัวเขาเองไม่ได้พบกับการปรากฏตัวของพระเยซูคริสต์ด้วยตนเอง

แต่ระหว่างการเดินทางกลับเอมมาอูส ได้มีชายแปลกหน้าเดินมาร่วมในการเดินทางไปด้วย ในพระคัมภีร์บอกว่าเป็นพระเยซูที่มาร่วมเดินทางกับเขาทั้งสอง แต่เขาทั้งสองกลับจำไม่ได้ว่าเป็นพระองค์

พระเยซูทักทั้งสองว่า “ทำไมท่านทั้งสองจึงดูมีหน้าตาเศร้าหมอง  มีอะไรเกิดขึ้นหรือ?”

ชายทั้งสองย้อนตอบชายแปลกหน้าว่า ท่านมาจากเยรูซาเล็มไม่ใช่หรือ ท่านไปอยู่ที่ไหนมาที่ไม่รู้เรื่องราวข่าวใหญ่ที่เกิดขึ้นในสองสามวันที่ผ่านมาหรือ (ลูกา 24:18)

พระเยซูย้อนถามว่า “เกิดเรื่องอะไรหรือ?” (ข้อ 19) ชายทั้งสองจึงเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแก่พระเยซูคริสต์ให้ชายแปลกหน้า(พระเยซูคริสต์)ฟัง

พระองค์กล่าวตำหนิเขาทั้งสองว่า “โอ คนโง่เขลาและมีใจเฉื่อยช้าในการเชื่อถ้อยคำซึ่งพวกผู้เผยพระวจนะกล่าวไว้นั้น พระคริสต์จำเป็นต้องทนทุกข์อย่างนั้นแล้วจึงเข้าในพระสิริของพระองค์ไม่ใช่หรือ?” (ข้อ 25-26 มตฐ.)

แล้วพระเยซูคริสต์เริ่มอธิบายลำดับเหตุการณ์คำสอนในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมที่บ่งชี้ถึงการสิ้นชีวิตของพระเยซูคริสต์และได้สำเร็จเป็นจริงอย่างที่เกิดขึ้น

จนกระทั่งสิ้นสุดการเดินทาง ทั้งสองกลับมาถึงบ้านของเขา  แขกแปลกหน้า (พระเยซูคริสต์) ดูเหมือนจะเดินทางต่อไป เขาทั้งสองเชิญแขกคนดังกล่าวให้รับประทานอาหารร่วมกับตนก่อน เมื่อรับประทานอาหาร  แขกแปลกหน้า (พระเยซูคริสต์) ได้หยิบขนมปังขึ้นมา ขอบพระคุณพระเจ้า แล้วหักขนมปังแบ่งให้เขาทั้งสอง ทันใดนั้นทั้งสองก็จำได้ว่า คนนี้เป็นพระเยซูคริสต์นี่นา แล้วพระเยซูคริสต์ก็หายไปจากสายตาของเขาทั้งสอง

จากเรื่องราวข้างต้นนี้กระตุ้นเตือนให้เราตระหนักชัดว่า พระวจนะของพระเจ้าจะมีพลังที่จะกอบกู้นำเรากลับมาสู่ชีวิตจิตวิญญาณที่มีพลังแข็งแรงขึ้นอีกครั้งหนึ่ง และประสบการณ์ที่ผู้เชื่อเคยมีกับพระเยซูคริสต์ที่ผ่านมาก็จะทำให้ผู้เชื่อได้ระลึกถึงพระราชกิจที่พระองค์เคยกระทำในชีวิตของตน และนี่จะเป็นกระบวนการพลิกฟื้นความเชื่อศรัทธาของผู้เชื่อกลับมายืนหยัดมั่นคงอีกครั้งหนึ่ง  ส่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของสาวกพระคริสต์ทั้งสองคือ...

“ใจเรารุ่มร้อนภายในเมื่อพระองค์ตรัสตามทาง และ
เมื่อทรงอธิบายพระคัมภีร์ให้เราฟังไม่ใช่หรือ?” 
...
เขาทั้งสองก็ลุกขึ้นในเวลานั้น แล้วกลับไปที่กรุงเยรูซาเล็ม
และพบว่าพวกสาวกสิบเอ็ดคนชุมนุมกันอยู่พร้อมกับพรรคพวก กำลังพูดกันว่า

“องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นขึ้นมาแล้วจริง ๆ และทรงปรากฏแก่ซีโมน”
สองคนนั้นจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นตามทาง และเรื่องที่เขารู้จักพระองค์โดยการหักขนมปังนั้น (ลูกา 24:32; 33-35 มตฐ.)

เมื่อเราอ่านพระวจนะของพระเจ้า พระวจนะนั้นได้หนุนเสริมเพิ่มพลังชีวิตที่จะยืนหยัดมั่นคงขึ้นในพระเจ้าหรือไม่? เมื่อท่านเข้าร่วมพิธีมหาสนิทได้ทำให้ท่านเห็นพระคริสต์และระลึกถึงพระราชกิจของพระองค์ในชีวิตของท่านหรือเปล่า? 

หรือที่ผ่านมาเราทำเป็นพิธีกรรมที่คิดว่าต้องทำเท่านั้น?

 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น