ท่านเคยสิ้นหวัง หรือ หมดหวังในพระเจ้าไหม? ท่านเคยรู้สึกว่าพระเจ้าทำให้ท่านท้อแท้ สิ้นแรง ผิดหวัง หรือ พระเจ้าทำให้ท่านล้มเหลวหรือไม่?
สาวกสองคนของพระเยซูคริสต์ในศตวรรษแรกที่ถอดใจเดินทางออกจากเยรูซาเล็มกลับไปบ้านเอมมาอูส
ท้อแท้สิ้นหวังเพราะผิดหวังที่พระเยซูไม่ได้เป็นพระเมสิยาห์อย่างที่เขาคาดคิด เพราะถูกจับตรึงประหารชีวิตที่กางเขน
และนี่คือจุดจบแห่งความหวังของเขา ถึงแม้เขาจะได้ยินข่าวแว่วมาจากบางคนว่า มีคนเห็นพระเยซูคริสต์ได้เป็นขึ้นจากความตายและปรากฏตัวแก่เขาก็ตาม
แต่ตัวเขาเองไม่ได้พบกับการปรากฏตัวของพระเยซูคริสต์ด้วยตนเอง
แต่ระหว่างการเดินทางกลับเอมมาอูส
ได้มีชายแปลกหน้าเดินมาร่วมในการเดินทางไปด้วย ในพระคัมภีร์บอกว่าเป็นพระเยซูที่มาร่วมเดินทางกับเขาทั้งสอง
แต่เขาทั้งสองกลับจำไม่ได้ว่าเป็นพระองค์
พระเยซูทักทั้งสองว่า “ทำไมท่านทั้งสองจึงดูมีหน้าตาเศร้าหมอง มีอะไรเกิดขึ้นหรือ?”
ชายทั้งสองย้อนตอบชายแปลกหน้าว่า
ท่านมาจากเยรูซาเล็มไม่ใช่หรือ ท่านไปอยู่ที่ไหนมาที่ไม่รู้เรื่องราวข่าวใหญ่ที่เกิดขึ้นในสองสามวันที่ผ่านมาหรือ
(ลูกา 24:18)
พระเยซูย้อนถามว่า “เกิดเรื่องอะไรหรือ?”
(ข้อ 19) ชายทั้งสองจึงเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแก่พระเยซูคริสต์ให้ชายแปลกหน้า(พระเยซูคริสต์)ฟัง
พระองค์กล่าวตำหนิเขาทั้งสองว่า
“โอ คนโง่เขลาและมีใจเฉื่อยช้าในการเชื่อถ้อยคำซึ่งพวกผู้เผยพระวจนะกล่าวไว้นั้น พระคริสต์จำเป็นต้องทนทุกข์อย่างนั้นแล้วจึงเข้าในพระสิริของพระองค์ไม่ใช่หรือ?”
(ข้อ 25-26 มตฐ.)
แล้วพระเยซูคริสต์เริ่มอธิบายลำดับเหตุการณ์คำสอนในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมที่บ่งชี้ถึงการสิ้นชีวิตของพระเยซูคริสต์และได้สำเร็จเป็นจริงอย่างที่เกิดขึ้น
จนกระทั่งสิ้นสุดการเดินทาง
ทั้งสองกลับมาถึงบ้านของเขา แขกแปลกหน้า
(พระเยซูคริสต์) ดูเหมือนจะเดินทางต่อไป เขาทั้งสองเชิญแขกคนดังกล่าวให้รับประทานอาหารร่วมกับตนก่อน
เมื่อรับประทานอาหาร แขกแปลกหน้า
(พระเยซูคริสต์) ได้หยิบขนมปังขึ้นมา ขอบพระคุณพระเจ้า แล้วหักขนมปังแบ่งให้เขาทั้งสอง
ทันใดนั้นทั้งสองก็จำได้ว่า คนนี้เป็นพระเยซูคริสต์นี่นา แล้วพระเยซูคริสต์ก็หายไปจากสายตาของเขาทั้งสอง
จากเรื่องราวข้างต้นนี้กระตุ้นเตือนให้เราตระหนักชัดว่า
พระวจนะของพระเจ้าจะมีพลังที่จะกอบกู้นำเรากลับมาสู่ชีวิตจิตวิญญาณที่มีพลังแข็งแรงขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
และประสบการณ์ที่ผู้เชื่อเคยมีกับพระเยซูคริสต์ที่ผ่านมาก็จะทำให้ผู้เชื่อได้ระลึกถึงพระราชกิจที่พระองค์เคยกระทำในชีวิตของตน
และนี่จะเป็นกระบวนการพลิกฟื้นความเชื่อศรัทธาของผู้เชื่อกลับมายืนหยัดมั่นคงอีกครั้งหนึ่ง
ส่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของสาวกพระคริสต์ทั้งสองคือ...
“ใจเรารุ่มร้อนภายในเมื่อพระองค์ตรัสตามทาง
และ
เมื่อทรงอธิบายพระคัมภีร์ให้เราฟังไม่ใช่หรือ?”
...
เขาทั้งสองก็ลุกขึ้นในเวลานั้น
แล้วกลับไปที่กรุงเยรูซาเล็ม
และพบว่าพวกสาวกสิบเอ็ดคนชุมนุมกันอยู่พร้อมกับพรรคพวก
กำลังพูดกันว่า
“องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นขึ้นมาแล้วจริง
ๆ และทรงปรากฏแก่ซีโมน”
สองคนนั้นจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นตามทาง
และเรื่องที่เขารู้จักพระองค์โดยการหักขนมปังนั้น (ลูกา 24:32;
33-35 มตฐ.)
เมื่อเราอ่านพระวจนะของพระเจ้า
พระวจนะนั้นได้หนุนเสริมเพิ่มพลังชีวิตที่จะยืนหยัดมั่นคงขึ้นในพระเจ้าหรือไม่? เมื่อท่านเข้าร่วมพิธีมหาสนิทได้ทำให้ท่านเห็นพระคริสต์และระลึกถึงพระราชกิจของพระองค์ในชีวิตของท่านหรือเปล่า?
หรือที่ผ่านมาเราทำเป็นพิธีกรรมที่คิดว่าต้องทำเท่านั้น?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น